ไม่จบวันแรก! โต๊ะเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนล่วงสู่วันที่สอง

การเจรจาการค้าที่สำคัญระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนในลอนดอนจะดำเนินต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยทั้งสองฝ่ายพยายามหาทางสงบศึกภาษีศุลกากรซึ่งสร้างความตึงเครียดต่อถาคการส่งออก

(จากซ้ายไปขวา) จามีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ, โฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ, สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ, เหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน, หวัง เหวินเทา รัฐมนตรีพาณิชย์จีน และหลี่ เฉิงกัง ผู้แทนการค้าจีน ถ่ายรูปร่วมกันระหว่างการหารือการค้าที่ Lancaster House ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน (Photo by HANDOUT / US Treasury Department / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 กล่าวว่า หลังสิ้นสุดการเจรจาการค้ารอบแรกในเจนีวาเมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่สำคัญจากสองประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกมารวมตัวอีกครั้งเพื่อหารือรอบใหม่ที่ Lancaster House อันเก่าแก่ในกรุงลอนดอน โดยมีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษเป็นเจ้าภาพ

เหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีนเป็นหัวหน้าทีมดังเช่นครั้งแรก ร่วมกับหวัง เหวินเทา รัฐมนตรีพาณิชย์ และหลี่ เฉิงกัง ผู้แทนการค้าจีน

ขณะที่ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง, โฮเวิร์ด ลุตนิครัฐมนตรีพาณิชย์ และจามีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้า เป็นตัวแทนจากรัฐบาลวอชิงตัน

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจาเปิดเผยกับเอเอฟพีว่าการเจรจาสิ้นสุดลงในเย็นวันจันทร์ และจะเริ่มใหม่ในวันอังคาร เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

การประชุมที่ลอนดอนจัดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลวอชิงตันกล่าวหาปักกิ่งว่าละเมิดข้อตกลงเจนีวาเพื่อลดระดับภาษีศุลกากรที่สูงเกินจริง โดยเฉพาะการส่งออกแร่ธาตุหายากจากจีน

เควิน ฮัสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า "ที่เจนีวา เราตกลงที่จะลดภาษีนำเข้าจากจีน และพวกเขาก็ตกลงที่จะปล่อยแม่เหล็กและแร่ธาตุหายากที่เราต้องการในทุกภาคเศรษฐกิจ และแม้ว่ารัฐบาลปักกิ่งจะปล่อยอุปทานบางส่วน แต่การปล่อยนั้นช้ากว่าที่บริษัทบางแห่งเชื่อว่าเหมาะสม"

ฮัสเซ็ตต์คาดหวังว่าจะมีการจับมือที่แน่นแฟ้นและยิ่งใหญ่ในการเจรจาการค้าครั้งนี้

"เราคาดหวังว่าหลังจากจับมือกันแล้ว การควบคุมการส่งออกใดๆ จากสหรัฐฯ จะผ่อนปรนลง และแร่ธาตุหายากจะถูกปล่อยออกในปริมาณมาก และหลังจากนั้นค่อยกลับไปเจรจาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ต่อได้" ฮัสเซ็ตต์กล่าว

ความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและปักกิ่งพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง โดยทั้งสองประเทศทำสงครามภาษีศุลกากรต่อสินค้าส่งออกของกันและกันเป็นตัวเลขสามหลัก ซึ่งเทียบเท่ากับการคว่ำบาตรทางการค้า

ทั้งนี้ ข้อตกลงเจนีวาที่ผ่อนปรนความตึงเครียดทำให้สหรัฐฯ ลดภาษีสินค้าจีนชั่วคราวจาก 145% เป็น 30% และมาตรการตอบโต้ของจีนจาก 125% เป็น 10%

แต่ล่าสุดทรัมป์กล่าวว่าจีนละเมิดข้อตกลงนี้โดยสิ้นเชิง โดยปัญหาสำคัญประการหนึ่งคือการยอมส่งออกแร่ธาตุหายากของจีน ซึ่งมีความสำคัญต่อสินค้าต่างๆ รวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

แคธลีน บรู๊คส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของกลุ่มการค้า XTB กล่าวว่า "การขนส่งแร่ธาตุหายากจากจีนไปยังสหรัฐฯ ชะลอตัวลงตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นภาษีในวันปลดปล่อยเมื่อเดือนเมษายน"

"สหรัฐฯ ต้องการให้มีการส่งออกสินค้าเหล่านี้อีกครั้ง ขณะที่จีนต้องการให้สหรัฐฯ พิจารณาข้อจำกัดด้านการย้ายถิ่นฐานของนักศึกษา, ข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงรวมถึงไมโครชิป และให้ผู้ให้บริการเทคโนโลยีของจีนเข้าถึงผู้บริโภคในสหรัฐฯ ได้ง่ายขึ้น" บรู๊คส์กล่าวเสริม

แถลงการณ์ของฮัสเซ็ตต์ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลทรัมป์อาจเต็มใจที่จะผ่อนปรนข้อจำกัดบางประการในการส่งออกสินค้าเทคโนโลยี

ในฐานะเจ้าภาพ โฆษกของรัฐบาลอังกฤษกล่าวว่า เรเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลังจะใช้ประโยชน์จากเวทีเจรจาที่ลอนดอนเพื่อหารือร่วมกับพบกับรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯและรองนายกรัฐมนตรีจีนในวันอาทิตย์.

เพิ่มเพื่อน