พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทย! ECO Innovation Forum 2025 รวมพลังรัฐ-เอกชน ปักธง ‘อุตสาหกรรมใหม่คู่ชุมชน’ มุ่งสู่ความยั่งยืน

กระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเวทีใหญ่ “ECO Innovation Forum 2025” ชูแนวคิด “พัฒนาประเทศไทยด้วยอุตสาหกรรมใหม่อย่างยั่งยืน” ผสานพลังรัฐ-เอกชน-ชุมชน ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว เทคโนโลยีสะอาด และเศรษฐกิจหมุนเวียน มุ่งสร้างสมดุลเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมสู่อนาคตยั่งยืน

18 ตุลาคม 2568 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมาย จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการแห่งปี “ECO Innovation Forum 2025” ภายใต้แนวคิด “พัฒนาประเทศไทย ด้วยอุตสาหกรรมใหม่อย่างยั่งยืน”

โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “การนำนิคมอุตสาหกรรมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน” ว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างโอกาสทางสังคม แต่ต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งการแข่งขันระดับโลก ปัญหาสิ่งแวดล้อม และความคาดหวังเรื่องความยั่งยืน

เขาย้ำว่า ภาคอุตสาหกรรมไทยจำเป็นต้อง “ปรับตัวให้ทันโลก และขับเคลื่อนเพื่อนำโลก” ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีสะอาด และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การบริหารภาคอุตสาหกรรมต้องเน้นทั้งการ “สนับสนุนและพัฒนา” ควบคู่กับการกำกับให้เป็นไปตามกฎหมาย ภายใต้แนวทาง “ปิดเร็ว–เปิดเร็ว–พึ่งพาได้” เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการบังคับใช้กฎหมายและการส่งเสริมเศรษฐกิจ

กระทรวงอุตสาหกรรมจะสนับสนุนผู้ประกอบการให้ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง โปร่งใส และยั่งยืน มุ่งพัฒนาในสามมิติหลัก คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงความร่วมมือจากรัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างสมดุล สู่การเป็น “พื้นที่ต้นแบบ” ของเศรษฐกิจ BCG และอุตสาหกรรมยั่งยืน

ด้าน นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงแนวทาง “MIND ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมคู่ชุมชน” ซึ่งมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นให้โรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเติบโตไปพร้อมกับชุมชนอย่างแท้จริง ผ่านการทำงานแบบบูรณาการใน 4 มิติ ได้แก่

1.ความสำเร็จทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม 2.การดูแลสังคมโดยรอบ เพื่อให้อุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้ 3.การดูแลสิ่งแวดล้อม ผลักดันอุตสาหกรรมสีเขียวและความเป็นกลางทางคาร์บอน 4.การกระจายรายได้สู่ชุมชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

ขณะเดียวกัน นายอสิ ตัณสถิตย์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในนามผู้แทน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง ส.อ.ท. และ กนอ. ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เป็นพลังสำคัญในการผลักดันแนวทาง Eco Industry, Eco Industrial Town, Green Industry และ Eco Factory สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050

ส.อ.ท. ยังเดินหน้านโยบาย “ONE FTI” เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไทยทั้งเก่าและใหม่ ภายใต้แนวคิด One Vision, One Team, One Industrial Thailand เสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการลงทุนของอาเซียน พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมจัดการของเสียอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างเป็นรูปธรรม

ในส่วนของ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้แสดงความยินดีต่อหน่วยงานและสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลในงาน โดยกล่าวว่า รางวัลเหล่านี้สะท้อนความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและรับผิดชอบต่อสังคม

ปีนี้ กนอ. มุ่งเดินหน้าโครงการ Quick Win เพื่อสร้างผลสำเร็จในระยะสั้น เช่น การปลดล็อกอุปสรรคการลงทุนด้วยกระบวนการอนุมัติ–อนุญาตที่รวดเร็ว โปร่งใส และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูการลงทุนและสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจไทย

ปิดท้ายด้วย นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่ย้ำว่า กนอ. มุ่งสร้าง “ภูมิทัศน์อุตสาหกรรมใหม่” (Industrial Landscape) เพื่อยกระดับนิคมอุตสาหกรรมสู่มาตรฐานสากล ดึงดูดนักลงทุน และขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาด ภายใต้แนวคิด “พัฒนาประเทศไทย ด้วยอุตสาหกรรมใหม่อย่างยั่งยืน” เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตเคียงคู่สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคง.