อองซานซูจี อดีตผู้นำประชาธิปไตยของเมียนมาฉลองวันเกิดปีที่ 80 ของเธอในเรือนจำของคณะรัฐบาลทหาร โดยยังคงรับโทษจำคุกหลายกระทงตลอดชีวิตของเธอ

แฟ้มภาพ ผู้ประท้วงถือรูปของอองซานซูจี ผู้นำพลเรือนที่ถูกคุมขัง ระหว่างการชุมนุมหน้าสำนักงานสหประชาชาติในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อรำลึกครบรอบ 3 ปีการรัฐประหารในเมียนมา (Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568 กล่าวว่า อองซานซูจี อดีตผู้นำในการปฏิรูปประชาธิปไตยของเมียนมาตลอดทศวรรษที่หลุดพ้นจากการปกครองของทหาร ยังคงถูกคุมขังในเรือนจำของคณะรัฐบาลทหาร จากโทษจำคุกหลายกระทงตลอดชีวิตของเธอ
หลังการรัฐประหารในปี 2564 เธอถูกจับกุมในข้อหาต่างๆ ตั้งแต่ทุจริตไปจนถึงละเมิดข้อจำกัดการระบาดของโควิด-19 และต้องรับโทษจำคุก 27 ปี
19 มิถุนายน 2568 เป็นวันครบรอบอายุปีที่ 80 ของเธอ แต่คิม อาริส ลูกชายวัย 47 ปีซึ่งอาศัยอยู่ที่สหราชอาณาจักรกล่าวว่า "ตอนนี้คงเป็นเรื่องยากหากจะเฉลิมฉลองใดๆ ครอบครัวของเราเรียนรู้ที่จะอดทนต่อเหตุการณ์นี้มานานมากแล้ว"
ในช่วง 8 วันก่อนวันเกิดของซูจี เขาได้เขียนคำอวยพรให้ผู้เป็นแม่ไปแล้วกว่า 80,000 ข้อความ
แต่ซูจีจะไม่ได้รับรู้ข้อความเหล่านั้น เนื่องจากถูกกักตัวอยู่ที่กรุงเนปยีดอ เมืองหลวงอันกว้างใหญ่ของเมียนมาซึ่งกองทัพกำลังสั่งการให้เปิดฉากสงครามกลางเมืองกับกลุ่มผู้ต่อต้าน
อาริสกล่าวว่าเขาได้รับจดหมายจากแม่เพียงครั้งเดียวเมื่อสองปีก่อนตั้งแต่เธอถูกจำคุก
"เราไม่ทราบว่าเธอมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง" เขากล่าว พร้อมเสริมว่าเขากลัวว่าแม่ของเขาอาจมีปัญหาสุขภาพที่ไม่ได้รับการรักษาเกี่ยวกับหัวใจ, กระดูก และฟัน
แม้ไม่มีการวางแผนจัดงานเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะทหารในเมียนมา แต่กลุ่มผู้ติดตามในเมืองมัณฑะเลย์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทหารได้จัดการประท้วงอย่างกะทันหันก่อนวันเกิดของเธอ ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น
ผู้ประท้วงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้าจำนวนหนึ่งได้นำแผ่นพับที่มีข้อความว่า "อิสรภาพจากความหวาดกลัว" และ "สุขสันต์วันเกิด" ไปโปรยตามท้องถนน รวมทั้งช่วยกันสร้างภาพเหมือนของซูจีและแชร์กันบนโซเชียลมีเดีย ภายใต้การแท็กที่แพร่หลายว่า "คุณยังจำบุคคลผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ได้ไหม?"
ในขณะที่ซูจียังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ แต่สถานะของซูจีในฐานะสัญลักษณ์ของประชาธิปไตยในต่างประเทศก็พังทลายลงก่อนที่กองทัพจะเข้ายึดอำนาจ หลังจากที่เธอปกป้องนายพลในการปราบปรามชาวมุสลิมโรฮีนจาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย
ผู้คนหลายแสนคนถูกส่งตัวไปบังกลาเทศซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านภายใต้การปกครองของเธอ แม้ว่าบางคนจะโต้แย้งว่าเธอไม่มีอำนาจในการต่อต้านอิทธิพลที่หลงเหลืออยู่ของกองทัพเมียนมาก็ตาม
หลังจากนั้น สถาบันและบุคคลที่เคยมอบรางวัลให้ซูจีก็แยกตัวออกไปอย่างรวดเร็ว และการจำคุกรอบที่สองของเธอได้รับความสนใจจากนานาชาติน้อยกว่าครั้งแรกอย่างมาก
ซูจี บุตรสาวของอองซาน วีรบุรุษแห่งการประกาศเอกราชของเมียนมา กลายเป็นผู้สนับสนุนประชาธิปไตยอย่างบังเอิญ
หลังจากใช้ชีวิตช่วงเยาว์วัยส่วนใหญ่ในต่างประเทศ เธอกลับมาในปี 2531 เพื่อดูแลแม่ที่ป่วย แต่กลับเริ่มนำการประท้วงต่อต้านกองทัพซึ่งปราบปรามประชาชนอย่างหนัก
เธอถูกจองจำเป็นเวลา 15 ปี โดยส่วนใหญ่ถูกคุมขังในคฤหาสน์ริมทะเลสาบของครอบครัวเธอที่เมืองย่างกุ้ง
กองทัพเสนออิสรภาพให้เธอหากเธอลี้ภัย แต่การปฏิเสธอย่างแข็งขันของเธอทำให้เธอได้รับความนับถือในวงกว้างและได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2534
ซูจีได้รับการปล่อยตัวในปี 2553 และนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของเธอไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2558 โดยไม่เคยดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่กองทัพร่างขึ้นทำให้เธอไม่สามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้
หากหญิงวัย 80 ปีผู้นี้ได้รับการปล่อยตัวจากการคุมขังในปัจจุบัน อาริสคาดการณ์ว่าเธออาจจะถอยห่างจากตำแหน่งแนวหน้าในแวดวงการเมืองเมียนมา
กองทัพสัญญาว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในช่วงปลายปีนี้ แต่หลายกลุ่มที่ประกอบด้วยอดีตผู้ติดตามแนวคิดอหิงสาของซูจีซึ่งตอนนี้ได้ลุกขึ้นสู้ด้วยอาวุธ ประกาศจะคว่ำบาตรการเลือกตั้งครั้งนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทัพเมียนมาโจมตีหนัก! ทิ้งบอมบ์ 20 ลูก ถล่ม KNU ชาวบ้านหนีตายเข้าไทย
สถานการณ์ชายแดนไทย - เมียนมา ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก กองทัพรัฐบาลทหารเมียนมา ได้ใช้เครื่องยบิน Y12 ทิ้งระเบิดใกล้กับกองบัญชาการกองพลที่ 7


