บันทึกหน้า4

ต้องเรียกว่า “พี่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่มักตอบคำถามว่าไม่รู้ ไม่เห็น แต่เมื่อพลิกมาเป็นผู้ทำนายทายทักเรื่องการยุบสภาผู้แทนราษฎรก็เล่นเอา “น้องตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลย ทีเดียว ก่อนที่จะประกาศว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร...๐

 ในขณะที่บรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็ไม่กล้าที่จะฟันธงอะไรมาก เพราะหนึ่งก็คือ “นายกฯ” อีกหนึ่งก็คือ “ผู้มากบารมี” ในรัฐบาล จะมีก็แต่พรรคเพื่อไทยของ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเงาของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เชื่อว่า “พล.อ.ประวิตร”

น่าจะพูดจากการประเมินสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะหลังจากการจัดประชุมเอเปก ซึ่งตอนนี้ก็ต้องบอกว่าการประชุมยังต้องลุ้นกันเหนื่อยว่าจะมีการจัดขึ้นหรือไม่อย่างไร ซึ่งไม่ใช่ติดปัญหาจากไวรัสมรณะแต่ประการใด แต่มาจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนนั่นแล ที่ยิ่งยืดเยื้อเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ การจัดประชุมเอเปกเห็นเค้าลางว่าจะเกิดอาการเลื่อนหรืองดประชุมเสียมากกว่า...๐

 แล้วถ้าหวยออกว่าเอเปกไม่มีการจัดประชุมขึ้นมาก็ไม่รู้ “บิ๊กตู่” ยังจะใช้อำนาจในมือยุบสภาหรือไม่อย่างไร หรือจะอยู่กันจบครบวาระมีนาคม 2566 กันไปเลย แต่ที่แน่ๆ วงนี้ต้องเรียกว่าเป็น “ขาขึ้น” ของบรรดาพรรคเล็ก และ ส.ส.ปัดเศษทั้งหลาย เพราะมีอำนาจในมือที่สามารถทำให้รัฐนาวาบิ๊กตู่ไปก่อนถึงประชุมเอเปกหรืออยู่ยาวจนครบวาระก็ได้ จึงไม่แปลกที่ทั้ง “พี่ป้อม” และ “น้องตู่” จะเริ่มเอาใจบรรดาพรรคต่างๆ เหล่านี้ ขณะเดียวกันก็ดูเหมือนพรรคเล็กก็รู้ถึงเพาเวอร์ตัวเอง จึง ได้เห็น “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้ากลุ่ม 16 ถึงออกมาให้ข่าวแทบจะรายวัน ทั้งก่อนที่จะมีดินเนอร์ที่ราชพฤกษ์ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ รวมทั้งยังนัดล่วงหน้าหลังดินเนอร์อีกว่านัดประชุมท่าทีของพรรคเล็กอีกรอบ สงสัยจะเอาประเด็นดินเนอร์ไปต่อยอดต่อรองนั่นแล...๐

 หันมาดูความเคลื่อนไหวของนักร้องอย่าง “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” กันบ้าง เพราะกรณีล่าสุดที่ลุกไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งให้สอบ ส.ส.ยุครัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นั้นต้องเรียกว่าอาจทำให้ใครต่อใครตกม้าตายง่ายๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งไม่ใช่มีแค่บรรดาทั่นผู้ทรงเกียรติที่ “เรืองไกร” ได้แพลมชื่อออกมาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็หนาวๆ ร้อนๆ ตามไปด้วย เพราะ ข้อมูลที่ “นักร้องเรืองไกร” ระบุนั้นก็บอกว่าสำนวนในเรื่องสนามฟุตซอลของ ป.ป.ช.ดูเหมือนจะเลือกที่รักมักที่ชัง ปล่อยผีไปจำนวนมาก ทั้งที่มีชื่อ ส.ส.ถึงกว่า 10 พรรคและมากกว่า 300 คนที่อาจจะเจอลูกหลงในการแปรงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในปีงบประมาณ 2555 วงเงิน 4,159.42 ล้านบาท...๐

ยิ่งได้เห็นรายชื่อที่ "เรืองไกร" ปูดออกมาเบื้องต้นได้แต่ซู้ดปากกันเลยทีเดียว เพราะอภิมหาบิ๊กเนมทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “ยิ่งลักษณ์ ชันวัตร” “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” ชลน่าน ศรีแก้ว” “บุญทรง เตริยาภิรมย์” “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์” “วรงค์ เดชกิจวิกรม” “ชัย ชิดชอบ” “พรทิวา นาคาศัย” และ “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” งานนี้เลยบอกได้คำเดียวว่า “เรืองไกร” เล่นใหญ่ก็ระวังจะเจอแรงบวกกลับที่ไม่น้อยพอกัน...๐

หันกลับมาเรื่อง “โควิด-19” กันบ้าง เพราะในวันศุกร์ที่ 18 มี.ค.นี้จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะเป็นประธาน ซึ่งวาระที่สำคัญที่ถูกจับตามองอย่างมากในการประชุมคราวนี้ นอกเหนือจากการยืนยันว่าจะดีเดย์ให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 ก.ค.นี้หรือไม่แล้ว ที่ต้องลุ้นอย่างมากคือ บรรดาสถานบันเทิงทั้งผับ บาร์ คาราโอเกะทั้งหลายจะได้กลับมาลืมตาอ้าปาก หรือเปิดให้บริการหรือไม่อย่างไร ที่สำคัญจะให้มีการดื่มแอลกอฮอล์ หรือดริงก์กันมากน้อยเพียงใด เพราะหากให้เปิด แต่กำหนดให้ดื่มแค่ 2-3 ทุ่ม ก็ดูเหมือนจะลักลั่นกันอยู่ แต่ หากเปิดให้เหมือนเดิมก็เตรียมตัวเป็น "เกาหลีใต้ 2" ได้เลย แต่ในความจริงทุกวันนี้สถานบันเทิงหลายแห่งก็ใช้ช่องว่าเป็นร้านอาหารเปิดให้ดื่มอยู่แล้ว งานนี้ ศบค.ก็ควรทำอะไรให้มันเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไปเลยดีกว่ามานั่งกั๊กไปกั๊กมาอยู่นั่นแล…๐

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.