
“นพวรรณ” โฆษกดีอีเอสฝ่ายการเมือง มองนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ ตัวแปรลดจำนวนข่าวปลอมโควิด เพราะประชาชนเริ่มหันมาสนใจปัญหาเศรษฐกิจและนโยบายรัฐมากขึ้น
29 ต.ค. 2564 – นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมตลอดช่วงสัปดาห์นี้ (22-28 ต.ค.64) โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เริ่มเห็นแนวโน้มปัญหาข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิดยังคงลดลงต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของจำนวนข่าวปลอม และความสนใจของประชาชนที่มีต่อข่าวปลอมโควิด ปัจจัยส่วนหนึ่งอาจมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยลง อีกทั้งรัฐบาลประกาศเดินหน้าเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. นี้ ความสนใจของประชาชนจึงเริ่มหันมาที่ประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและนโยบายรัฐมากขึ้น
โดยจากข้อมูลรอบสัปดาห์ล่าสุดของศูนย์ฯ พบว่า มีข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 11,464,623 ข้อความ หลังคัดกรองแล้ว พบว่ามีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 208 ข้อความ โดยเป็นจำนวนเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 111 เรื่อง โดยจำนวน 59 เรื่อง เป็นข่าวเกี่ยวกับโควิด-19
สำหรับภาพรวมของจำนวนเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 111 เรื่อง สัปดาห์ล่าสุดนี้มากกว่า 50% เป็นข่าวในกลุ่มนโยบายรัฐบาล /ข่าวสารทางราชการ/ความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยมีจำนวน 60 เรื่อง รองลงมาเป็นข่าวกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ 41 เรื่อง กลุ่มภัยพิบัติ 9 เรื่อง และกลุ่มเศรษฐกิจ 1 เรื่อง
ทั้งนี้จากการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 54 เรื่อง พบว่ามีสัดส่วนของเฟคนิวส์ (ข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือน) และข่าวจริงในระดับใกล้เคียงกัน โดยในส่วนของข่าวจริงนั้นรวมถึงข่าวเรื่อง ครม.อนุมัติ ร่างพ.ร.ฎ.ควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ดูแลผู้ประกอบการ ผู้ซื้อ-ผู้ขาย
ขณะที่ ข่าวปลอมซึ่งมีคนสนใจสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ผู้ว่าฯ จังหวัดภูเก็ต แอบลักลอบนำมุสลิมต่างด้าวเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย อันดับ 2 กทม. เตรียมรับมือพายุถล่มหนักที่สุด วันที่ 26 ต.ค. – 12 พ.ย. 64 และอันดับ 3 ปตท. รายได้สูงถึง 3 ล้านล้านบาท/ปี แต่นำส่งเข้ารัฐแค่ 1% เท่านั้น
“ประชาชนสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันแก้ปัญหาข่าวปลอมได้ โดยเมื่อได้รับข่าวสารข้อมูลผ่านโซเชียล ควรตรวจสอบให้รอบด้าน เลือกเชื่อ เลือกแชร์ และสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 เพื่อหลีกเลี่ยงจากการเป็นเหยื่อข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือน” นางสาวนพวรรณกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทบ.เผยเล่ห์เขมร อาวุธหนักยังอยู่
ทบ.แจงอย่าเชื่อเพจปลอมอ้างเขมรขนทหารยึดปราสาทคืน แต่ยอมรับตรงข้ามภูมะเขือยังคงมีรถถัง 10 คัน วางทุ่นระเบิดโดยรอบ
ทบ. ยันข่าวปลอม ทหารกัมพูชา ระดมกำลังจ่อยึดภูมะเขือ-ปราสาทตาควาย-ปราสาทคนา
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Thai Army (ทหารไทย) ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน ได้โพสต์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า "จะเอาไงต่อดีครับ ฝั่งเรา ล่าสุดวันนี้ทหารกัมพูชาขึ้นมาพิชิตใกล้ภูมะเขือหวังจะเอาภูมะเขือคืนกว่า 2,000 นาย ประสาทตาควายกว่า 5,000นาย ประสาทคนากว่า 5,000 นายเต็มพื้นที่หมดแล้ว
'กองทัพบก' ซัดเขมรใช้ไอโอสร้างข่าวปลอมใส่ร้ายไทย! ต่อนานาชาติ
ทบ.ชี้แจงข้อเท็จจริง โต้กระบวนการสร้างข่าวปลอมของกัมพูชา ที่มุ่งทำลายชื่อเสียงประเทศไทย
ทบ. โต้ข่าวปลอม 2 เรื่อง ทหารไทยถูกยิงที่ช่องตาเฒ่า สื่อกัมพูชาอ้างเชลยศึกเสียชีวิต
พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. ชี้แจงกรณีสื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชา รายหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในเชลยศึกจำนวน 18 นาย เสียชีวิตลงจากอาการหัวใจล้มเหลว
รองแม่ทัพภาค 2 เปิดใจ! ขอบคุณนายกฯ โต้ข่าวปลอม ตำหนิรับเงินบริจาค 15 ล้าน
"พลตรีณัฏฐ์" ร่ายยาว ขอบคุณนายกฯโต้ข่าวลวงปมตำหนิตนเองรับเงินจากพระสิ้นคิด หวังให้สังคมเข้าใจผิด ระแวงกัน ยัน ”แม่ทัพกุ้ง- แม่ทัพเติ่ง” อนุมัติรับทราบ ยันใช้ FB สื่อสารให้คนเห็นการทำงานถึง”ทหารอาชีพ”ชายแดน ระบุไม่ได้หิวแสง พร้อมวอนร่วมใจมองชาติเป็นหลัก ศัตรูหมู่มารจะพ่ายแพ้
อย่าหลงเชื่อกระพี้! 'นั่งลงลูก' เฟกนิวส์ แนะติดตามแก่นคดี 'อิ๊งค์'
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ในฐานะผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการไต่สวนในศาลรัฐธรรมนูญ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า แจ้งเพื่อทราบครับ คำว่า “นั่งลงลูก”เป็นข่าวปลอม คำว่า“นั่งลงครับ”เป็นคำที่ถูกต้อง


