
เพียงแค่ พรรคเพื่อไทย ขยับจัดแคมเปญ “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” เปิดตัว อุ๊งอิ๊ง- แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าครอบครัว และตั้งเป้าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะชนะแบบแลนด์สไลด์ เหมือนในยุคที่พรรคเคยเรืองอำนาจ
ฝ่ายขวาจัดก็ขยับทันที ขุดอดีตมาโจมตีตั้งแต่สมัยสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ยันตำหนิไปถึง “เสี่ยแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร ว่าหน้ามืดถึงขั้นส่งลูกในไส้ลงสนามการเมือง
ล่าสุด อ.สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และขณะนี้เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส. และร่างกฎหมายลูกพรรคการเมือง แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ไว้ ว่า “เห็นหลายคนดาหน้าออกมาวิจารณ์ผู้หญิงคนหนึ่งที่อาสาออกมาทำงานการเมือง แบบกลัวว่า เธอจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วทำความเสียหายแก่บ้านเมือง ผมรู้สึกว่าจะไม่เป็นธรรมต่อเธอนัก”
1.หากพรรคเพื่อไทย จะเสนอชื่อเธอเป็นหนึ่งในสามรายชื่อที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องที่พรรคต้องประเมินเองว่า เป็นบวกหรือเป็นลบ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน
2.การเป็นตระกูลการเมือง ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรีบตัดสินถึงพฤติกรรมทางการเมืองในอนาคต ไม่เช่นนั้น เราคงตัดสินว่า ศิลปอาชา อัศวเหม คุณปลื้ม จึงรุ่งเรืองกิจ หรือแม้แต่ จันทร์โอชา ล้วนเป็นปัญหาหมด
3.การเข้าสู่การเมือง ด้วยการเลือกตั้ง ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ เพราะท้ายสุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินให้เขาไปต่อหรือไม่ การใช้อำนาจที่ได้มาจากการรัฐประหาร เขียนกติกาเพื่อความได้เปรียบ กวาดต้อนนักการเมืองมาเป็นพวก ด้วยอำนาจและด้วยเงิน เพื่อหวังอยู่ในอำนาจต่อสิ ถึงเรียกว่า สืบทอดอำนาจ
4.อย่ากลัวผู้หญิงคนหนึ่งมากจนเกินเหตุ จงโบกมือต้อนรับทักทายเธอ และให้กำลังใจในเส้นทางที่ยากลำบาก ส่งความหวังและความปรารถนาดีถึงเธอ ว่าหากเธอประสบความสำเร็จเธอจะนำประเทศสู่ความเจริญก้าวหน้า
สมชัย ปิดท้ายว่า หากคุณเป็นนักการเมืองที่ต้องแข่งขัน ก็ต้องถือว่า คุณได้คู่แข่งที่จะทำให้คุณต้องพัฒนาเพื่อเอาชนะในสนามเลือกตั้ง “อย่าวิตกจริตจนเสียอาการ”
อืม เห็นจะจริงอย่างกูรูสมชัยว่า ว่าแต่ว่าถ้ามีชื่อ “แพทองธาร” เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยจริงๆ อยากถามว่า “ไทย” พร้อมแล้วใช่ไหมที่จะมีนายกฯอายุ 36-37 ปี!!!
มินนี่เมาธ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ได้มีดีแค่ ‘เกษตร’
ถ้าใครเข้าไปรัฐสภา ถามหา มิสเตอร์เกษตร ตั้งแต่แม่บ้าน ตำรวจ ข้าราชการ ยัน สส. สว. รู้หมดว่าหมายถึง สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ พรรคภูมิใจไทย
'ทำอะไรต่อ?'
หลัง "เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" สส.พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับกรณีจะไม่ลงสมัคร สส.กทม.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
'ไม่ตรงกับความจริง'
ช่วงนี้ภาคใต้บ้านเราน้ำท่วมหนักซะจนหาดใหญ่กลายเป็นเมืองบาดาลไปเลย ฝนเทลงมาแบบไม่ยั้งมือ จนชาวบ้านหลายคนบอกว่าเหมือนฟ้าผ่ากลางใจ ใครจะไปคิดว่าน้ำจะทะลักเข้ามาเร็วขนาดนี้ โดยเฉพาะในหาดใหญ่พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของสงขลา
“ขอบคุณทุกน้ำใจ”
ช่วงนี้ถึงแม้ว่าน้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จะลดลงในบางพื้นที่แล้ว แต่สิ่งที่หนักต่อมาคือผลกระทบหลังน้ำลด ที่ไม่ใช่มีแค่น้ำ แต่เป็นความสูญเสียทั้งเรื่องของสิ่งของและชีวิต รวมถึงจิตใจที่ต้องมีการฟื้นฟูด้วยเช่นกัน
ไม่ยอมป่วย
ช่วงนี้ภาระหนักเต็มมือ “นายกฯ หนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่คลี่คลาย และมาเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่หัวหน้ารัฐบาลอย่างนายอนุทินต้องวางแผนบริหารจัดการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน
มีแต่คนรัก
ทุกๆ ครั้งที่กองทัพต้องเข้าไปมีบทบาทในเรื่องใดๆ หากต้องมีเรื่องการสื่อสาร เสธ.เบิร์ด-พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ต้องถูกเรียกใช้งานเสมอ


