ตำรวจมาดากัสการ์ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง กรณีเรื้อรังขาดแคลนไฟฟ้าและน้ำ

ตำรวจมาดากัสการ์ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงหลายร้อยคนในกรุงอันตานานาริโว จากกรณีปัญหาขาดแคลนน้ำและไฟฟ้าดับซ้ำแล้วซ้ำเล่า

กลุ่มผู้ชุมนุมขว้างก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะประท้วงปัญหาขาดแคลนน้ำประปาและไฟฟ้าดับซ้ำแล้วซ้ำเล่าในกรุงอันตานานาริโว เมืองหลวงของมาดากัสการ์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน (Photo by RIJASOLO / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน 2568 กล่าวว่า ประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงหลายร้อยคนในกรุงอันตานานาริโว เมืองหลวงของมาดากัสการ์ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาเรื้อรังของการขาดแคลนน้ำและไฟฟ้าดับซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เกาะในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้เป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก แม้จะมีทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ก็ตาม

ตำรวจได้ลาดตระเวนอย่างหนาแน่นทั่วเมืองหลวงตั้งแต่เช้าตรู่ หลังจากที่ทางการสั่งห้ามการชุมนุมเมื่อวันก่อน โดยอ้างว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดความวุ่นวายในที่สาธารณะ

แต่ผู้ประท้วงฝ่าฝืนคำสั่งและพยายามฝ่าด่านตำรวจไปยังจุดนัดพบที่วางแผนไว้ในเขตอัมโบฮียาโตโว ใจกลางอันตานานาริโว

พวกเขาโบกป้ายที่มีข้อความว่า "สิทธิของเราที่ต้องได้รับการรับฟัง", "หยุดชีวิตที่เต็มไปด้วยกระป๋องน้ำมันสีเหลืองและความมืดมิด" และ "เราไม่ต้องการปัญหา เราเพียงต้องการสิทธิของเรา"

ผู้ประท้วงยังโบกธงโจรสลัดที่โด่งดังซึ่งเป็นรูปหัวกระโหลกและกระดูกไขว้ที่สวมหมวกฟางจากอนิเมะญี่ปุ่นเรื่อง 'วันพีซ' ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ขบวนการต่อต้านผู้มีอำนาจในประเทศต่างๆ เช่น อินโดนีเซียและเนปาล นำไปใช้

ก่อนเวลา 11.00 น. เล็กน้อย ตำรวจปราบจลาจลได้ขับรถฝ่าฝูงชนที่อยู่เต็มถนนและยิงแก๊สน้ำตา รวมทั้งกระสุนยาง เพื่อสลายกลุ่มคนดังกล่าว

มีรายงานผู้ประท้วงอย่างน้อย 3 คนถูกจับกุม

ช่วงเที่ยงวัน ผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาบ้านของสมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีอันดรี ราโจเอลินาเมื่อต้นปีนี้ แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แม้ถูกกลุ่มผู้ประท้วงที่โกรธแค้นขว้างก้อนหินใส่

ไม่นานหลังจากนั้น บ้านของสมาชิกสภานิติบัญญัติของเมืองก็ถูกทำลายเช่นกัน

"ตั้งแต่ 10 โมงเช้า พวกเราตะโกนเรียกร้องสิทธิกันมาตลอด แต่พวกเขาก็ยิงกระสุนยางใส่พวกเรา" ไอนา นักศึกษาวัย 20 ปีกล่าว และเสริมว่าการเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพื่อฟื้นฟูน้ำประปาและไฟฟ้าในมาดากัสการ์

"ที่นี่ไฟฟ้าดับประมาณ 12 ชั่วโมงต่อวัน นั่นหมายความว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน เราออกจากบ้าน, ไปทำงาน, จ่ายภาษี และกลับบ้าน แต่ก็ยังไม่มีไฟฟ้าใช้" เธอกล่าว

"สถานการณ์น้ำและไฟฟ้ากลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทนรับได้อีกต่อไป" หญิงวัยหกสิบกว่าปีรายหนึ่งกล่าว

เธอกล่าวโทษการทุจริตคอร์รัปชัน, การใช้อำนาจตามอำเภอใจ และการขาดความโปร่งใสในหมู่ผู้นำ ว่าเป็นสาเหตุของปัญหา

การประท้วงซึ่งส่วนใหญ่ปลุกระดมผ่านโซเชียลมีเดีย ดึงดูดผู้ประท้วงส่วนใหญ่ที่เป็นคนหนุ่มสาว และไม่มีบุคคลทางการเมืองคนใดปรากฏตัวในฝูงชน

ราโจเอลินา วัย 51 ปี ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สามเมื่อปลายปีที่แล้ว จากการลงคะแนนเสียงที่ถูกคว่ำบาตรโดยฝ่ายค้าน และมีผู้เข้าร่วมน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนไว้

เขาขึ้นสู่อำนาจครั้งแรกในปี 2009 โดยเป็นผู้นำการเคลื่อนไหวของประชาชนและได้รับประโยชน์จากการรัฐประหารที่โค่นล้มอดีตประธานาธิบดีมาร์ก ราวาโลมานา

หลังจากไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในปี 2013 เนื่องจากแรงกดดันจากนานาชาติ เขาได้รับเลือกกลับเข้าดำรงตำแหน่งอีกครั้งในปี 2018

แม้จะครองอำนาจมาดากัสการ์มาเป็นเวลานาน แต่ฐานะทางเศรษฐกิจของมาดากัสการ์ก็ยังไม่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังคงมีปัญหาท้าทายมากมายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ธนาคารโลกระบุว่า ประชากรประมาณ 75% ของประชากรทั้งหมด 30 ล้านคนของประเทศมีชีวิตอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนในปี 2022.