บันทึกหน้า4

ต้องบอกว่าเดือนเมษายน 2565 นอกจาก ความร้อนฉ่าในอุณหภูมิทางผิวกายแล้ว ความร้อนทางการเมืองและสังคมก็ร้อนเร่าไม่แพ้กัน โดยความคืบหน้าของคดีข่าวฉาวว่าด้วยการลวนลามและข่มขืนนั้น ล่าสุด “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” หรือทนายตั้ม ผู้เปิดประเด็นคนแรกบอกว่าล่าสุดมีเหยื่อรายที่ 15 แล้ว โดยเป็นไฮโซสาวที่ขอกันตัวเป็นพยานเท่านั้น เพราะเรื่องเกิดมาตั้งแต่ปี 2551 และที่น่าสนใจเข้าไปอีกเมื่อ “ทนายตั้ม” ปูดซ้ำว่ามีคำเตือนจากผู้ใหญ่ว่าจะมีการแฝงตัวเป็น เหยื่อเพื่อบิดเบือนเรื่องดังกล่าวให้เป็นการเมือง นอกเหนือจากการยัดเงินเพื่อเคลียร์คดีอีก ...๐

ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกชิบ เพราะล่าสุดก็มีไลน์หลุดออกมาอีกรายเสียแล้ว โดยเป็น ชื่อ ป.ปลา ซึ่งก็ต่างคาดเดากันจ้าละหวั่น เพราะงานนี้ก็มี 2 ป.ที่น่าจะเข้าข่าย

ซึ่งหากเป็น ป.ในค่ายแม่พระธรณีบีบมวยผมอีก ก็บอกได้คำเดียวว่า “ดร.เอ้ “สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” และบรรดาผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ที่ แม้โพลจะบอกว่าไม่มีผลกระทบก็ตามที แต่ระยะเวลาที่ยังเหลืออีกหลายสิบวันเจอกระทุ้งกระแทกในเรื่องนี้ต่อเนื่อง ก็บอกได้คำเดียวว่าบ๊ายบายจ้าพ่อแม่พี่น้อง ...๐

หันมาดูแวดวงการเมืองใหญ่กันบ้าง เพราะดูเหมือนเป็นเดือนแห่งการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยล่าสุดก็คือ พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ที่ได้ประชุมและเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้ว ซึ่งเมื่อเห็นรายชื่อแล้วก็รู้สึกเดจาวูอย่างไรชอบกล เพราะหัวหน้าชื่อ “อุตตม สาวนายน” และเลขาธิการพรรคชื่อ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” ช่างเหมือนกับตอนก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อย่างไรอย่างนั้น ส่วนจะซ้ำรอยหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป ...๐

อย่างน้อยก็ต้องปรบมือให้กับความกล้าหาญและความชัดเจนของพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ประกาศแล้วว่า จะดันชื่อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์หนึ่ง แล้วที่ต้องชมความกล้าอีกประการคือ การเลือก “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” เป็นทั้ง กก.บห. และประธานกรุงเทพฯ ทั้งที่เจ้าตัวเพิ่งถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้เป็นจำเลยร่วมกับ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ในคดีโรดโชว์ 240 ล้านบาท ก็ไม่รู้ว่าพรรค สอท.เอาความมั่นใจและเชื่อมั่นมาจากไหน ...๐

ในขณะที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ที่ย้ายค่ายจากประชาธิปัตย์มาอยู่ สอท.แล้วได้สวมหัวโขน กก.บห.และประธานภาคใต้ ก็ประกาศแล้วว่าจะเป็นสงครามครั้งสุดท้าย งานนี้ สอท.จึงเดิมพันในหลายเรื่องแบบน่าลุ้นน่าติดตามเสียนี่กระไร ...๐

ในส่วนของ “ปชป.” ที่อยู่ในช่วงพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกนั้น ก็กำหนดจัดประชุมใหญ่ในวันที่ 23 เม.ย.นี้ ก็เชื่อว่าคง ไม่ปรากฏ “ปริญญ์เอฟเฟกต์” หรือจะมีเหตุแทรกซ้อนใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งก็เอาแน่เอานอนไม่ได้สำหรับสถาบันการเมืองที่อยู่มานานแห่งนี้ แต่ที่นอนมาแน่คือ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ จะยังคงเป็นหัวหน้าพรรคต่อแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง เสียอีก เพราะคู่แข่งที่จะมาเป็นแคนดิเดตนั้นแทบไม่มี ในขณะที่คนเก่าๆ ที่พอสูสีก็เรียกว่าเฟดตัวถอยห่างไปเรื่อยๆ ...๐

 ต่อมาในวันที่ 24 เม.ย. ก็ถึงคิวจัดการประชุมใหญ่ประจำปีของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ใช้ชื่องาน “แลนด์สไลด์ เพื่อไทย เพื่อคนไทยทุกคน” เพื่อประกาศคว้าชัย 250 เก้าอี้ในศึกเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ที่น่าสนใจคือ ในช่วงเช้าที่จะมี การโชว์วิสัยทัศน์ของ 4 ตัวเต็งแคนดิเดตนายกฯ นั่นเอง โดยเริ่มที่ “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคตามบัญชาของนายใหญ่ “ชัยเกษม นิติสิริ” ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง อดีตแคนดิเดตนายกฯ “จาตุรนต์ ฉายแสง” ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่แห้วจากแคนดิเดตจนต้องย้ายไปพรรคไทยรักษาชาติ และ “แพทองธาร ชินวัตร” ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แคนดิเดตตัวจริงเสียงจริง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจครั้งสุดท้ายว่าจะรับหรือไม่รับเท่านั้น ...๐

ทิ้งท้ายด้วย วันที่ 29 เม.ย. ที่พรรคเศรษฐกิจไทยจัดประชุมใหญ่ แต่เชื่อว่าไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์ เพราะ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทยที่เปรียบเสมือนเจ้าของพรรคประกาศแล้วว่าให้ใจเย็นๆ ให้รอเดือน พ.ค.ถึงจะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรครวมทั้งทีมเศรษฐกิจด้วย งานนี้เลย ต้องลุ้นไปที่การประชุมของพรรคเพื่อไทยอย่างเดียวว่าจะกล้าประกาศชื่อแคนดิเดตหรือยังกั๊กกันต่อไป ...๐

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.