ยินดีกับ “นักสืบ 5G” ทั้ง 42 นาย ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นพิเศษ 5G โปรเจกต์ทิ้งทวน ก่อนที่ “ผบ.ปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.จะเกษียณอายุราชการในอีก 6 เดือนข้างหน้า
เพื่อวางอนาคต “นักสืบ” ขับเคลื่อนการทำงานของ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” สืบทอดวิชา “นักสืบ” จากรุ่นพี่ๆ ที่ต่างโรยราและเกษียณอายุราชการไปตามเวลา
เป็นผลิตผลที่ต้องปรบมือดังๆ ให้ “ผบ.ปั๊ด” นักสืบระดับซือแป๋แวดวงสีกากีคนหนึ่ง ที่มองเห็นความสำคัญของงานนักสืบที่จะต้องปรับตัวไปตามยุคสมัย ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป
เพราะเท่าที่ดูรายชื่อ “ยอดนักสืบ” ที่ “ผบ.ปั๊ด” เชิญมาเป็นพี่เลี้ยง ถ่ายทอดดีเอ็นเอนักสืบที่ดี นักสืบคุณภาพให้แก่ตำรวจรุ่นใหม่ ล้วนมีความรู้ ความสามารถด้านการสืบสวนระดับแถวหน้าของเมืองไทย
ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรักษ์ อดีต ผบช.น., พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6, พล.ต.ต.ศรกฤษณ์ แก้วผลึก ที่ปรึกษาหลักสูตร, พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผบช.โรงเรียนนายร้อยตำรวจ, พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ส., พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผบช.ศ., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.ภ.2, พล.ต.ต.นภัณต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.บช.ภ.8 และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.ฝรก.
ยิ่งหลักสูตรนักสืบ 5G ที่นำมาอบรมถ่ายทอดทักษะการสืบสวน ผสมผสานเทคนิคการสืบสวนจากยุคแอนะล็อก สู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) พัฒนาศักยภาพ ความสามารถด้านการสืบสวนเพื่อจับกุมผู้กระทำผิด ตามขั้นตอนและหลักยุทธวิธีสากล
มั่นใจ “นักสืบ 5G” คุณภาพคับแก้ว!!!
“ผบ.ปั๊ด” เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง รองสารวัตร (รอง สว.) ทั้ง 40 นาย ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นพิเศษ 5G ไปดำรงตำแหน่งรองสารวัตรในสายงานสืบสวนตามหน่วยต่างๆ ทันที มีผล 16 เม.ย.65 เป็นต้นไป ส่วนอีก 2 นาย เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งงานด้านสืบสวนอยู่แล้ว จึงให้อยู่ในตำแหน่งเดิม
เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการฝึกอบรม และเกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานสืบสวนอย่างสูงสุด
ท้ายคำสั่งแต่งตั้งระบุ ให้ทั้ง 40 นายปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งอื่นได้ เว้นแต่เป็นการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น
นั่นแสดงว่าในการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ตำแหน่ง สารวัตร (สว.) ประจำปี 2565 ทั้ง 42 นายจากหลักสูตร “นักสืบ 5G” สามารถขึ้นเป็น “สารวัตร” ได้ไม่ติดหลักเกณฑ์ใดๆ
แต่...ที่สงสัย ที่ข้องใจ และต้องถาม “ผบ.ปั๊ด” มีอะไรเป็นเครื่องการันตีให้ นักสืบ 5G ทั้ง 42 นาย จะได้ขึ้นเป็น “สว.สืบสวน” หรือ “สว.” ที่เกี่ยวข้องกับงานสืบสวน ไม่กระเด็นกระดอนไปขึ้นสายงานอื่น ตามเส้น ตามตั๋วใช่หรือไม่
เพราะก่อนหน้านี้ช่วงที่มีการตั้ง บช.ไซเบอร์ หรือ บช.สอท. ที่มีการตัดโอนเลขตำแหน่งและตัวตำรวจจากหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศมาอยู่ บช.ไซเบอร์ ก็มีการจัดอบรมงานเทคโนโลยีให้ตำรวจเหล่านี้ แต่พอถึงช่วงแต่งตั้งวาระประจำปี “ตำรวจ” ที่อบรมงานเทคโนโลยีมานั้น มีไม่กี่คนได้อยู่ บช.ไซเบอร์ ส่วนใหญ่กระเด็นกลับหน่วยเดิมทั้งสิ้น
งบประมาณการอบรมเทคโนโลยีครั้งนั้น ก็เลยเหมือนตำพริกละลายแม่น้ำ
ครั้งนี้เลยไม่อยากให้ซ้ำรอย ยิ่ง “ผบ.ปั๊ด” เกษียณราชการก่อนที่จะแต่งตั้ง “นายพัน” วาระประจำปี ถ้านโยบายเปลี่ยน สิ่งที่ “ผบ.ปั๊ด” อยากเห็นการเติบโตของนักสืบ 5G รุ่นนี้ อยู่ในตำแหน่งสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นแค่ความฝัน
“นักสืบ 5G” จะเสียของ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
องค์กรอาชญากรรมหรือ?
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว


