โดนัลด์ ทรัมป์ปลุกสงครามการค้ากับสหภาพยุโรปขึ้นอีกครั้ง โดยขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้า 50% และมุ่งเป้าไปที่สินค้าสมาร์ทโฟน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (Photo by WIN MCNAMEE / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 กล่าวว่า สงครามการค้าระลอกใหม่ส่อเค้าปะทุขึ้นอีก เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้า 50% ต่อสินค้าจากสหภาพยุโรป
ทรัมป์ยังขู่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟน รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ อย่างแอปเปิล โดยระบุว่าจะขึ้นภาษีนำเข้า 25% หากผู้ผลิตไม่ย้ายฐานการผลิตมาที่สหรัฐฯ
ตลาดหุ้นร่วงลงทันทีจากการประกาศของผู้นำสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจโลกจะปั่นป่วน หลังจากค่อนข้างสงบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพราะการบรรลุข้อตกลงกับจีนและอังกฤษ
ทรัมป์หยิบยกประเด็นภาษีนำเข้าของสหภาพยุโรปขึ้นมาเป็นประเด็นแรกในโพสต์ช่วงเช้าตรู่บนเครือข่าย Truth Social ของเขา
ทรัมป์กล่าวว่า "การหารือกับพวกเขาไม่มีความคืบหน้าเลย ดังนั้น ผมจึงนำเสนอให้เก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปโดยตรง 50% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2025"
ในเวลาต่อมา ทรัมป์ได้ย้ำอีกครั้ง โดยบอกกับสื่อมวลชนที่ห้องทำงานรูปไข่ว่า ไม่มีอะไรที่กลุ่มประเทศ 27 ชาติจะทำเพื่อเปลี่ยนใจเขาได้
"ผมไม่ได้มองหาข้อตกลง ผมหมายความว่าเราได้กำหนดข้อตกลงไว้แล้ว ข้อตกลงอยู่ที่ 50% เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ปฏิบัติต่อประเทศของเราอย่างเหมาะสม พวกเขารวมกลุ่มกันเพื่อเอาเปรียบเรา" ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์ มหาเศรษฐีเจ้าของอสังหาริมทรัพย์วัย 78 ปี ปฏิเสธเช่นกันว่าภาษีของเขาจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของอเมริกา
หากมีการเรียกเก็บภาษีใหม่ของทรัมป์ จะทำให้อัตราภาษีพื้นฐานของรัฐบาลวอชิงตันในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างมาก และจะจุดชนวนความตึงเครียดระหว่างประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกกับกลุ่มการค้าที่ใหญ่ที่สุดของโลก
หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการค้าของสหภาพยุโรปกล่าวว่าสหภาพยุโรปจะดำเนินการเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐอเมริกาโดยยึดหลัก "ความเคารพ" ไม่ใช่ "การคุกคาม"
ในข้อความแยกต่างหากที่โพสต์เมื่อวันศุกร์ ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลเช่นกัน ทรัมป์ตำหนิทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล ที่ไม่ยอมย้ายการผลิตไอโฟนมายังสหรัฐฯ แม้จะมีการร้องขอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทรัมป์กล่าวว่าเขาได้แจ้งทิม คุก เกี่ยวกับฐานการผลิตของแอปเปิลไปเมื่อนานมาแล้ว โดยบอกให้พวกเขาตระหนักว่าไอโฟนของพวกเขาที่จะขายในสหรัฐฯ จะผลิตและประกอบในสหรัฐฯ ไม่ใช่ในอินเดียหรือที่อื่นใด
"หากไม่เป็นเช่นนั้น แอปเปิลจะต้องจ่ายภาษีนำเข้าอย่างน้อย 25% ให้กับสหรัฐฯ" ทรัมป์ระบุ
ต่อมาทรัมป์ได้เพิ่มระดับการขู่ โดยกล่าวว่าเขาจะโจมตีสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่ไม่ได้ผลิตในสหรัฐฯ
"ซัมซุงและบริษัทอื่นๆ ที่ผลิตสินค้าดังกล่าวก็เช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ยุติธรรม" ทรัมป์กล่าว พร้อมเสริมว่าภาษีศุลกากรใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน
ทรัมป์กำหนดภาษีศุลกากรครั้งใหญ่กับสินค้าส่วนใหญ่ของโลกในวันที่ 2 เมษายน โดยกำหนดภาษีพื้นฐานไว้ที่ 10% รวมถึงภาษีศุลกากรจากสหภาพยุโรป 20%
จากนั้นตลาดเกิดความปั่นป่วนแต่ก็สงบลงหลังจากที่เขาระงับการขึ้นภาษีดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน
ตั้งแต่นั้นมา ทรัมป์ได้อ้างว่าประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงกับอังกฤษและจีนซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
แต่การเจรจากับสหภาพยุโรปยังไม่คืบหน้ามากนัก โดยล่าสุดอียูขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้าของสหรัฐฯ มูลค่าเกือบ 100,000 ล้านยูโร (113,000 ล้านดอลลาร์) หากไม่ลดภาษีศุลกากรสินค้าจากยุโรป
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กเมื่อวันศุกร์ว่า อัตราภาษีนำเข้าในระดับลดลงเหลือ 10% นั้นขึ้นอยู่กับประเทศหรือกลุ่มการค้าที่จะเข้ามาเจรจาด้วยความสุจริตใจ.
