สายบุญ! ห้ามพลาด ธ.ก.ส. ร่วมจ่ายสมทบเงินทุกยอดบริจาคผ่านการสแกน "QR ธรรม D" แถมยังหักลดหย่อนภาษี

ธ.ก.ส. เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างกุศล พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีผ่านระบบ e-Donation ผ่านการสแกน QR Payment “QR ธรรม D” ซึ่งเป็นช่องทางการบริจาคและส่งเสริมระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ทดแทนเงินสด

29 ต.ค. 2564 นายสุรชัย รัศมี รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการทางการเงินด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพื่อตอบโจทย์ Lifestyle ยุคใหม่และสนับสนุนแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ที่เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้เปิดให้บริการ QR Payment ผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ภายใต้ชื่อ “QR ธรรม D” เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริจาคเงินกับหน่วยรับบริจาคต่าง ๆ ได้แก่ ศาสนสถานทุกศาสนา สถานศึกษา โรงพยาบาล และองค์กรสาธารณกุศล ซึ่งผู้บริจาคสามารถใช้แอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หรือ Mobile Banking ของธนาคารอื่น จากนั้นสแกน QR ธรรม D เพื่อบริจาคเงินกับบัญชีของหน่วยรับบริจาคที่ต้องการ แล้วใส่จำนวนเงิน ตรวจสอบและยืนยัน โดยผู้บริจาคจะได้รับ e-Slip ใบเสร็จหลังจากเสร็จขั้นตอนการโอนเงิน อีกทั้งยอดเงินบริจาคดังกล่าวได้ผ่านระบบ e-Donation ของกรมสรรพากร ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการบริจาคเงินและได้รับการลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้องโปร่งใสและรวดเร็ว โดยผู้บริจาคไม่ต้องเก็บหลักฐานการบริจาคมาแสดงต่อกรมสรรพากรอีกครั้ง

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังร่วมทำบุญกับลูกค้าทุกท่านที่ใช้บริการ QR ธรรม D โดยทุกยอดการบริจาคตั้งแต่ 109 บาทขึ้นไป ธ.ก.ส. จะจ่ายเงินสมทบให้กับหน่วยรับบริจาคที่มีระบบ e-Donation ผ่าน ธ.ก.ส. เพิ่มอีก 9 บาท ต่อรายการ และกรณีเป็นหน่วยรับบริจาคที่เข้าร่วม QR ธรรม D (e-Donation) ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 ธ.ก.ส. จะสมทบให้กับหน่วยรับบริจาคเพิ่มอีก 5 บาทต่อรายการ ในทุกยอดการบริจาคตั้งแต่ 109 บาทขึ้นไป (รวมได้รับเงินสมทบ 14 บาท/รายการ) จำนวน 5,500 รายการแรก ระยะเวลาร่วมสมทบตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565

​นายสุรชัยกล่าวอีกว่า ในช่วงเดือนตุลาคมนี้มีเทศกาลและวันสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น งานบุญกฐินประจำปี และงานบุญเดือนสิบ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความสุขจากการให้ด้วยการทำบุญหรือบริจาคแบบสะดวก ง่ายดาย ในทุกที่ทุกเวลา ผ่านการสแกน QR ธรรม D (e-Donation) ของ ธ.ก.ส. ให้กับหน่วยรับบริจาคทั้งศาสนสถานทุกศาสนา สถานศึกษา โรงพยาบาล และองค์กรสาธารณกุศล สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 หรือที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธ.ก.ส.' เสริมแกร่งสถาบันเกษตรกรอัดฉีดพันล้านรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

“ธ.ก.ส.” เตรียม 1,000 ล้านบาท อัดฉีดสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มเสริมแกร่งสถาบันเกษตรกร เคาะดอกเบี้ย 4% รัฐชดเชย 3%

'ธ.ก.ส.' ปักหมุดภารกิจสางหนี้เน่าตั้งเป้าหมายปีนี้เหลือไม่เกิน 5.5%

“ธ.ก.ส.” ปักหมุดภารกิจสางหนี้เน่า ตั้งเป้าหมายปีนี้เหลือไม่เกิน 5.5% เร่งเครื่องปั๊มสินเชื่อเติมกลุ่มขนาดใหญ่ 5 หมื่นล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดตัวสินเชื่อรวมกลุ่มเกษตรกรขายคาร์บอนด์เครดิต

ธ.ก.ส.เตรียมปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเสริมสภาพคล่องการรับซื้อผลไม้

ธ.ก.ส. ร่วมมือกรมการค้าภายใน สนับสนุนผู้ประกอบการในการรวบรวมและรับซื้อผลไม้ฤดูกาลผลิต 2566 รวม 8 ชนิด เพื่อกระตุ้นให้มีปริมาณผลไม้หมุนเวียนในตลาดและส่งถึงมือผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว ทันตามฤดูกาล โดยรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ในอัตราร้อยละ 3 ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ ธ.ก.ส. ตั้งแต่วันนี้จนถึง 12 พฤษภาคม 2566

'ธ.ก.ส.'ฟุ้งปี 65 อัดสินเชื่อสู่ชนบท 8.7 แสนล้าน

“ธ.ก.ส.” โชว์ผลดำเนินงานปีบัญชี 65 อัดสินเชื่อสู่ภาคชนบท 8.7 แสนล้านบาท กวาดกำไรเฉียด 8 พันล้านบาท กางแผนปีบัญชี 66 สินเชื่อโตเพิ่มมากว่า 3.5 หมื่นล้านบาท เงินฝากโต 1.2 หมื่นล้านบาท เดินเครื่องแก้หนี้เสีย ปักหมุดเหลือไม่เกิน 6.7% พร้อมคาดจีดีพีภาคเกษตรปี 66 โต 2.4% โอดเศรษฐกิจโลกชะลอกดดันการส่งออกสินค้าเกษตรแผ่ว

บอร์ด ธ.ก.ส.เคาะประกันรายได้สวนยาง-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ วงเงิน 8.2 พันล้าน

บอร์ด ธ.ก.ส. เห็นชอบดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 4 และประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2565/66 วงเงินรวมกว่า 8,282 ล้านบาท

เกษตรกรเตรียมตัว ธ.ก.ส. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท 0.25%

ธ.ก.ส. ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก สูงสุดร้อยละ 0.60 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ร้อยละ 0.25 ต่อปี ตามมติ กนง. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ร้อยละ 0.25 ต่อปีจากร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจไทย โดยมีผลตั้งแต่ 1 เม.ย. 66 เป็นต้นไป