
การเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงต่างๆ ในประเทศไทยนั้นต้องผ่านด้านการบริหารงานมาเข้มข้น และยังต้องเป็นผู้มีวิสัยทัศน์อย่างจริงจัง เพราะไม่เช่นนั้นการผลักดันนโยบายระดับประเทศก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ หรืออาจจะไม่ได้สร้างผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อย่างที่สมควรจะเป็น แน่นอนว่าที่ผ่านมาการทำงานของกระทรวงเศรษฐกิจหลายกระทรวงตั้งแต่เปลี่ยนขั้วทางการเมืองก็อาจจะมีบ้างที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แต่ก็มีอีกหลายผลงานที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของสังคมได้จริงๆ
“อาทิตย์เอกเขนก” ฉบับนี้จึงอยากจะฉายภาพการทำงานของหนึ่งในกระทรวงเศรษฐกิจที่แม้จะเป็นกระทรวงที่เก่าแก่ แต่ปัจจุบันต้องยอมรับว่าบทบาทนั้นถูกแบ่งไปยังหน่วยงานอื่นๆ ซะมากกว่า รวมถึงเป็นกระทรวงที่ก่อให้เกิดหน่วยงานที่จะพัฒนาประเทศ หรือเป็นชิ้นส่วนหลักในการเดินหน้าเศรษฐกิจหลายรูปแบบมาตลอดอย่าง กระทรวงอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันผู้ที่คุมบังเหียนอยู่นั้นเป็นนักการเมืองหญิงที่มาจากแดนใต้อย่าง “พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล”
แม้จะทำงานมาหลายเดือนแล้วและเริ่มเห็นผลงานบางอย่างที่ถูกผลักดันอย่างจริงจัง หรือบางอย่างกำลังรอความชัดเจนอยู่นั้น แต่ล่าสุดได้เปิดนโยบายผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศสู่การขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ โดย ‘พิมพ์ภัทรา’ ได้เป็นประธานการประชุมสัมมนามอบนโยบายเพื่อผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศสู่การขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ และเปิดเผยว่า ช่วงเวลากว่า 8-9 เดือน จากวันแรกที่เข้ารับตำแหน่งจนถึงวันนี้ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะเข้ามาขับเคลื่อนงานของกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อให้เป็นที่พึ่งของผู้ประกอบการและประชาชนอย่างแท้จริง
พร้อมมอบนโยบาย “รื้อ ลด ปลด สร้าง” เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานให้กับผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทุกระดับที่ปฏิบัติงานภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมทั่วประเทศได้นำไปปรับใช้ ในการเร่งรัดสนับสนุนและแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการ พร้อมสร้างปัจจัยแวดล้อมที่เอื้ออำนวย โดยมีเป้าหมายให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และอยู่คู่กับประชาชนและสังคมได้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การดำเนินภารกิจให้สำเร็จต้องอาศัยการร่วมแรงร่วมใจของทุกหน่วยงานในกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเฉพาะหน่วยงานในระดับพื้นที่ต้องมีบทบาทที่เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนเกิดผลอย่างรวดเร็วเป็นรูปธรรมในระดับพื้นที่ ประกอบด้วย ‘รื้อ’ ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบให้เอื้อต่อการประกอบกิจการอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้น ‘ลด’ ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการประกอบการ ซึ่งต้องพิจารณาทั้งระบบตั้งแต่ก่อนการอนุญาตไปจนถึงการกำกับดูแลและการปราบปรามผู้กระทำความผิด ‘ปลด’ ภาระให้ผู้ประกอบการโดยปรับลดกระบวนการทำงานที่ไม่จำเป็น เพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบการ และ ‘สร้าง’ อุตสาหกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก พร้อมสร้างเครือข่ายการทำงานอย่างบูรณาการ
‘พิมพ์ภัทรา’ กล่าวว่า จากความมุ่งมั่นและตั้งใจปฏิบัติงาน ส่งผลให้หลายเรื่องเริ่มเกิดผลเป็นรูปธรรม สะท้อนได้จากผลงานสำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรมทั้งในระดับภาพรวมและในเชิงพื้นที่ อาทิ การยกเลิกการต่ออายุใบอนุญาตการประกอบกิจการโรงงาน ยกเลิกการยื่นเอกสารที่ไม่จำเป็น การแก้ไขกฎหมายโรงงาน เพื่อปลดล็อกเรื่องการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) การกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค พร้อมกำหนดมาตรฐานเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย
นอกจากนี้ ‘พิมพ์ภัทรา’ ยังได้เข้ามาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอนาคต สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น การพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล เร่งผลักดันให้สินค้าและบริการฮาลาลไทยเข้าไปมีส่วนแบ่งในตลาดโลกได้มากขึ้น ยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน ทั้งซัพพลายเชนครบวงจร พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยบูรณาการร่วมกับกระทรวงกลาโหม เพื่อให้มีการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ นำไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ สร้างความเข้มแข็งให้ SME และวิสาหกิจชุมชน สนับสนุนองค์ความรู้และแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำผ่าน SME D Bank และกองทุนฯ ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม

ผลักดันโครงการเหมืองแร่โพแทชในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมผลิตปุ๋ยภายในประเทศ การช่วยเหลือชาวไร่อ้อย สนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำตาลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ แก้ปัญหา PM 2.5 จากการเผาอ้อย การสนับสนุนพลังงานสะอาด และการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรม ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ เน้นการพัฒนานิคมฯ Smart Park เพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาเชิงนิเวศและนวัตกรรม เป็นต้น
‘พิมพ์ภัทรา’ กล่าวต่อไปว่า เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้เดินหน้าสู่อนาคตที่ดีขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมผลักดันโครงการใหม่ๆ เช่น การขับเคลื่อน Green Productivity เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างยั่งยืน โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรมและการวิจัยมาใช้พัฒนากระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ การจัดตั้งนิคมเซอร์คูลาร์แห่งแรกของประเทศไทยในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มุ่งหวังให้เป็นพื้นที่เป้าหมายของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียวและเศรษฐกิจหมุนเวียน
การเดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมฮาลาลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรภายในประเทศ เพื่อต่อยอดสู่การเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลกตามวิสัยทัศน์ประเทศไทย อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตปุ๋ยจากแร่โพแทช ส่งเสริมการใช้แร่ลิเทียมผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมโกโก้ ยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มแก่อุตสาหกรรมเกษตรไทย อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ รองรับการเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพนานาชาติ
“ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับความท้าทายในหลายด้าน เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นอีก รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงต้องปรับสู่การเป็นหน่วยงานที่ “สู้ให้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง” โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ เจ้าหน้าที่ อก.ต้องเข้าไปช่วยแก้ปัญหาและเป็นที่พึ่งของผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ได้ในทุกเรื่องอย่างทันท่วงที ตลอดจนขจัดอุปสรรคต่างๆ โดยบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง” พิมพ์ภัทรากล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดใจ‘ปัฐตพงษ์ บุญแก้ว’วิศวกรสร้างทางคู่ สุดหินสายเหนือสร้างอุโมงค์เจาะภูเขาฝ่าภัยพิบัติและความเชื่อ
ท่ามกลางแนวเขาสลับซับซ้อนของพื้นที่ภาคเหนือ ที่ปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ช่วง “เด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ” กำลังค่อยๆ เผยให้เห็นภาพความคืบหน้างานก่อสร้าง คงต้องบอกว่า
โมเดลสร้างเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ‘นิลมังกร’ แปลงร่างคนตัวเล็กให้กลายเป็นฮีโร่ของเศรษฐกิจท้องถิ่นไทย
ในโลกธุรกิจระดับสากล องค์กรที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดมักถูกขนานนามว่า “ยูนิคอร์น” ซึ่งเน้นการเติบโตแบบทวีคูณ แต่สำหรับเมืองไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
“ดื้อคือปิด! ธนกรสั่งชัด-โรงงานไหนไม่แก้ไข หยุดกิจการทันที สั่งเต็มเหนี่ยว บุกตรวจโรงงานกระดาษ นำร่องโชว์มาตรการสู้ฤดูฝุ่น PM2.5
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งการชุดปฏิบัติการ “เต็มเหนี่ยว” กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง
เปิดแนวคิดปั้นแบรนด์‘bpositive’ลงสนามเฮลท์แคร์ไทย ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยจุดมุ่งหมายและมอบพลังบวกแก่สังคม
ท่ามกลางการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดเฮลท์แคร์ไทย ตามความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่ได้มองแค่การ “รักษา” แต่เปลี่ยนผ่านสู่การ
อุตฯส่งรถโมบายตรวจวัดคุณภาพอากาศเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะปราจีนบุรี
อุตฯ สั่งชุดเต็มเหนี่ยวส่งรถโมบายตรวจวัดคุณภาพอากาศเฝ้าระวังผลกระทบเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะปราจีนบุรี – ยืนยันคุณภาพอากาศยังไม่เกินมาตรฐาน #โปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิกใหม่! รับโบนัส 100%, #เมื่อสมัครสมาชิกใหม่และทำการฝากเงินครั้งแรก พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับแฟนบอลที่ชอบ ฟุตบอล และ สล็อตเว็บตรง! โปรโมชั่นฟรีสปินและโบนัสพิเศษรอคุณอยู่!
‘พิมพ์ภัทรา’ นำทีมจัด ‘ครัวคนคอน รักจริงไม่ทิ้งกัน’ ลุยช่วยหาดใหญ่
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 10 จัด “ครัวคนคอน รักจริงไม่ทิ้งกัน” ระดมกำลังชาวนครศรีธรรมราชเดินหน้าช่วยพี่น้องชาวหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

