ชาวบ้านชุมพร คัดค้านกรมโยธาฯสร้างเขื่อน ยันไม่มีพื้นที่คลื่นทะเลกัดเซาะ

ผู้ทรงคุณวุฒิกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งด้านสิ่งแวดล้อมเผยผลสำรวจชายหาดชุมพร ไม่มีพื้นที่คลื่นทะเลกัดเซาะรุนแรง แต่กรมโยธากลับสร้างเขื่อนทำลายธรรมชาติ

7 พ.ย. 2564 จากกรณีที่มีกลุ่มนักอนุรักษ์คนรักอ่าวชุมพร และชาวบ้าน คัดค้านกรมโยธาธิการและผังเมือง ก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตป้องกันตลิ่งกัดเซาะชายฝั่งริมทะเล ความยาว 630 เมตร ด้วยงบประมาณ 80 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 700 วัน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 16 ตุลาคม 2565 บนพื้นที่หาดทรายรี ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ไม่มีการจัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งจะส่งผลเสียระยะยาว เนื่องจากจุดก่อสร้างดังห่าวเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศและเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์เนื่องจากมีพระตำหนักที่ประทับ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ย หรือหมอพร และเป็นแหล่งเรียนรู้ยาสมุนไพรตำหรับหมอพร และเป็นสถานที่สวรรคตของพระองค์ ปัจจุบันได้มีการสร้าง พระบรมรูปของพลเรือเอกเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดศักดิ์ มีประชาชนจากทั่วสารทิศมากราบไหว้สักการะอย่างไม่ขาดสาย

วันที่ 7 พ.ย.64 ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว นายธนเทพ กมศิลป์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งด้านสิ่งแวดล้อม จ.ชุมพร กล่าวว่าหลังจากที่กลุ่มอนุรักษ์คนรักอ่าวชุมพรและแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และล่าสุดตนได้มีหนังสือ ที่ พิเศษ1/2564 ลงวันที่ 3 พ.ย 2564 ถึง ประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการด้านการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งทะเล กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

โดยข้อเสนอต่อแนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้งโครงการก่อสร้างเชื่อนป้องกันตลิ่งหาดทรายรี เนื่องจากกรณีที่มีการรณรงค์ และไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งหาดทรายรี หมู่ที่ 6 ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร จากการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตสิ่งแบบขั้นบันไดยื่นทับชายหาด งบประมาณปี 2563 ระยะทาง 630 เมตร ตลอดแนวชายฝั่ง โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเครือข่ายอนุรักษ์ในจังหวัดชุมพรได้แสดงจุดยืนร่วมกันว่า “หาดทรายรี ต้องมีหาดทราย” เพื่อคงไว้ซึ่งพื้นที่เศรษฐกิจชายฝั่ง พื้นที่นิเวศชายฝั่ง และมิให้หาดทรายรีเป็นเพียงชื่อคำขวัญจังหวัด หากให้มีการก่อสร้างหาดทรายจะหายไปภายหลังจากการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ดังที่ปรากฎในสื่อสาธารณะอย่างต่อเนื่อง

จากกรณีสถานการณ์ข้อขัดแย้งดังกล่าว ทราบว่าทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้มีแผนในการจัดเวที ประชาพิจารณ์ในพื้นที่หาดทรายรีเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งภาคประซาชนมีข้อกังวลต่อแนวทางในการจัดเวทีกรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งอาจเกิดการปะทะและการ ใช้ประชามติเสียงข้างมากแบบไม่ถูกต้องตามหลักการ มากกว่าแนวทางการให้ข้อมูลรอบด้านถึงผลกระทบของรูปแบบโครงสร้างที่ส่งผลต่อทรัพยากรชายฝั่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการบูรณาการด้านการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ซึ่งมีบทบาทโดยตรงต่อการดำเนินการด้านการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลทรัพยากรขายฝั่ง และประสานเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อให้ยังคงประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งทางตรงทางอ้อม และประโยชน์สาธารณะ

เครือข่ายภาคประชาชน จ.ชุมพร จึงมีข้อเสนอร่วมกัน ดังนี้ให้ประธาน และคณะอนุกรรมการบูรณาการด้านการจัดการการกัดเซาะชายฝั่งทะเลทั้งคณะ เป็นเจ้าภาพในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายแทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ เพื่อให้เกิดการติดตามการดำเนินการโครงการฯ และ นำเสนอข้อมูลให้เกิดความรอบด้าน เหมาะสม ต่อแนวทาง การแก้ปัญหาต่อกรณีข้อขัดแย้งของโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นบทบาทโดยตรงของคณะฯ เสนอให้จัดเวทีในพื้นที่ที่มีความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการจัดเวทีในพื้นที่โครงการ เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะของสองฝ่าย

นายธนเทพกล่าวต่อว่า ขณะนี้การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นหาดทรายรีอย่างต่อเนื่อง โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองอ้างว่าคลื่นได้กัดเซาะชายฝั่งและแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการชายฝั่ง แต่ความเป็นจริงแล้วชายฝั่งที่มีคลื่นซัดเซาะเป็นทางเท้าบนชายหาดสาธารณะที่มีการวางซุ้มจำหน่ายอาหาร จึงถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ผิดประเด็น เพราะบ้านเรือนที่อยู่อาศัยอยู่คนละจุดกัน

นายธนเทพ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจะมีการสำรวจการกัดเซาะชายฝั่งทางทะเลเป็นประจำทุกๆปี สำหรับ จ.ชุมพร พบว่ามีพื้นที่ชายฝั่งงทะเลยาวรวมกันประมาณ 248.33 กิโลเมตร ชายฝั่งทะเลของจังหวัดชุมพรครอบคลุมพื้นที่ 6 อําเภอ 22 ตําบล ได้แก่ อําเภอปะทิว อําเภอเมืองชุมพร อําเภอสวี อําเภอทุ่งตะโก อําเภอหลังสวน และอําเภอละแม ซึ่งลักษณะชายฝั่งงแยกเป็น หาดทราย 144.02 กิโลเมตร, หาดโคลน 25.02 กิโลเมตร, หาดทรายปนโคลน 4.58 กิโลเมตร หาดทรายปนหิน 74.70 กิโลเมตร และปากแม่น้ำ 2.60 กิโลเมตร

นอกจากนี้ยังพบว่า จังหวัดชุมพรไม่พบพื้นที่ที่ถูกกัดเซาะ โดยมีพื้นที่มีการดําเนินการแก้ไขแล้ว 13.57 กิโลเมตร พื้นที่สมดุล 156.59 กิโลเมตร พื้นที่สะสมมาก 0.36 กิโลเมตร พื้นที่สะสมน้อย 0 กิโลเมตร พื้นที่หัวหาด 0 กิโลเมตร พื้นที่ปากแม่น้ำ 2.60 กิโลเมตร พื้นที่หาดหิน 70.43 กิโลเมตร และพื้นที่รุกล้ำ 4.78 กิโลเมตร

สำหรับโครงการป้องกันและแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ประจำปีงบประมาณ 2561-2565 มีทั้งสิ้น 14 โครงการ ก่อสร้างใน 7 ตำบล 3 อำเภอ (อ.เมือง, อ.หลังสวน และ อ.ละแม) รวมระยะทางก่อสร้าง 13.366 กิโลเมตร ภายใต้งบประมาณของกรมโยธาธิการและผังเมือง 11 โครงการ และกรมเจ้าท่า 3 โครงการ

“ ปัญหานี้กลุ่มคนรักอ่าวชุมพร และแกนนำชาวบ้านในพื้นที่จะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิดเพื่อปกป้องชายหาดอย่างต่อเนื่องและจะมีมาตรการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หาดทรายยังเป็นชายหาดที่สวยงามตามธรรมชาติ ต่อไป “นายธนเทพ กมศิลป์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งด้านสิ่งแวดล้อม จ.ชุมพร กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สลด! พบศพสองพี่น้อง ถูกฆาตกรรมหมกบ่อน้ำหน้าบ้าน

พ.ต.ท.ภัคดี ตันอนุกูล สว.(สอบสวน)สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีศพถูกฆาตกรรม 2 ศพทิ้งอยู่ในบ่อน้ำหน้าบ้านที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 10 ตำบลนาพญา อ.หลังสวน จึงรายงาน พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว

'เจ๊อ้วน' ขอโทษยอมรับกรรม! บอกผ่านลูกกรง ห้ามญาติประกันตัว-ไม่อุทธรณ์

ความคืบหน้ากรณีตำรวจจับกุม นางวันเพ็ญ ธัญญาพงศ์พานิช อายุ 62 ปี หรือ “เจ๊อ้วน” จ้างวาน นายสมชัย รัตนะ อายุ 62 ปี กับพวกอุ้มฆ่า นายขนบ สมหวัง อายุ 65 ปี หรือ “โกหมาด”

ของดีชุมพร กล้วยหอมถ้ำสิงห์ตีตลาดญี่ปุ่น ผลิตไม่ทันส่งออก

ชุมพร กล้วยหอมทองถ้ำสิงห์ ผลิตไม่ทันส่งออกขายญีปุ่นสัปดาห์ละเกือบ 10 ตัน เกษตรจังหวัดส่งเสริม เพาะหน่อเนื้อเยื่อพันธุ์ดีเพิ่มผลผลิต

หายปริศนากว่า 1 เดือน ญาติบุกทวงถามคดี 'เสี่ยบ่อนไก่' ไม่คืบหน้า หลังพบจอดรถทิ้งริมโขง

นายสำราญ สมหวัง อายุ 74 ปี พร้อมญาติพี่น้องเดินทาง สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ตำบลนาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต.ภานุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เกี่ยวกับคดีที่ นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “นายหัวสมาร์ท” น้องชายและเป็นเจ้าของสนามชนไก่

เก๋งแหกด่านหนีเข้าสวนปาล์ม ชาวบ้านแจ้งตร.ตะครุบตัวได้พร้อมของกลางยาบ้า 2 แสนเม็ด

พล.ต.ต.ภาณุเดช ณ พัทลุง ผบก.ภ.จว.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร ร.ต.อ.มนู จิตรคำ รอง สว.สส.สภ.ท่าแซะ ,ร.อ.สมโภชน์ วิเชียรรัตน์ หน.ชป.ฉก.ร.25 และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ชุมพร