‘กรุงเทพธนาคม' วอน BTS หยุดทวงหนี้ผ่านสื่อ

‘กรุงเทพธนาคม’ แจงปมหนี้เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ขอ BTS หยุดทวงหนี้ค่าจ้างเดินรถผ่านสื่อ ชี้กระบวนการอยู่ในขั้นตอนศาลพิจารณา พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เร่งแก้ปัญหาหาข้อสรุปโดยเร็ว

14 ธ.ค.2565-ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประแสง มงคลศิริ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยถึงกรณีคดีค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย) ว่า กรณีผู้รับจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้ประกาศทวงหนี้ตามสัญญาค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ผ่านสื่อต่างๆ หลายครั้งและหลายรูปแบบ

ข้อเท็จจริง คือ ผู้รับจ้างเดินรถได้ใช้สิทธิฟ้องกทม.และบริษัท ต่อศาลปกครองมาตั้งแต่ปี 2564 เมื่อผู้บริหารชุดปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่ ได้รีบยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลาส่งเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้คดีในหลายประเด็นอย่างเต็มที่ แต่ศาลยืนยันว่าสิ้นสุดระยะเวลาส่งเอกสารหลักฐานแล้ว จึงปฏิเสธไม่รับเอกสารหลักฐานเข้าสู่สำนวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ศาลชั้นต้นก็กรุณามีคำแนะนำให้คู่ความ 2 ฝ่ายเจรจาไกล่เกลี่ยกัน แต่ผู้รับจ้างเดินรถยืนยันต่อศาลว่าจะไม่เจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งก็เป็นสิทธิโดยชอบ

ต่อมาศาลได้นัดฟังคำพิพากษาเมื่อวันที่ 7 ก.ย 2565 โดยมีคำตัดสินให้บริษัทแพ้คดีในศาลชั้นต้น บริษัทจึงต้องรีบยื่นอุทธรณ์ภายในกำหนด 30 วันพร้อมกับส่งเอกสารหลักฐานใหม่ในวันที่ 5 ต.ค.2565 และชำระค่าธรรมเนียมตามระเบียบอุทธรณ์คดี คดีพิพาทนี้จึงอยู่ระหว่างการพิจารณาอุทธรณ์ในศาลสูงสุด

การที่บริษัทอุทธรณ์ต่อสู้คดีไปสู่ชั้นศาลสูงสุดนั้น ถือว่าได้ใช้สิทธิโดยชอบเสมอกัน มีผลให้ทั้ง 2 ฝ่ายต้องรอฟังคำสั่งของศาลสูงสุดที่จะให้ความยุติธรรม บริษัทจึงไม่เคยคิดจะนำเนื้อหาคดีไปจัดทำสื่อเผยแพร่สร้างกระแสต่อสังคมหวังกดดันผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย บริษัทไม่เคยนำประเด็นคดีไปจัดอีเว้นท์บรรยายฟ้องศาลท้าวมหาพรหมตามความเชื่อส่วนบุคคลให้เป็นกระแสข่าว ทั้งนี้เพราะบริษัทมีความเชื่อมั่นกระบวนการศาลที่ผู้รับจ้างเดินรถเป็นผู้เลือกดำเนินการมาตั้งแต่ต้น

ดังนั้น บริษัทจึงขอวิงวอนให้ผู้รับจ้างเดินรถ 1) ยุติการนำคดีพิพาทที่ศาลสูงสุดกำลังพิจารณา ไปป่าวประกาศและตัดสินเสียเองให้คู่ความต้องชำระหนี้ในทันที อาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ 2) หยุดสร้างประเด็นผ่านสื่อด้วยข้อมูลที่ยังไม่มีข้อยุติจากศาล ทั้งยังหมิ่นเหม่จะมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วย และ 3) ควรรักษาบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันในฐานะคู่ค้าทางธุรกิจ

อนึ่ง นอกเหนือจากคดีสัญญาค่าจ้างเดินรถดังกล่าวข้างต้นแล้ว บริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความสมบูรณ์ของอีกสัญญาหนึ่งคือ กรณีการซื้อขายระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนต่อขยาย 2) เพื่อตรวจสอบที่มาและความถูกต้องทางกฎหมายของสัญญานี้ โดยได้รับเกียรติจากท่านอดีตประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 5 และอดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ท่านศรีอัมพร ศาลิคุปต์  มาทำหน้าที่ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบฯ ซึ่งประกอบไปด้วยนักกฎหมาย ผู้ชำนาญการคดีการทำนิติกรรมสัญญา โดยคาดว่าจะมีข้อสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายโดยเร็ว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สภาผู้บริโภค' เสนอตัวเป็นคนกลางแก้ปมสายสีเขียว-ส้ม

“สภาผู้บริโภค”ออกแถลงการณ์เสนอตัวเป็นคนกลางแก้ปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว และเสนอยุติการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค

พนักงาน ’บีทีเอส’ บุกทำเนียบขีดเส้น 7 วันรัฐต้องจ่ายหนี้ 5 หมื่นล้าน

พนักงาน ‘BTS’บุกทำเนียบยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีต้องดำเนินการจ่ายหนี้ภายใน 7 วันหากไม่ดำเนินการอาจจะพิจารณาหยุดการเดินรถ

กลุ่มบริษัทบีทีเอส เดินหน้าส่งเสริมความเท่าเทียม และการยอมรับความหลากหลายภายในองค์กร เนื่องในวันสตรีสากล 2566 (International Women's Day 2023)

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ถือเป็นหนึ่งในองค์กรชั้นนำที่สนับสนุนบทบาทการทำงานของ “ผู้หญิง”

'คมนาคม' ตั้งธงลุยสายสีส้มต่อ วางแผนเดินหน้าชงครม.ไฟเขียว

“ศักดิ์สยาม” สั่ง รฟม.ตรวจสอบคำสั่งศาลละเอียดยิบ โครงการสายสีส้ม ระบุรัฐบาลรักษาการยังใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ กำชับฝ่ายกฎหมายตรวจสอบรายละเอียดมีการฟ้องร้องใดเกี่ยวกับการดำเนินการหรือไม่

วิบากกรรมสายสีส้ม! บีทีเอสชี้ยังมีอีก 3 คดีให้ได้ลุ้น

ทนายบีทีเอสระบุแม้ศาลปกครองสูงสุด ชี้แก้ไขหลักเกณฑ์คัดเลือกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มไม่ผิด แต่ไม่ส่งผลกระทบคดีอื่นที่เคยยื่นฟ้องก่อนหน้านี้อีก 3 คดี

บีทีเอส ส่งต่ออุปกรณ์ระบบรางเพื่อการศึกษา แก่มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 นายสุมิตร ศรีสันติธรรม ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ และนายราชิต รักษาสัตย์ ผู้อำนวยการฝ่ายซ่อมบำรุง