ธุรกิจบริการชาวนา แนวคิดดี มีอนาคต

คนไทยยุคเก่า ต้องรู้จักคำพูดที่ว่า “ชาวนา คือกระดูก สันหลังของชาติ” มาถึงยุคปัจจุบัน กระดูกสันหลัง เริ่มมีปัญหา จริงๆ มีมาแล้วพักใหญ่ จากการขาดแคลนแรงงาน ผลผลิตตกต่ำ ราคาผกผัน คู่แข่งข้าวไทยในตลาดโลก มีมากขึ้น ผลผลิตต่อพื้นที่ของประเทศคู่แข่งเขาสูงกว่า เป็นต้น

ถ้าดูสถิติล่าสุด ผลผลิตข้าวโดยรวมสามปีย้อนหลัง ไทยอยู่อันดับ 6 ตามหลัง จีน อินเดีย บังคลาเทศ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ตามลำดับ ผลผลิตต่อไร่ เราได้เพียงสามร้อยกว่า กก./ไร่ หรือประมาณครึ่งหนึ่ง ของเวียดนาม และหนึ่งในสามของจีน เมื่อมาดูรายภาค ภาคอิสานมีพื้นทที่ปลูกมากที่สุด ประมาณ 38 ล้านไร่ และแน่นอนผลผลิตน้อยที่สุด เฉลี่ยเพียงประมาณ 360 กก/ไร่ ปัญหาสำคัญของชาวนาอิสาน คือพื้นที่นาส่วนใหญ่ อาศัยน้ำฝน ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ำกว่าภาคอื่นๆ ขาดแคลนแรงงาน เพราะแรงงานหนุ่มสาว ไปทำงานอื่น นอกพื้นที่ เกษตรกรสูงวัย ส่วนใหญ่นอกจากพยายามทำเอง ก็ต้องอาศัยการจ้างซึ่งบางครั้งก็หาจ้างได้ไม่ทันเวลา ขาดเงินค่าจ้าง เป็นต้น

เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ได้ข่าวคนที่เคยรู้จัก เปิดบริษัทชื่อว่า “ หจก. แม่โขงสินทรัพย์การเกษตร” จึงขอสัมภาษณ์พูดคุย และเอามาเล่าต่อ คุณวิศวะ กุลนะ เจ้าของกิจการ เป็นคนธาตุพนม ปัจจุบันเป็นพนักงานองค์กรปกครองท้องถิ่นแห่งหนึ่ง สำเร๗การศึกษาปริญญาตรี วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และปริญญาโท ปฐีศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มต้นทำงานด้วยการเป็นลูกจ้าง ม.นครพนม พนักงานราชการ ม.กาฬสินธุ์ และบรรจุเป็นข้าราชการกรมการข้าวตำแหน่งนักวิชาการเกษตร ที่ศูนย์วิจัยข้าวอุดรธานี และสกลนคร รวม 8 ปีก่อนที่จะโอนย้ายมาอยู่องค์กรปกครองท้องถิ่นใกล้บ้าน จากประสบการณ์ที่ทำงานวิจัยข้าว และช่วยงานศูนย์การพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีส่วนไปช่วยดูแลการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวจำหน่ายในรูปสหกรณ์ของกลุ่มเกษตร จึงมองเป็นปัญหาของชาวนาอิสานว่า ปัญหาหลักคือ น้ำ ขาดเงินลงทุน ไม่ทำตามหลักวิชาการ เช่นการใช้ปุ๋ยเฉพาะ (ปุ๋ยสั่งตัด) และไม่มีทักษะ การบริหารจัดการ ถามถึงนโยบายภาครัฐ เขามองว่า การใช้โยบายเดียวครอบคลุมทั้งประเทศ ไม่เหมาะสม เช่นการส่งเสริมการปลูกข้าวหอมมะลิ ในบางพื้นที่ข้าวพันธุ์อื่นให้ผลผลิตสูงกว่า เป็นต้น ส่วนนโยบาย จ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละพันบาท ก็เกาไม่ถูกที่คัน เพราะเกษตรกรส่วนหนึ่ง เอาเงินไปใช้อย่างอื่น มากกว่าเพื่อสนับสนุนการทำนาจริงๆ

ถามถึงแนวคิดการจัดตั้งธุรกิจบริการชาวนา เขาบอกว่า เพื่อช่วยชาวนาทำนาแบบบริหารธุรกิจ และถูกต้องตามหลักวิชาการ และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้าถึงได้ ที่ให้บริการมาแล้วคือ ขายแผ่นกล้า รับจ้างดำนา (ด้วยรถดำนา) ซึ่งปัจจุบันมีสอง สาขา ที่สกลนคร และนครพนม และปีนี้ได้ติดตั้ง โรงสีขนาดกลางที่นำเข้าเทคโนโลยีของจีน มาบริการ โดยไม่คิดค่าสี (เอาเพียงผลพลอยได้ คือรำข้าว) เพื่อบริการเกษตรกรที่ต้องการจำหน่ายข้าวเอง ที่ผ่านการสีข้าวที่ได้มาตรฐาน   และรับซื้อข้าวเปลือก จากลูกค้าที่ใช้บริการซื้อแผ่นกล้า และจ้างดำนา ในราคายุติธรรม มีบริการเครื่องคัดแยกเมล็ดพันธุ์ ที่สามารถคัดแยกสิ่งเจือปนต่างๆ ได้หากเกษตรกรต้องการเก็บหรือจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ ในปีต่อไปมีโครงการจะเปิดบริการ คลีนิคชาวนา เพื่อให้คำแนะนำ แก้ปัญหาต่างๆ ของชาวนาด้วย

จากการเปิดบริการที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากคนในพื้นที่พอสมควร รวมทั้งวิทยาลัยเทคนิคเอกชน ที่มาขอดูงานและสนใจจะทำศูนย์เพาะกล้า

เรื่องพันธุ์ข้าว และคุณภาพเมล็ดพันธุ์ ก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้เกษตรกรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนการผลิต เพราะเกษตรกรมีผลผลิตสูงขึ้น ถ้าใช้ข้าวพันธุ์ดี และเมล็ดภัณฑ์คุณภาพดี ในอดีตเคยมีโครงการที่รัฐบาลสนับสนุนสหกรณ์การเกษตรให้ผลิตเมล็ดภัณฑ์ข้าวคุณภาพดีจำหน่าย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกด้วย ผู้เขียนเคยรับงานประเมินผลโครงการดังกล่าว จากสำนักงบประมาณ ซึ่งจำได้ว่าโครงการนี้ใช้งบประมาณสูงพอสมควร มีการซื้อเครื่องคัดแยกเมล็ดให้กับสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ และผลสัมฤทธิ์ของโครงการดังกล่าว ก็ไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากบางสหกรณ์ ทำได้ดี บางสหกรณ์เอาเครื่องมือต่างๆ ที่ได้รับมาตั้งไว้เฉยๆ อย่างน่าเสียดาย ปัจจุบันศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของทางราชการ ก็ผลิตเมล็ดพันธุ์ได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร เกษตรกรส่วนใหญ่จึงเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง ซึ่งอาจไม่ได้คัดแยกตามหลักวิชาการ และอาจไม่ควบคุมคุณภาพ

วัฐจักรการทำนาของเกษตรกร โดยเฉพาะในภาคอิสาน เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ก็จะไถนา หรือจ้างรถไถนามาเตรียมดินรอ และมักจะทำนาหว่าน มากกว่าการปักดำ ด้วยปัญหาขาดแรงงาน ไม่มีพื้นที่เพาะกล้า การดูแลรักษา ใส่ปุ๋ ฉีดยาฆ่าแมลง ก็ขึ้นอยู่กับกำลังเงินที่จะลงทุนเป็นหลัก และถึงเวลาเก็บเกี่ยว ภาพการลงแขกเกี่ยวข้าวก็หาดูได้ยาก หรือหาไม่ได้แล้ว ชาวนาจะรอรถเกี่ยวรับจ้างจากนอกพื้นที่ ซึ่งบางครั้งไม่สามารถเลือกเวลาได้ เพราะผู้รับจ้างจะมารอบเดียวในพื้นที่หนึ่งๆ หากข้าวของชาวนายังไม่แก่ดี ก็อาจจะต้องยอมให้เกี่ยวก่อนกำหนด หรือถ้าสุกแก่ไปแล้วก็อาจร่วงหล่นเสียหายทำให้ผลผลิตที่ได้ต่ำลงไปอีก  

การมีผู้ประกอบการในพื้นที่เช่นแม่โขงสินทรัพย์การเกษตร มาให้บริการหลายๆ อย่างที่กล่าวข้างต้น จึงเป็นการตอบสนองความต้องการของชาวนาที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ผู้เขียนจึงมองว่าธุรกิจบริการชาวนาแบบนี้ เป็นแนวคิดที่ดี และมีอนาคต

หากภาครัฐ จะหันมาสนใจสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน หรือผู้ประกอบการ เช่นแม่โขงสินทรัพย์การเกษตร ให้บริการชาวนา ในเรื่องต่างๆ และคอยติดตามควบคุมคุณภาพการบริการ ไม่หว่านงบประมาณแบบการแจกเงินให้เปล่า น่าจะตรงเป้า เข้ากับความต้องการของแต่ละท้องถิ่นได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวนา ที่ส่วนใหญ่สูงวัย แต่ยังต้องทำนาต่อไป เพราะไม่มีทางเลือกอื่น อย่างน้อยก็มีข้าวไว้บริโภคในครอบครัว ขายได้บ้างยามต้องการใช้เงิน

ในอนาคตหลังการเลือกตั้งใหม่ หวังว่าชาวนาอิสานจะได้รับการดูแล เอาใจใส่ แบบเกาถูกที่คันจากนโยบายพรรคการเมือง และนโยบายรัฐบาลที่จะมาบริหารจัดการ แก้ไขปัญหาของเกษตรกร ที่ยังเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศได้ดีขึ้น

คอลัมน์ พิจารณ์นโยบายสาธารณะ

ดร สุวิทย์ เลาหศิริวงศ์
กลุ่มนโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ

กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้ 

'เอ็ดดี้' วิเคราะห์ละเอียดยิบ ทางเลือกของคนไทยรักชาติ กาพรรคใดเข้ามาบริหารประเทศ

การเมืองรอบนี้ไม่มี พระเอกขี่ม้าขาว ที่สมบูรณ์แบบ 100%  เราต้องถามตัวเองว่า เราให้ราคากับอะไรมากที่สุด? เลือกแบบไหน ได้ประเทศแบบนั้น

'เทพไท' ชี้กลยุทธ์พรรคการเมือง เสนอ 3 แคนดิเดตนายกฯ หวังกระตุ้นเรตติ้งพรรค

พรรคการเมืองจะปรับกลยุทธ์เข้าสู่สนามเลือกตั้ง จะประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบ3คนหรือไม่ ก็เป็นกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองแต่ละพรรค

หนุ่มสุรินทร์เกี่ยวข้าวหอมมะลิ 22 ไร่ บริจาคโรงทานหลวง ถวายเป็นพระราชกุศล

ชาวนาตาอ็องเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิราว 10 ตัน เตรียมนำไปสี-บรรจุถุง ส่งให้โรงทาน ณ ท้องสนามหลวง หุงแจกประชาชนที่ไปถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง