
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี2565
โดย ฟองสนาน จามรจันทร์
ปีแห่งดาวใหญ่ย้ายราศี-ลางเปลี่ยนแปลงทางการเมืองโผล่
จบปฏิวัติใหญ่เมืองสู่การโงหัว และเจ็ดปีของการปฏิวัติเศรษฐกิจ
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรสำคัญปี2565
พระราหูจร(8)ย้ายจากพฤษภเข้าๆไปเดินในราศีเมษตั้งแต่29มีนาคม 2565-วันสิ้นปี พฤหัสบดีจร(5)เดินอยู่ในราศีกุมภ์ตั้งแต่ต้นปี-8เมษายน 2565
ย้ายเข้าไปเดินในราศีมีน8เมษายน2565-วันสิ้นปี(มีเดินผิดปกติ)มฤตยูจร(0)ย้ายจากราศีเมษเข้าราศีพฤษภวันที่8กรกฎาคม2565
-เริ่มเดินถอยหลังในราศีพฤษภวันที่17กันยายน2565
-เดนถอยหลังกลับเข้าราศีเมษวันที่1ธันวาคม 2565-เดินผิดปกติในราศีเมษถึงวันสิ้นปี2565
พระเสาร์จร(7)เดินในราศีมังกรตลอดทั้งปี(มีเดินผิดปกติ)ทักษาจรเมืองภูมิเดิม อาทิตย์21เมษายน 2565เมืองอายุเต็ม240ปี-อายุย่าง/241ปีตกภูมิพฤหัสบดี
สรุป-เกณฑ์สำคัญที่จะอุบัติในเมือง
++หัวหน้าเทวดาประจำเมืองให้คุณเมืองรอดต่อเนื่องถึงต้นเมษายน
++ต้นปีราหูจรยังค้นทรัพย์เมืองกระเป๋าปลิ้น-ปลายมีนาคมปรากฎการณ์นี้จบลงพร้อมเศรษฐกิจเริ่มโงหัว
++ตั้งแต่เมษายนเริ่มกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองรัฐบาลก่อกวนสร้างปัญหาหักกันเอง-นายกฯดูดีกว่ารัฐบาล-ฝ่ายค้านหรือตรงข้ามรัฐบาลยังจะเหมือนคนป่วย
++มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญมากทางการเมือง
++กลางปีลางโควิด19เป็นโรคสามัญประจำโลก
++กลางปียุติเจ็ดปีของการปฏิวัติใหญ่เมืองและจิตใจคนในเมือง
++กลางปีเริ่ม เดินหน้าสู่เจ็ดปีปฏิวัติใหญ่เศรษฐกิจการทำมาหากินท่ามกลางสงครามเศรษฐกิจโลกสุมพลังรอปะทุดุเดือดเป็นระยะๆ
++เริ่มเจ็ดปีของการปฏิวัติใหญ่กองทัพ-ผู้ถืออาวุธ-ตำรวจเพื่อรับมือความล้ำสมัยทางเศรษฐกิจ
++สู้กันในอุดมการณ์สำคัญของชาติ-สถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไปอีกประมาณ18ปี
++น้ำเต็มเมืองท่วมในวงกว้างมากจนบางช่วงเมืองเข้าสู่สภาวะคับขันจากน้ำและดิน
++อุบัติเหตุใหญ่สองช่วง-แถมแผ่นดินไหวพอให้ตื่นเต้นกว่าปกติสักสองสามครั้ง
++พี่น้องมุสลิมระวังภัย
++วงการบันเทิงทั้งดารา-นักร้อง-คนเด่นดัง-สวย-หล่อยังดวงตกมากต่อไปอีกหนึ่งปี
++ช่วงพระ-นักบวชแพ้ภัย
ในบรรดาสิ่งดีร้ายที่จะเกิดในเมืองได้ตลอดเวลานั้น เกณฑ์ทางโหรที่สำคัญที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ตลอดปี2565คือ
1. ด้านดี ตั้งแต่ต้นปี-8เมษายน2565 หัวหน้าเทวดาประจำเมืองเข้มแข็งและให้คุณกับเมือง เมืองจึงยังมีแนวโน้มฟุ่งเฟือง คนลือเลื่องลาภเหลือหลาย(ต่อเนื่องมาจากประมาณ9พฤศจิกายน 2564 )
อีกทั้งระยะนี้เรื่องร้ายมากๆเช่นความเดือดร้อนจากโควิด19ที่เกิดแบบไม่อยากได้ก็มาเช่นประเภทกลายพันธุ์(หินลาภาจักได้)ยังมีอยู่ แต่เมืองก็จะรอดมีโอกาสได้รับการชื่นชมยินดีหรือโด่งดังด้านสุขภาพ-รายได้เริ่มเข้ามา-เพื่อนๆของเมืองหรือนักท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศ-ตัวเลขทางเศรษฐกิจเริ่มออกแนวดีขึ้น
2.ด้านร้าย ยังแทรกต่อเนื่องจากต้นปี-29มีนาคม 2565 ราหูจร(8)ยังค้นทรัพย์เมือง(พระราหูจรเดินอยู่ในราศีพฤษภ)และราหูล่าหนี้ประชาชน(ที่เป็นมาตั้งแต่กันยายน2563) ผลคือรัฐบาลจึงจะยังมีหนี้หรือภาระที่ต้องควักเงินจนกระเป๋าปลิ้น หนี้สาธารณะของชาติเพิ่มเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และประชาชนก็ยังคงมีหนี้นุงนังวุ่นวายจนหนี้ครัวเรือนพุ่งพรวดพราด สิ้นเดือนมีนาคม 2565เกณฑ์นี้จะจบลง
3.แม้ตลอดทั้งปีประชาชนส่วนใหญ่ยังเครียดหนี้และเจ็บไข้ได้ป่วยให้รัฐบาลต้องแบกภาระหนักต่อไป แต่จะมีจุดเริ่มโงหัวหรือฟื้นทางเศรษฐกิจโดยภาพรวมนำมาก่อน เป็นอาการฟอร์ช็อคนำมาก่อนการเริ่มปฎิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจ ปรากฏใกล้เคียงกันสองเกณฑ์คือ
3.1เริ่ม29มีนาคม -สิ้นปี 2565เกิดโชคลาภและความสำเร็จในเมืองจากรายได้พิเศษเติมเข้ามา(พระราหูจรทับลัคนาเมือง) โดยจะมาจากต่างชาติ รวมทั้งการเก็งกำไรทั้งตลาดหุ้น หรือนวัตกรรมใหม่ๆทางด้านเศรษฐกิจหรือค่าเงิน หรือทองคำ หรือธุรกิจยาและเวชภัณฑ์หรือ การบินและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
ด้านร้ายสำหรับเกณฑ์นี้คือการหลอกหลวงในเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางออนไลน์ -ล้ำสมัย
จิตใจคนในเมืองกล้ากับการเก็งกำไรมากไปจนขาดเหตุผล-เสี่ยงจะเกิดความเสียหาย
สรุปง่ายๆคือปรากฎการณ์นี้หากไม่ควบคุมลาภล่อตาใจคนและเมืองจะกลับกลายเป็นโลภ หรือลาภหาย กลายเป็นหดหู่ได้ง่ายมาก
3.2 อีกหนึ่งอาการด้านดีแทรกเข้ามาคือตั้งแต่21 เมษายน-สิ้นปี ลางพลิกเป็นเมืองเริ่มมีโชคลาภหลายด้าน-เอาชนะศัตรูอุปสรรคความเจ็บไข้ที่เป็นมาได้-ได้ลาภมากจากผู้หลักผู้ใหญ่-ผู้รู้ของเมืองและนักบวชชีพราหมณ์-รวมทั้งพระมหากษัตริย์หรือบุคคลระดับผู้นำชาติต่างๆ(ทักษาจรเมืองตกภูมิพฤหัสบดี-น่าจะเห็นจากการประชุมเอเปคครั้ง22)ตามโฉลก…ตกพฤหัสบดีไซร้ปัจจิม เกิดสวัสดิอิ่มลาภะ จักชนะศัตรู ทรัพย์อขูจักได้ แต่ผู้ใหญ่บัณฑิต อีกบพิตรเจ้านครา ทั้งพราหมณาและบรรพชิต….
3.3ตั้งแต่วันเกิดเมือง21 เมษายน2565เป็นต้นไป-สิ้นปีสิ่งที่จะเป็นศรีหรือสิริมงคล หรือเงินทองของเมือง คือผู้มียศศักดิ์ที่เป็นวัยรุ่น-การเสี่ยง-บันเทิงเริงใจ-ทองคำ-การบิน-กิจการไฟฟ้าเช่นรถไฟฟ้าสายต่างๆ-รถอีวีและสถานีชาร์จ -รถใต้ดิน-บนดิน-กิจการโรงไฟฟ้า-โซล่าเซลล์-ยารักษาโรค-การบิน ฯลฯ
3.4ตั้งแต่วันเกิดเมือง21 เมษายน2565เป็นต้นไป-สิ้นปีกลุ่มที่ออกด้านร้ายในเมืองคือแรงงาน-ผู้สูงอายุ-คนเก่า-คนแก่ที่เคยโดดเด่น-ภาคเกษตรโดยรวม-ข้าว-เหมืองแร่-เครื่องหนัง-ไม่ค่อยดีมีเคราะห์
3.5.ประเทศยังมีขุมทองให้ขุดหาตลอดปี คล้ายๆปตท.สผ.เคยเจอแหล่งแก๊สใหญ่มากที่สุดที่เคยพบที่ทะเลมาเลเซีย แต่ตั้งแต่หลังวันเกิดเมืองที่21เมษายน2565-สิ้นปีเป็นต้นไปเข้าข่ายได้แบบทุกขโชค-โชคทุกข์(พระเสาร์เป็นกาลกิณีจร)
4.ตั้งแต่29มีนาคม2565 -สิ้นปีเริ่มต้นเข้าสู่ลางเปลี่ยนใหญ่ผู้นำทางการเมือง-การเมืองหรือผู้นำสำคัญ-องค์ประกอบพรรคร่วมของรัฐบาลและผู้นำองค์กรต่างๆที่สำคัญ (พระราหูจรทับลัคนาและพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง) ถ้าเป็นคนจะเป็นไปตามโฉลก..ราหูมาต้องลัคน์ แม้นสูงศักดิ์สุราลัย จะจากพรากยศไกร ลำบากใจไฟเผาผลาญ…นั่นคือมีโอกาสตกจากตำแหน่งหรือได้ตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี-รัฐมนตรี และผู้นำในองค์กรต่างๆเป็นระยะๆให้ตื่นเต้นเร้าใจตลอดถึงสิ้นปีอาการคือ
4.1ด้านนายกรัฐมนตรีตั้งแต่21เมษายน 2565-สิ้นปี ไม่ว่าจะมีความผันผวนในการเมืองเพียงใดหากจะมีการเปลี่ยนแปลงจะมีโอกาสตกผลึกเลือกทางเปลี่ยนแปลงเองว่าจะสู้ต่อหรือเปลี่ยนแปลง(ทั้งยุบสภา หรือลาออก หรือปรับคณะรัฐมนตรี-เปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล) แทนการถูกบีบให้เปลี่ยนแปลงแบบหน้าเขียวหน้าเหลือง
อาการของนายกรัฐมนตรีนี้พอจะเปรียบเทียบได้กับคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สามารถฟันฝ่าแรงกดดันของนปช.แดงทั้งแผ่นดินได้แล้วตัดสินใจยุบสภาด้วยตัวเองหลังจากนั้น แตกต่างคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรยุบเพราะแรงกดดันอย่างหนัก(ยุบขณะดวงเมืองแตกสองชั้น)
4.2ตั้งแต่21เมษายน 2565-สิ้นปี แม้การเมืองจะอยู่ในบรรยากาศเปลี่ยนแปลงขนาดไหน เมืองก็มีโอกาสได้นายกรัฐมนตรีออกแนวดี(พระอาทิตย์เป็นศรีจร)
ส่วนรัฐบาล หน้าตาจะออกแนวร้าย-ไม่สวยสร้างความเครียดและน่าขมขื่นสำหรับประชาชนอีกทั้งคนในรัฐบาลก็จะทำพลาดหรือก่อกวนหรือหักหลังกันเอง(พระเสาร์เป็นกาลกิณีจร-คล้ายรัฐบาลเคยพลาดคราวสปก.401)จนผู้นำรัฐบาลอาจต้องเลือกทางเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนแปลงระดับไหนซีกรัฐบาลก็จะภาระก็จะหนักมากกว่าปีที่แล้ว
ฟากฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลไม่ว่าใครจะมาเป็นก็คงได้อาละวาดเป็นระยะๆ แต่ในที่สุดแล้วทำอะไรไม่ขึ้นเพราะสมาชิกเหมือนคนป่วยกระเสาะกระแสะไปอีกหนึ่งปี(พระเสาร์จร7เล็งพระจันทร์๒ดวงเดิม)

5.ลีลาของการเข้าสู่โหมดของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเช่นยุบสภา-ลาออก-หรือปรับทีมงาน-นโยบายที่ผู้นำรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นใครต้องฝ่าด่านท้าทายเป็นระยะๆเพียงแต่จะระดับใดเท่านั้นคือ
5ก.ช่วงประมาณ14เมษายน-15พฤษภาคม2565
ปรากฎการณ์นี้จะเริ่มด้วยมีแรงบีบในทางการเมืองเริ่มนำมาตั้งประมาณกลางมีนาคม 2565 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปอย่างระทึก+ตื่นเต้นเร้าใจ-ล็อคถล่ม+แปลกประหลาดสุดๆ โดยจะเกิดขณะผู้นำรัฐบาลโดดเด่น ทรงอิทธิพลจนมีทางเลือกเองว่าจะเดินทางใด (พระอาทิตย์จร1เป็นศรี+อุจจ์)คาดสถานการณ์หนักสุดที่จะเกิดคือยุบสภา(สถานการณ์ใกล้เคียงกันนี้พลเอกเปรม ติณสูลานนท์เคยยุบสภามาแล้วเมื่อ1พฤษภาคม 2529)
ช่วงนี้หากยังไม่ถึงขั้นยุบสภาจะถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ -แคล้วคลาดของผู้นำ โดยต่อไปยังมีด่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองดักอยู่อีกเป็นระยะๆเพียงแต่จะระดับใดเท่านั้นคือ
5ข.เริ่มประมาณ27พฤษภาคม-9มิถุนายน2565เข้าสู่ด่านเริ่มผะอืดผะอม-หม่นมัวในรัฐบาล-รวมทั้งฝ่ายค้าน-ประชาชนที่ไม่รู้จะไปทางไหนเหมือนนิ่งๆอยู่กับที่ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อยจนอึดอัดเหมือนคนท้องอืด (พระเสาร์จร7-มนฑ์หรือลอยนิ่ง)
5ค.เริ่ม9มิถุนายนยาวไปถึง20ตุลาคม 2565แววปรับ-เปลี่ยนใหญ่ในรัฐบาล ทั้งระดับคณะรัฐมนตรี +นโยบาย+องคพายพหรือพรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งฝ่ายค้าน (พระเสาร์จร7เดินถอยหลัง)ลีลาช่วงนี้ที่จะปรากฎเป็นด่านๆคือ
ด่าน5ค.1ด่านประมาณ15มิถุนายน-17กรกฎาคม 2565 ระยะนี้อย่างต่ำน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลหรือตำแหน่งสำคัญทางการเมือง-ตำแหน่งสำคัญในบ้านเมืองให้เห็น (ราหูจรทับลัคนาดวงเมือง+พระอาทิตย์ตรึงกับมฤตยูในดวงเมือง)
ด่าน5ค.2 ช่วงการเมืองเริ่มก่อกวนกันอีกรอบคือระยะประมาณ17กันยายน-18ตุลาคม 2565เพื่อบีบให้มีการเปลี่ยนแปลง(พระราหูตรึงกับพระอาทิตย์ในดวงเมือง)
โดยด่านนี้จะเริ่มเห็นตั้งแต่9 ตุลาคม 2565กลับเข้าสู่อาการเริ่มผะอืดผะอม-หม่นมัวในรัฐบาล-รวมทั้งฝ่ายค้าน-ประชาชนที่ไม่รู้จะไปทางไหนเหมือนนิ่งๆอยู่กับที่ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อยจนอึดอัดเหมือนคนท้องอืดอีกรอบ (พระเสาร์จร7-มนฑ์หรือลอยนิ่ง)อีกรอบ
ด่าน5ค.3ช่วงประมาณ18ตุลาคม-17พฤศจิกายน 2565 ระดับหนักสุดคือโอกาสยุบสภากลับมาอีกรอบและ
5ง.ช่วงประมาณ18พฤศจิกายน-16ธันวาคม2565 จับตาช่วงนี้อาจจมีบุคคลสำคัญที่มีบทบาททางการเมืองป่วย หรือจากไป
6.กำหนดการที่โควิด19จะกลายเป็นโรคสามัญประจำเมืองและโลกคือ
6.1เริ่มประมาณ 8 เมษายน 2565เป็นต้นไป ความรุนแรงของโรคลดลงเพราะการคิดค้น ยาและวัคซีนทำให้พร้อมรับมือมากกว่าเดิม (พฤหัสบดีจร5เข้าเดินในราศีมีนดินแดนของความลับ-เพื่อเปิดเผยสิ่งที่ไม่รู้ของโรค)
6.2ตั้งแต่วันเกิดเมืองที่21เมษายน 2565เป็นต้นไปเมืองรัตนโกสินทร์สิ้นสุดปรากฎการณ์เมืองได้ลาภที่ไม่อยากได้เช่นโควิด19กลายพันธุ์-การเคอร์ฟิว(ทักษาจรเมืองหยุดตกภูมิเสาร์) พลิกกลับเป็นผู้รู้เช่นแพทย์-นักวิทยาศาสตร์จะให้คุณกับเองมาก-สิ้นปั2565
6.3สำหรับโลกลางเปลี่ยนแปลงใหญ่โรครอบแรกนำมาก่อนคือประมาณกรกฎาคม 2565เป็นต้นไป(มฤตยูจรย้ายจากราศีเมษเข้าไปเดินในราศีพฤษภ)ตามอาการคือ
6.4องค์การอนามัยโลกเริ่มครุ่นคิดถึงสถานะของโรคโควิด19ช่วง23-30กรกฎาคม2565(พฤหัสบดีจรลอยนิ่งหรือมนฑ์)
6.5ระยะทบทวนและเปลี่ยนสถานภาพของโควิด19คือประมาณระหว่าง30กรกฎาคม-12พฤศจิกายน2565(พฤหัสบดีจรเดินถอยหลัง)
6.6หากโรคนี้จะหวลกลับมาอ้อยอิ่ง-อาละวาดอีกครั้งตั้งแต่ประมาณต้นธันวาคม-สิ้นปี2565(มฤตยูจร0เดินถอยหลังจากพฤษภเข้าราศีเมษอีกครั้ง)แต่โลกและเมืองก็พร้อมจะรับมือแล้ว
7.ตั้งแต่ต้นปี-8กรกฎาคม 2565เริ่มต้นลางของการสิ้นสุดระยะเจ็ดปีของการปฎิวัติใหญ่ในเมืองรัตนโกสินทร์ที่เห็นชัดที่สุดคือการเปลี่ยนรัชกาลและอื่นๆอีกมากมาย
ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม2565หากเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครแล้วมองย้อนกลับไปเมื่อเจ็ดปีที่แล้วคือประมาณมีนาคม 2559แล้วคิดทบวนเราจะถามตัวเองว่า-เมืองรัตนโกสินทร์มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร-(ช่วงมฤตยูจรทับลัคนาเมือง)
แม้สถานการณ์ปฎิวัติหรือเปลี่ยนแปลงใหญ่บางเรื่องพยายามย้อนกลับมาอีกช่วงประมาณธันวาคม2565-สิ้นปี2565-ยาวไปต้นมีนาคม2566(มฤตยูจร0เดินผิดปกติระหว่างราศีพฤษภกับเมษ)แต่จะถูกกลบโดยลางของการปฏิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจคือ
8.บันทึกไว้ว่าประมาณ8กรกฎาคม2565เมืองรัตนโกสินทร์(และโลก)เริ่มเดินหน้าสู่เค้าลางเจ็ดปีของการปฏิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจ-การทำมาหาได้พร้อมสู้สงครามเศรษฐกิจโลกที่จะฟาดฟันกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านไม่มีใครยอมใคร เผลอๆกลายเป็นการรบกันด้วยอาวุธ-อุปกรณ์ที่ล้ำสมัย ระดับสิ่งที่ไม่เคยเห็นทางด้านเศรษฐกิจเราจะได้เห็นตามลีลาคือ
8.1โดยอาการฟอร์ช็อคนำมาก่อนแล้วคือความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาที่เริ่มมาตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2563ที่ทำให้ไทยวางตัวลำบาก
8.2ต่อเนื่องมาถึงปี2565ทั้งปีศัตรูใหญ่ยังจะขัดแย้ง-รบกันด้วยวิธีการต่างๆทำให้ไทยเดือดร้อนต่อ(พระเสาร์จรเดินอยู่ในราศีมังกร-ภพที่สิบดวงเมือง-ศัตรูใหญ่จะทำณรงค์)
จับตาช่วงคล้ายๆเมืองมีศึกศัตรูมาแทรกแซง 2 ช่วงคือ 27 มิถุนายน- 9 ตุลาคม และ 9 ตุลาคม-20 ตุลาคม 2565
8.3แทรกเข้ามาเริ่ม8กรกฎาคม2565จะเข้าสู่ลางของสงครามทางเศรษฐกิจของจริงเริ่มปรากฎ(มฤตยูจร0เข้าไปเดินในราศีพฤษภ)
คาดผลคือหากไทยฟันฝ่าได้ดีคือผ่านไปประมาณกรกฎาคม2572เรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนครเราจะถามตัวเองว่าเศรษฐกิจของเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร และหากทำได้ดีระหว่างเจ็ดปีนี้ไทยมีโอกาสหลุดจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง
ท่ามกลางการปฎิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจของเมืองรอบนี้ประเทศไทยจะเนื้อหอมสุดๆที่หลายประเทศรุมตอมเป็นมิตรชนิดหัวกระไดไม่แห้ง หรืออีกนัยหนึ่งรุมทึ้งหาผลประโยชน์
สิ่งที่จะพาคนไทยรอดได้อยู่ที่ความแพรวพราวทางด้านการทูต-เจรจาเฉกเช่นระยะเจ็ดปีระหว่างมิถุนายน 2399-มกราคม 2406ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเริ่มเปิดประเทศ มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับชาติตะวันตก เพื่อสู้กับลัทธิล่าอาณานิคมที่เคยบังคับให้จีนเปิดประเทศ-สงครามฝิ่น-ให้เช่าเกาะฮ่องกง99ปี
ส่วนวิธีรับมือในท่ามกลางการปฎิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจของผู้รับผิดชอบและคนในเมืองคือเมื่อรู้สึกอึดอัดว่าไม่ใช่แล้ว ต้องกล้าช่วยชาติและตัวเองปฎิวัติใหญ่การทำมาหากิน หากไม่ปฏิวัติตามก็จะถูกปฎิวัติ หากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ของหลังอย่างเจ็บปวด
โดยเป้าหมายใหญ่ของการปฏิวัติเศรษฐกิจโดยตรงคือ
ธนาคารแห่งประเทศไทย+เงินบาท+ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินทั้งหลายซึ่งขณะนี้เริ่มนำมาแล้วเช่นสังคมไร้เงินสด-ธนาคารพาณิชย์ต่างๆปรับตัวขนาดใหญ่เพื่อความอยู่รอด ฯลฯ
ระบบภาษี ทั้งที่เกี่ยวข้องกับมรดกและสุขภาพ+ประกันภัย+ประกันชีวิตในอดีตเคยมีเหตุการณ์ผูกปี้ข้อมือจีนในสมัยรัชกาลที่สี่-ตามด้วยขึ้นทะเบียนคนต่างด้าว เพื่อจัดเก็บค่าแรงแทนการเกณฑ์แรงงาน
การผุดขึ้นของโครงการพัฒนาด้านเศรษฐกิจขนาดใหญ่ๆเช่นแลนด์บริจ-ความเคลื่อนไหวของการสร้างเมืองหลวงแห่งที่สอง และจังหวัดใหม่(มฤตยูทับอังคารดวงเดิมดวงเมือง)-ในอดีตปรากฎการณ์จากดาวนี้สมัยจอมพลป.พิบูลสงครามเคยพยายามย้ายเมืองหลวงไปเพชรบูรณ์แต่พระราชกำหนดถูกคว่ำกลางสภา
และอีกรอบก่อนหน้านั้นในสมัยรัชกาลที่สี่เคยตั้งเมืองสมิงบุรี เมืองลุ่มสุ่ม เมืองท่าตะกั๋ว เมืองไทรโยค เมืองท่าขนุน เมืองทองภาภูมิ เมืองท่ากระดานขึ้นอยู่กับจังหวัดกาญจนบุรี
การต่อยอดพัฒนาคลองหรือทางน้ำขนาดใหญ่-แหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ในประเทศ-ทะลุ-เชื่อม-ทำความสะอาดสายน้ำ-แหล่งน้ำ ซึ่งรอบเดียวกันของเกณฑ์นี้ในอดีตพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงให้ขุดคลองผดุงกรุงเกษมจนแล้วเสร็จ
เมื่อวาระเจ็ดปีนี้ผ่านไปหน้าตาของทางน้ำ-แหล่งน้ำของเมืองคงจะผิดจากเดิมจนแทบจำไม่ได้
กองทัพ หรือผู้ถืออาวุธรวมทั้งตำรวจต้อพัฒนา-ติดดาบความคิด-การกระทำให้ทันความล้ำสมัยเป็น4.0เพื่อเสริมหรือปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของชาติเป็นหลัก เพราะเป้าโดยตรงๆของการพลิกฟ้าดินคือกองกำลังของชาติ(มฤตยูทับพระอังคารดวงเดิม๓) หากยังอืดอาดเต็มไปด้วยนายพลเก๋ากึ๊กเต็มกองทัพ-ติดหล่มอยู่กับที่ก็มีโอกาสถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด
หากจะดูความสำเร็จในอดีตที่มฤตยูจรเข้าเดินในราศีพฤษภรอบแรกหลังตั้งเมืองรัตนโกสินทร์นั้นคือการที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่สี่เริ่มทรงจ้างฝรั่งมาฝึกกองทัพเพื่อความทันสมั
และการปฏิวัติกองกำลังอาวุธเตรียมไว้นี้ขอให้เทียบเคียงกับสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตที่มฤตยูจรอยู่ในภพที่สองที่ร้ายแรงมากคือคราวเกิดยุทธนาวีที่เกาะช้างที่หลังเหตุการณ์รศ.112ทหารเรือไทยซุ่มฝึกฝนมานานเพื่อเอาคืนฝรั่งเศสภายใต้ยุทธการ”น้ำตาล”(แก้เผ็ด)จนได้แก้มือ
วงการบันเทิง-ดารา-นักร้อง-ความสวยงาม-อาหารการกินต้องเป็นกิจกรรมที่ล้ำสมัย ควรตีฝ่าออกไประดับสากลเพื่อแสวงหาความสำเร็จ-รายได้ระดับโลก(มฤตยูเดินอยู่ในราศีพฤษภบ้านของพระศุกร์)หรืออีกประการหนึ่งอาจจะให้ประเทศเป็นฐานสำหรับเรื่องบันเทิง-ความงามเช่นเป็นฐานถ่ายทำภาพยนตร์ หรือเสริมความงาม-อาหารที่ดึงดูดใจเป็นต้น
ในอดีตมฤตยูจรเดินอยู่ในราศีพฤษภวงสุนทราภรณ์เกิดขึ้น และโด่งดังในสมัยนั้น
จับตาบทบาทประเทศไทยระยะเจ็ดปีนี้จะมีโอกาสได้เข้าร่วมประสาน-คลี่คลายปัญหาขัดแย้งเรื่องสันติภาพของโลก หรือของประเทศเพื่อนบ้าน(มฤตยูจรเดินอยู่ในราศีพฤษภ-บ้านของพระศุกร์)เช่นในอดีต สมัยรัชกาลที่สี่ สยามเคยยกทัพไปเขมรเพื่อระงับศึกทะเลาะกันเองระหว่างญาติ
ระยะเจ็ดปีนี้อาจปฎิวัติใหญ่เรื่องการสมรสที่เป็นทางการอาจไม่ใช่แค่หญิงชายแต่งงานกันอีกแล้ว(มฤตยูจรเดินอยู่ในบ้านพระศุกร์)

9.ยังต้องสู้กันในอุดมการณ์-แนวความคิดสำคัญของชาติต่อไปอีกยาวนานประมาณ18ปี เริ่มที่สถาบันกษัตริย์ และคาดว่ายังจะมีเรื่องอื่นๆตามมาอีกแต่จิตใจคนไทยระเริ่มจะนิ่งขึ้น(มฤตยูจรหยุดทับพระอาทิตย์๑ดาวจิตใจของเมือง)
ดังที่เคยทำนายไว้ว่า2มีนาคม 2562 เป็นวันเริ่มยุคใหม่ที่13ของกรุงรัตนโกสินทร์ที่จะกินเวลายาวนานไปยี่สิบป
ยุคนี้คือยุค4.0ขึ้นไปที่จะมีความสะดวกสบาย-ล้ำสมัยมาก แต่สิ่งที่ตามมาคือจะมีการต่อสู่เรื่องอุดมการณ์สำคัญของชาติตลอดยุค ผลัดการรุก-รับ
ขณะนี้เริ่มปรากฏชัดคือเรื่องการปฎิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่ง กระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ที่จงรักภักดีมากมายก่อตัวปะทุออกมาเช่นการเกิดของสามนิ้ว คณะราษฏร์2563(ขณะมฤตยูจรทับอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมืองซึ่งเป็นดาวจิตใจของคนไทยด้วย)
แต่แม้จะต้องสู้กันต่อไปสถานการณ์จะเริ่มเปลี่ยนคือตั้งแต่กลางปี2565เป็นต้นไปจิตใจคนไทยจะนิ่งขึ้นในเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์
จะมีคำถามว่าแล้วผลสุดท้ายจะออกมาอย่างไร ที่ผู้เขียนซึ่งอายุมากแล้วอาจไม่ได้อยู่ดีจนจบยุค แต่ก็บอกได้อย่างหนึ่งคือเมืองรัตนโกสินทร์ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่เมือง(พระอาทิตย์๑กุมลัคนาเมือง) จึงไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สถาบันพระมหากษัตริย์ก็จะอยู่คู่เมืองต่อไป อาจจะเปลี่ยนเพียงตัวบุคคลและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเท่านั้น
10. ปีแห่งน้ำมาก(กว่าปีที่แล้ว) และน้ำท่วมใหญ่วงกว้างช่วงปลายปี(ผิดกับปี2564ที่ท่วมเป็นจุดๆพอได้ระบาย)
จากคำทำนายของปี2563ที่ว่านำจะมาก ส่วนน้ำท่วมจะมีแต่จะเป็นจุดๆ(ไม่ใช่ท่วมใหญ่ในวงกว้าง)นั้นเป็นความจริง คือฝนตกจนน้ำในเขื่อนหลักส่วนใหญ่ของประเทศเกือบเต็ม-เต็ม-ล้น-ระบาย แล้วยังท่วมเป็นจุดๆเช่นที่ชัยภูมิต้นน้ำชี แล้วจากนั้นทะยอยท่วมในจังหวัดต่างๆที่เส้นทางน้ำชีผ่านจนถึงอุบลฯ
ปี2565นี้สถานการณ์น้ำจะเปลี่ยนไปเป็นน้ำมากกว่าปีที่แล้วและจะท่วมในวงกว้างกว่าจัดเป็นปีน้ำท่วมใหญ่อีกครั้ง คราวนี้กรุงเทพ-ปริมณทลจะไม่โชคดีเหมือนปี2564-แถมอาจจะมีการท่วมแบบแปลกๆ-คาดไม่ไม่โดยคาดการณ์สถานการณ์คือ
อาการน้ำจะเริ่มมาตั้งแต่ต้นฤดูฝนคาดว่าทั้งร่องมรสุมตามฤดูกาลที่จะนำฝนมาเทกระหน่ำหนักตั้งแต่ต้นกรกฎาคม-สิ้นปี2565แล้วเมืองยังจะได้รับอิทธิพลพายุประมาณสี่ลูกคือ
ลูกที่หนึ่ง-คาดว่าจะเข้าประมาณ17พฤษภาคม2565ก่อนหรือหลังเจ็ดวันระดับดีเปรสชั่นลงมา
ลูกที่สอง-คาดว่าจะเข้าประมาณวันที่26มิถุนายน 2565 ก่อนหรือหลังเจ็ดวัน-ในระดับดีเปรสชั่นขึ้นไป(ราหูจร8ร่วมอังคารจร3ที่ราศีเมษ)
ลูกที่สาม-คาดว่าจะเข้าประมาณวันที่3ตุลาคม 2565ก่อนหรือหลังเจ็ดวันในระดับดีเปรสชั่นลงมา(ดีเปรสชั่นหรือหางดีเปรสชั่นหรือร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรง-พระอังคารจร3ทำมุมถึงพระเสาร์จร7)
ลูกที่สี่-คาดว่าจะเข้าประมาณวันที่17พฤศจิกายน2565ก่อนหรือหลังเจ็ดวัน
ช่วงเวลาที่จะเกิดภัยทางน้ำรุนแรงมากที่ต้องเตรียมตัวรับมือกันให้ดีนอกเหนือจากการรับมือภัยภิบัติประจำคือช่วงระหว่ากลางเดือนพฤศจิกายน-ประมาณสิ้นปี2565
11.ประมาณ21เมษายน2565-สิ้นปีระวังอันตรายมากที่จะเกิดไม่คาดฝันกับ-เกี่ยวข้องกับชาวไทยมุสลิม (พระเสาร์เป็นกาลกิณีจร)
12.เกณฑ์อุบัติเหตุใหญ่ในเมือง-โอกาสแผ่นดินไหวพอได้ตื่นเต้นคือ
12.1ตั้งแต่ต้นปี-8 เมษายน 2565 เกิดอุบัติเหตุเรื่องร้ายแรงอะไรก็พอจะทัดทานได้(หัวหน้าเทวดาประจำเมืองยังคุ้มลัคนาเมืองอยู่-พฤหัสบดีเป็นสิบเอ็ดกับลัคนา)เช่นกรณีเครื่องบินเอฟ5ตกที่มะนาวหวาน ชัยดาดาล ลพบุรี เมื่อวันที่3ธันวาคม 2565นักบินดีดตัวได้-รอด-แต่เสียเครื่องบินราคาแพง
12.2ตั้งแต่8เมษายน-สิ้นปี2565 สถานการณ์เปลี่ยนไป เรื่องเล็กเป็นร้าย-ร้ายเป็นร้ายมากเกิดเป็นระยะๆ (หัวหน้าเทวดาประจำเมืองเดินเข้ามุมอับคุ้มครองลัคนาได้น้อย)เน้นไปที่สองช่วงที่เกณฑ์ร้ายรุมกระหน่ำคือ
ช่วงแรก ประมาณ14กรกฎาคม-สิงหาคม 2565(ก่อน-หลังเจ็ดวัน
ช่วงที่สองประมาณ8ธันวาคม-31ธันวาคม 2565(ก่อน-หลังเจ็ดวัน)
12.3ตั้งแต่8เมษายน2565เป็นต้นไป มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวให้ตื่นเต้นกว่าปกติที่เกิดประจำสักสองสามครั้ง(พระเสาร์จรทำมุมถึงพฤหัสบดีจร)
13.วงการบันเทิงดารา-คนเด่น-ดัง-สวยหล่อระดับนางพระยาและราชายังเข้าเคราะห์ไม่เลิก แนวโน้มอาจร้ายแรงกว่าช่วงปี2564เพราะมีเหตุทั้งเจ็บป่วย-จากไป-เศร้าเสียใจ-อกหักรักคุด-ถูกทรยศหักหลังโดยให้เป็นข่าวใหญ่จับตาเป็นพิเศษ(ช่วงพระเสาร์ตรึงกับพระศุกร์)
ระหว่าง20 มกราคม-22กุมภาพันธ์2565
ระหว่าง14กรกฎาคม-9สิงหาคม 2565และ
ระหว่าง8ธันวาคม-สิ้นปี2565
14.พระ-นักบวช-หรือบุคลากรทางการแพทย์ หรือคนในกระบวนการยุติธรรมหรือบัณฑิต-ผู้รู้มีเคราะห์(พฤหัสบดีจรลอยนิ่งหรือมนฑ์)
ช่วงประมาณ23-30กรกฎาคม 2565และช่วง
ประมาณ12พฤศจิกายน-4ธันวาคม 2565
……………………
เกณฑ์ชะตาบุคคลสำคัญกว้างๆ
จากฐานข้อมูลที่เปิดเผยทั่วไป
1.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา-ยังมีแนวโน้มตกจากตำแหน่งหรือถูกไล่-ทรยศ-หักหลังเป็นระยะๆตลอดปี-เพียงแต่จะไล่ได้หรือไม่เท่านั้น++หลังวันเกิดที่21มีนาคม2565ถึง21มีนาคม2566ปรากฎการณ์ถ้าช่วงต้น(ปีวันเกิด)ร้ายปลายจะดีหรือช่วงต้น(ดีปลายจะร้ายตำราบอกให้สงบจิต++ตั้งแต่8เมษายนถึงสิ้นปี2565บุญเก่าเริ่มมาแรงพร้อมปรากฎการณ์สั่นสะเทือนความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องหรือคนที่รักกันเหมือนญาติเป็นระยะๆ-ถ้าเปลี่ยนที่อยู่-รถน่าจะถูกโฉลก
2.พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ-ไม่ว่าจะลัคนาราศีใดจับตาลีลาชีวิตต้นเมษายน 2565ที่จะเฟี้ยวฟ๊าวถึงสิ้นปี++แต่ระวังสุขภาพหลังหัวใจไว้สักหน่อยเน้นไปที่หลังวันเกิดเป็นต้นไป
3.ดร.ทักษิณ ชินวัตร- ยังโชคดีเรื่องลูกหลานและมีขุมทองให้ขุดหาตลอดปีเพียงแต่จะถูกกดดันโดยได้อะไรก็จะกลางๆ++กลางปี2565เริ่มเจ็ดปีของการตามหาความฝันปฏิวัติใหญ่ทางชีวิต++ตั้งแต่เมษายนถึงสิ้นปีเดินเหินต้องระวังและอีกปรากฎการณ์คือได้ครึ่งเสียครึ่ง
4.คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-ด้านดีทั้งปีโอกาสได้เพริศพรายทั้งเงินทองและชื่นใจเรื่องลูกเพียงแต่ต้องระวังโรคเก่ากำเริบหรือกรรมเก่าเกี่ยวกับกระดูกหรือเส้นประสาทหรือลำใส้หรือผิวหนังหรือที่เกี่ยวกับข้าวยังแรง++หุ้นส่วนชีวิตเจ็บป่วยหรือถูกทรยศหักหลัง ++เมษายนถึงสิ้นปี2565เริ่มปรากฎการณ์สู้แล้วได้และมีโอกาสเปลี่ยนบ้านที่ดินรถเก่งภูมิลำเนา++ควรทำทุกอย่างในชีวิตให้ลงตัวก่อน1มีนาคม 256
5.แพทองธาร ชินวัตร-ถ้าลัคนาสถิตเมษ มีโอกาสได้ลุ้นเหมือนอาปู-ถ้าเป็นลัคนาราศีสิงห์ก็เกิดมารวยอย่างที่เห็นๆ++แต่ไม่ว่าลัคนาหรือเป็นชาวราศีใดก็กำลังอยู่ในระหว่างโชคใหญ่ในชีวิต(โชคเทวฤทธิ์ที่เป็นมาตั้งแต่5ธันวาคม2563)ไปถึง29มีนาคม 2565หลังจากนั้นโชคลดลงครึ่งหนึ่ง
6.คุณอภิสิทธิ เวชชาชีวะ-หุ้นส่วนชีวิตทั้งหลายแตกกระจายพรายพลัดตลอดปี++กลางปีเริ่มเจ็ดปีของการต่อยอดอาชีพหลักเป็นอาชีพหรือรายได้พิเศษและการเปลี่ยนแปลงใหญ่เรื่องสังคมหรือเพื่อนฝูงหรือลูกๆ
7.คุณอนุทิน ชาญวีรกูล-แบกภาระหนักตลอดปีแถมศัตรูใหญ่รบกันทำให้เดือดร้อนและระวังอุบัติหรือผ่าตัด++ตั้งแต่ต้นเมษาถึง13กันยายน2565โชคลาภและเพื่อนฝูงเข้ามาหาสู่มากในระดับพลิกชีวิต แต่ระหว่างนั้นก็ควรระวังพลาดหรือขัดแย้งงานเพราะตัวเอ
8.คุณกรณ์ จาติกวณิช-กลางปีเริ่มวาระเจ็ดปฏิวัติใหญ่อาชีพการงาน++จนถึงสิ้นปีมีแนวโน้มต้องทะลุปัญหาอุปสรรคให้ได้สิ่งที่ต้องการ
9.คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ-เริ่มหยุดดวงแตกพลิกเป็นสู้แล้วได้ตั้งแต่29มีนาคม 2565-จับตากลางปี2565เป็นต้นไปเริ่มเจ็ดปีของการปฏิวัติใหญ่หุ้นส่วนชีวิตหรือคู่ครอง
10.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์-ถูกโฉลกกับการเลือกทางเดินชีวิตใหม่++กลางปีนี้เริ่มต้นปฎิวัติใหญ่ตัวเองอันเป็นผลจากงานเป็นปัจจัยสำคัญ++ระวังสุขภาพไว้บ้างก็ดี
11.ส่วนการเลือกผู้ว่ากทม.-ว่าใครจะชิงกับใครถ้าเลือกภายในวันที่8กรกฎาคม 2565 จะมีอาการล็อคถล่ม-ชวนตาค้าง-เกินคาดคิดคล้ายที่เคยเกิดมาแล้วกับการเลือกตั้งใหญ่2562
ฟองสนาน จามรจันทร์
14 ธันวาคม 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2569 (ตอนที่2) เหตุสำคัญที่มีเกณฑ์เกิดในเมืองปี 2569
ตลอดปีเสียอะไรไปสู้ได้กลับมา-ภายใน 21 เมษายน เมืองยังมีโอกาสเสียคนหรือของรัก-ฟาดเคราะห์ให้เมืองด้วยการร่ว
ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ ปี 2569 (ตอนที่1) ลีลาชีวิตบุคคลสำคัญปี 2569
คำทำนายนี้เป็นเพียงลีลาชีวิตกว้างๆ เท่านั้น และได้จากข้อมูลส่วนตัวที่เปิดเผยทั่วไปเป็นสาธารณะ แต่ถูกจำกัดจากไม่ทราบเวลาเกิดที่แน่นอน
ลัคนาธนูกับลีลาสำคัญของชีวิตปี 2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลนั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่
ลัคนาพิจิกกับลีลาสำคัญของชีวิต ปี 2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่บ่งบอก เหตุการณ์สำคัญ (ยังมีเรื่องยิบย่อยอี
ลัคนาตุลกับลีลาสำคัญของชีวิตปี 2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่
ลัคนากันย์กับลีลาสำคัญของชีวิตปี 2569
ในบรรดาเรื่อง บวกและลบ ที่เกิดในชีวิตได้ตลอดเวลานั้น ปี 2569 นี้ ลางจากดาวขนาดใหญ่ ที่บ่งบอก เหตุการณ์สำคัญ (ยังมีเรื่องยิบย่อ



