อดีตนายกฯญี่ปุ่นผู้ขอโทษต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 101 ปี

โทมิอิจิ มุรายามะ อดีตนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นซึ่งโด่งดังจากการกล่าวขอโทษที่ญี่ปุ่นเคยแสดงพฤติกรรมโหดร้ายป่าเถื่อนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 101 ปี

(แฟ้มภาพ) อดีตนายกรัฐมนตรีโทมิอิจิ มุรายามะ ของญี่ปุ่น (Photo by YOSHIKAZU TSUNO / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีโทมิอิจิ มุรายามะ ของญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมแล้วด้วยวัย 101 ปี

มุรายามะเป็นที่จดจำอย่างมากจากการออกประกาศปี 1995 เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการยอมแพ้ของญี่ปุ่น โดยแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อความโหดร้ายที่ญี่ปุ่นได้กระทำในเอเชียช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

แถลงการณ์นั้นกลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับการขอโทษของรัฐบาลโตเกียวในเวลาต่อมา

"โทมิอิจิ มุรายามะ บิดาแห่งการเมืองญี่ปุ่น เสียชีวิตลงแล้วในวันนี้ เมื่อเวลา 11.28 น. ณ โรงพยาบาลในเมืองโออิตะ ขณะมีอายุได้ 101 ปี" ตามการระบุของมิซูโฮ ฟูกุชิมะ หัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นผู้สืบทอดพรรคสังคมนิยมของมุรายามะที่ปัจจุบันได้ยุบพรรคไปแล้ว

ฮิโรยูกิ ทาคาโนะ เลขาธิการพรรคสังคมประชาธิปไตยประจำเมืองโออิตะซึ่งเป็นบ้านเกิดของมุรายามะ บอกกับเอเอฟพีว่า เขาได้รับแจ้งว่าอดีตนายกรัฐมนตรีเสียชีวิตด้วยอาการชรา

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์สำคัญเมื่อเดือนสิงหาคมปี 1995 มุรายามะกล่าวว่า "ญี่ปุ่นซึ่งเคยดำรงการปกครองแบบอาณานิคมและการรุกราน ได้สร้างความเสียหายและความทุกข์ทรมานอย่างใหญ่หลวงแก่ประชาชนในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประเทศในเอเชีย"

"ด้วยความหวังว่าจะไม่มีความผิดพลาดเช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ข้าพเจ้าขอถือเอาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้เหล่านี้ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและขออภัยอย่างสุดซึ้งอีกครั้ง ณ ที่นี้" เขากล่าวเสริม

ข้อความที่ว่า "สำนึกผิดอย่างสุดซึ้ง" และ "คำขอโทษอย่างสุดซึ้ง" ถูกใช้โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหลายสมัยในวาระครบรอบ 60 ปีและ 70 ปีของสงครามโลกครั้งที่ 2

มุรายามะซึ่งมีคิ้วหนาอันเป็นเอกลักษณ์ ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลผสม ซึ่งรวมถึงพรรคเสรีประชาธิปไตยที่เป็นพรรคการเมืองทรงอิทธิพลหลังสงครามของญี่ปุ่นด้วย

เขาดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 1994 - 1996 ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วนที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1995 ทางตะวันตกของญี่ปุ่น และการโจมตีด้วยก๊าซซารินในรถไฟใต้ดินโตเกียว ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าสิบรายและบาดเจ็บมากกว่า 5,800 คน

มุรายามะถูกเกณฑ์เข้ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นในปี 1944 ขณะกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย

ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สาธารณะเอ็นเอชเคเมื่อปี 2015 เขาเรียกกองทัพว่าเป็น "สิ่งที่น่ากลัว" โดยอธิบายว่า "การกบฏหรือการโต้เถียงเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด"

เขายังระลึกถึงความทรงจำอันยากลำบากในช่วงก่อนสงครามจะสิ้นสุดลง ซึ่งมีทั้งอาหารที่ขาดแคลนและอาวุธที่เหลืออยู่น้อยมาก

"เรามีเพียงอาวุธที่ทำจากไม้ไผ่ ซึ่งผมสงสัยว่าเราจะสามารถทำสงครามในสภาพเช่นนี้ได้หรือไม่" เขากล่าวในขณะนั้น.

เพิ่มเพื่อน