บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป พร้อม เปิดตัวรถใหม่ 8 รุ่น ตอกย้ำเบอร์หนึ่งยานยนต์พรีเมียมด้วยกลุ่ม ‘Luxury Class’

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ฉลองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่สาม จากผลลัพธ์แห่งความทุ่มเทของบริษัทด้านความพึงพอใจของลูกค้า นวัตกรรม และยนตรกรรมศาสตร์แห่งศิลป์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทำผลงานยอดจดทะเบียนรถยนต์อย่างแข็งแกร่ง  ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในตลาดรถยนต์พรีเมียมที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่า 46.6% เพิ่มขึ้น 36.1% จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย วางแผนต่อยอดความสำเร็จด้วยการเปิดตัวยนตรกรรมใหม่มากมาย นำทัพโดยรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู XM ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive40d M Sport ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู X1 sDrive18i โฉมใหม่, บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 Gran Sedan ใหม่, และรถยนต์มินิ Resolute Edition ที่มีให้เลือกถึงสามรุ่นย่อย รวมไปถึงมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู M 1000 R และ R 1250 GS ในตัวเลือกสีใหม่

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ที่บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย การมุ่งสู่อนาคตคือนิยามของทุกสิ่งที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ วิธีที่เราทำธุรกิจ หรือการมอบสิ่งดี ๆ คืนให้กับโลก ความมุ่งมั่นในด้านนวัตกรรมและความเป็นเลิศตลอดทั้งปี 2565 ส่งผลให้ลูกค้ามอบความไว้วางใจให้กับเรา เราภูมิใจที่จะประกาศว่าเรายังคงครองตำแหน่งผู้นำในเซกเมนต์พรีเมียมอีกครั้ง และด้วยความสำเร็จและการเติบโตตลอดปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Luxury Class และรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการเปิดตัวรุ่นรถยนต์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบีเอ็มดับเบิลยู XM, X7  หรือซีรีส์ 7 อย่างไรก็ตาม พลังแห่งการเลือกยังคงเป็นปรัชญาที่เราภาคภูมิใจ และพร้อมแนะนำหลากหลายยนตรกรรมใหม่ ๆ จากแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ไปจนถึงบริการและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ตามความต้องการ เรายังมุ่งมั่นเดินหน้าธุรกิจอย่างยั่งยืน อย่างที่เห็นได้จากหลากหลายโครงการด้านความยั่งยืนที่เราให้ความสำคัญมากขึ้น บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะยังคงมุ่งสู่ความเป็นเลิศไปพร้อม ๆ กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการและพาร์ทเนอร์ของเรา เพื่อส่งมอบความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าคนสำคัญของเราทุกคน

ด้วยผลงานที่แข็งแกร่งของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่ม Luxury Class หรือรถยนต์รุ่นที่สูงที่สุดของแบรนด์ เช่น บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7, ซีรีส์ 8, X7, และ M8 ที่ทำผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ โตขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 25.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งมอบสุดยอดความเป็นเลิศและนิยามใหม่แห่งความหรูหรานี้ รถยนต์ในกลุ่ม Luxury Class คือที่สุดแห่งการเสาะหาเอกลักษณ์และความเอ็กซ์คลูซีฟที่ไม่มีใครเทียบ ความมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์พิเศษเห็นได้จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นไฮไลท์อย่างบีเอ็มดับเบิลยู XM ใหม่ รถยนต์ตระกูล M สมรรถนะสูงรุ่นแรกซึ่งมาพร้อมระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดทรงพลัง ในคอนเซปต์ใหม่ของรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (Sports Activity Vehicle – SAV) บีเอ็มดับเบิลยู X7 xDrive40d M Sport ใหม่ อีกหนึ่งรุ่น SAV ที่ผสานความปราดเปรียว รูปลักษณ์ที่หรูหรา และความโอ่อ่า เข้ากับระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง และบีเอ็มดับเบิลยู 750e xDrive M Sport ใหม่ ขั้นกว่าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่มอบสุดยอดแห่งความเพลิดเพลินในการขับขี่ ความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล และประสบการณ์ดิจิทัลล้ำสมัย ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นของยนตรกรรมศาสตร์แห่งศิลป์ รวมถึงความสำเร็จของการทำตลาดและกลยุทธ์ลูกค้าในปี พ.ศ. 2565 ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ปประเทศไทย ยังคงครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในตลาดยานยนต์พรีเมียมไว้ได้ โดยบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ก้าวสู่ความสำเร็จอีกขั้นด้วยตำแหน่งผู้นำในตลาดพรีเมียมของไทยติดต่อกันเป็นปีที่สามทั้งสองแบรนด์มีอัตราการเติบโตในตลาดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเติบโตขึ้นถึง 46.6% ในตลาดยานยนต์พรีเมียม และมียอดจดทะเบียนรถยนต์กว่า 15,010 คัน ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าถึง 36.1% (แบ่งเป็น บีเอ็มดับเบิลยู 13,572 คัน และมินิ 1,438 คัน)

 

ในระดับโลก บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงเติบโตและครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมระดับโลกใน ปี พ.ศ. 2565 โดยได้ส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์รอยซ์รวม 2,399,636 คันให้กับลูกค้าทั่วโลก ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยูยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเภทรถยนต์ไฟฟ้า โดยยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี พ.ศ. 2564 ด้วยยอดส่งมอบรวม 215,755 คันจากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิ พุ่งสูงขึ้นถึง 107.7% และเมื่อรวมรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 372,956 คันตลอดทั้งปี เพิ่มขึ้น 35.6% จากปีก่อนหน้า สะท้อนความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ทำสถิติยอดขายสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยยอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์และสกู๊ตเตอร์รวม 202,895 คันทั่วโลก

 

สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ความต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นนี้ สะท้อนให้เห็นจากส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ระดับพรีเมียมที่สูงถึง 40.8% ด้วยยอดจดทะเบียน 535 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปีก่อนหน้า ความสำเร็จดังกล่าวคือ ผลลัพธ์จากการนำเสนอยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดอย่างต่อเนื่องของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมียนตรกรรมไฟฟ้าให้เลือกซื้อครบทั้ง 3 แบรนด์ โดยรุ่นที่โดดเด่น ได้แก่ รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู i7 ที่เปิดตัวในไทยครั้งแรกกับการเป็น โมบิลิตี้ พาร์ตเนอร์ อย่างเป็นทางการสำหรับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 (APEC 2022) และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รถยนต์มินิ คูเปอร์ เอสอี ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยรูปลักษณ์และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ และบีเอ็มดับเบิลยู CE 04 สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมืองอย่างลงตัว นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะได้มากถึง 900 หัวจ่ายทั่วประเทศ ควบคู่กับการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านสำหรับลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูและมินิมากถึง 2,500 เครื่อง

 

โดยในปี พ.ศ. 2565 ได้เปิดตัวคอนเซปต์การออกแบบโชว์รูมและศูนย์บริการแบบใหม่ หรือ Retail Next ที่รังสรรค์บรรยากาศในการสัมผัสแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยูที่ผ่อนคลายและใกล้ชิดกับลูกค้ามากยิ่งขึ้นตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไปยังโชว์รูม แนวคิดการออกแบบใหม่นี้ได้นำมาใช้ครั้งแรกในการออกแบบโชว์รูมและศูนย์บริการ มิลเลนเนียม ออโต้ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ ซึ่งเปิดให้บริการในปีที่ผ่านมา รวมถึงเพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส ราชพฤกษ์ที่เริ่มเปิดให้บริการเมื่อเร็ว ๆ นี้ และคอนเซปต์การออกแบบ Retail Next จะนำมาใช้กับโชว์รูมที่เตรียมเปิดบริการในปี พ.ศ. 2566 นี้ ได้แก่ มิลเลนเนียม ออโต้ สุราษฎร์ธานี และ เนลสัน ออโต้เฮ้าส์ ระยอง ในขณะเดียวกัน ลูกค้ามินิก็สามารถเข้ารับบริการหลังการขายที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและมาตรฐาน ณ ศูนย์บริการหลังการขาย (Service Only Outlet) แห่งใหม่ถึง 3 แห่งซึ่งเปิดให้บริการในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น มิลเลนเนียม ออโต้ ลาดพร้าว, เยอรมัน ออโต้ สุวรรณภุูมิ และพลาติโน มอเตอร์ สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ก็เดินหน้ายกระดับการออกแบบโชว์รูมให้ตอกย้ำถึงแนวคิด Make Life a Ride ที่สื่อถึงจิตวิญญาณอิสระของเหล่านักบิดและเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างรอบด้านยิ่งขึ้น โดยภายในปีนี้ เตรียมปรับโฉมมิลเลนเนียม ออโต้ อุบลราชธานี และบาเซโลนา มอเตอร์ เชียงใหม่ และภายในปี 2566 จะมีโชว์รูมและศูนย์บริการในทุกประเภท สำหรับแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู 34 แห่ง มินิ 18 แห่ง และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด 14 แห่ง

 

สิงห์นักบิดอุ่นใจกว่าที่เคย บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ขยายการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางและบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินหรือ โมบิลิตี้ เซอร์วิส เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับลูกค้าที่รับมอบมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่วันที่
1 มกราคม พ.ศ. 2566 (เข้าถึงการรับประกันได้ทั่วโลกกับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด สำหรับบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น)

 

ในขณะเดียวกัน แพ็คเกจบำรุงรักษา BMW Motorrad Service Inclusive (BMSI) ยังพร้อมให้ลูกค้าได้เลือกซื้อเป็นครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป ซึ่งสามารถเลือกได้ระหว่างแพ็คเกจบำรุงรักษาครอบคลุม 3 ปี / 30,000 กิโลเมตร หรือแพ็คเกจ 5 ปี / 50,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*

 

นอกจากนี้ ด้วยพันธกิจที่มุ่งสรรค์สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้คนในพื้นที่ชนบท โครงการ Care4Water เริ่มต้นขึ้นเพื่อจัดหาน้ำสะอาดที่เข้าถึงได้ให้กับชุมชนที่ขาดแคลนน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ตลอดระยะเวลา 8 ปีของโครงการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ส่งมอบเครื่องกรองน้ำรวมทั้งสิ้น 7,103 ชุด ให้กับ 96 ชุมชนใน 32 จังหวัดทั่วประเทศไทยและเพื่อเป็นการกระตุ้นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมด้านความยั่งยืน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จึงริเริ่มดำเนินโครงการ 'Choice is Yours' ในปี พ.ศ. 2565 เพื่อส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษากล้าแสดงความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรชั้นนำต่าง ๆ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ได้สนับสนุนนิสิตนักศึกษารุ่นเยาว์ในการต่อยอดไอเดีย เพื่อค้นหาแนวทางในการ REduce REuse REthink และ REcycle พร้อมส่งเสริมความเชี่ยวชาญยิ่งขึ้นกับโปรแกรมการฝึกงานซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของทั้งนิสิตนักศึกษาและสังคมในภาพกว้าง โครงการดังกล่าวยังได้ขยายไปสู่ผู้จำหน่ายด้วยเช่นกันกับรางวัล ‘Sustainability Awards ’ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มอบให้เพื่อแสดงความยกย่องผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และจะสานต่อความสำเร็จของโครงการ 'Choice is Yours' ในปี พ.ศ. 2566 ต่อไป และจะการปรับราคาใหม่ของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูบางรุ่น ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป เนื่องจากผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่สูงขึ้นและต้นทุนการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จึงประกาศปรับราคารถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูบางรุ่น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป


โดย นรินทร โชติภิรมย์กุล

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

MU-X “THE NEXT PEAK” Press Trip แอ่วเหนือสุดพีค เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย

อีซูซุจัดทริปพาสื่อมวลชนแอ่วเหนือบนเส้นทางเชียงใหม่ - เชียงราย ไปกับรถมิว-เอ็กซ์ “เดอะ เน็คซ์พีค” รถยนต์อเนกประสงค์ระดับหรูรุ่นใหม่ล่าสุด

ซิกท์ ร่วมมือกับ การบินไทย และ บีเอ็มดับเบิลยู รังสรรค์ประสบการณ์พิเศษให้ลูกค้าชั้นเฟิร์สคลาส

ซิกท์ รถเช่า ประเทศไทย หนึ่งในผู้นำด้านบริการรถเช่าระยะสั้น ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)

ซูซูกิปลื้ม ‘รถถัง จิตรเมืองนนท์’ เลือกใช้ ‘SWIFT’ พร้อมขยายแคมเปญ “SWIFT 777” เพียง 5,780 บาท

บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยผลตอบรับแคมเปญ “SUZUKI WORRY FREE โปรแกรมดีโดนใจ มอบความมั่นใจให้คุณ”

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ส่งแคมเปญ “The GREAT DEAL ลดแรง แซงทุกดีล” กับส่วนลดสูงสุดถึง 450,000 บาท

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้นำรถยนต์พลังงานใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมอัจฉริยะ เดินหน้าสู่ครึ่งปีหลังของ 2567

ฟอร์ดตอกย้ำความแกร่งดุดันของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ในกิจกรรม ‘King of Tough’

ฟอร์ด ประเทศไทย สานต่อความสำเร็จของกิจกรรม ‘King of Tough’ พาลูกค้าพิสูจน์สมรรถนะความ ‘แกร่งจริงทุกคัน ดุดันทุกสถานการณ์’