พอเกิดสงครามยูเครน ไต้หวัน ก็ซ้อมรับศึกจากปักกิ่ง

เพื่อนที่ไต้หวันเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่สงครามยูเครนระเบิด บรรยากาศที่นั่นมีความเครียดเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อสัปดาห์ก่อน เพื่อนคนนี้ไปร่วมวงกับคนไต้หวันอีกหลายสิบคน นัดหมายกันที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่งเพื่อทำกิจกรรมที่กำลังแพร่หลายกันทั่วเกาะ

นั่นคือการทำ workshop เพื่อจะเรียนรู้ว่าหากสงครามเกิดขึ้นที่ไต้หวัน จะต้องทำตนอย่างไรจึงจะรอด

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนไต้หวันกลัวว่าจีนจะบุกขึ้นเกาะเหมือนที่รัสเซียส่งทหารเข้ายึดยูเครน

ร้านรวงที่ไต้หวันทุกวันนี้มีคำขวัญแปะข้างฝาเต็มไปหมด...ประณามจีนที่สนับสนุนรัสเซียบุกยูเครน

และส่งเสียงสนับสนุนการเรียกร้องเสรีภาพที่ซินเจียง, ทิเบตและฮ่องกง                

มีป้าย “เราสนับสนุนยูเครน...” และ “ขอให้ปูตินไปลงนรก”

อีกป้ายหนึ่งตะโกนว่า “จีนกับรัสเซียคือปีศาจร้ายที่ร่วมกันทำความชั่ว”

คนไต้หวันบางคนให้สัมภาษณ์สื่อที่นั่นว่า “เมื่อปีที่แล้ว คนไต้หวันส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าเราจะไม่เห็นสงครามในรุ่นเรา แต่พอเกิดเรื่องที่ยูเครน เราก็เริ่มตระหนักว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางสงครามจริงๆ”

จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมรัฐบาลไต้หวันจึงประกาศว่าจะต้องสร้างแสนยานุภาพทางทหารขึ้นอย่างเร่งรัดและรีบด่วนเพื่อป้องกันตนเองในกรณีที่จีนอาจจะส่งทหารบุกมายึดเกาะ

ไต้หวันมองเห็นสงครามยูเครนเป็นสัญญาณเตือนภัยสำหรับตัวเองอย่างชัดเจน

แม้ว่าผู้นำจีนจะพยายามออกมาบอกว่าไต้หวันกับยูเครนไม่เหมือนกัน เพราะไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ยูเครนเป็นประเทศที่แยกออกมารัสเซีย

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนไต้หวันหวั่นหวาดน้อยลง

เพราะผู้นำจีนพูดเสมอว่า “หากจำเป็น” รัฐบาลปักกิ่งก็จะไม่ลังเลที่จะ “ใช้กำลัง” เพื่อการ “รวมชาติ” ให้ไต้หวันกลับมาอยู่กับจีนแผ่นดินใหญ่แน่นอน

สัปดาห์ที่ผ่านมา ไต้หวันประกาศให้โลกรู้ว่ากำลังเพิ่มแสนยานุภาพทางทหารเพิ่มเติมอีก

ในแผนนี้มีการพัฒนาขีปนาวุธที่สามารถโจมตีฐานทัพอากาศและสกัดพร้อมทำลายขีปนาวุธร่อนของศัตรูได้

 “ศัตรู” ในที่นี้หมายถึงใครคงไม่ต้องระบุ

อีกทั้งยังเปิดเผยด้วยว่ากำลังพัฒนาและสร้างอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ที่สามารถกำหนดพิกัดและเป้าหมายของการโจมตีได้อย่างแม่นยำ

เมื่อไม่นานมานี้เอง ไต้หวันผ่านงบประมาณกลาโหมเพิ่มอีก 240,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 270,000 ล้านบาท                 

สำหรับแผนการเสริมเขี้ยวเล็บทางทหารในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า    ในภาวะที่ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับจีนถูกยกระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง...และถึงจุดสูงสุดใหม่

เพราะจีนส่งเครื่องบินรบบินมาวนเวียนในน่านฟ้าไต้หวันบ่อยขึ้นและกร้าวขึ้น

จีนถือว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของตนที่จะบินลาดตระเวนในช่องแคบไต้หวัน เพราะเป็นส่วนหนึ่งของจีน

แต่ไต้หวันถือว่านั่นคือการแสดงอิทธิฤทธิ์ของจีนในการแสดงออกถึงการคุกคามอย่างเปิดเผย

ในแผนของไต้หวันที่ปรับปรุงระบบการป้องกันตนเองใหม่นี้จะเพิ่มกำลังการผลิตขีปนาวุธมากกว่าเท่าตัว ให้ใกล้เคียงระดับ 500 ในปีนี้   

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างรายงานที่สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติชุง-ซาน (Chung-Shan Institute of Science and Technology) เสนอต่อสภาไต้หวันเมื่อสัปดาห์ก่อนให้รายละเอียดของขีปนาวุธและโดรนที่กำลังพัฒนา รวมทั้งศักยภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้ต่อการทำสงครามด้วย

ขีปนาวุธโจมตีภาคพื้นดินพิสัยไกล Hsiung Sheng วิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 1,000 กิโลเมตร

มาใน 2 รูปแบบด้วย...แบบแรกคือ ติดหัวรบที่มีระเบิดทำลายล้างสูง ซึ่งสามารถโจมตีป้อมปราการและศูนย์บัญชาการของกองทัพฝั่งตรงข้าม

ส่วนอีกแบบสามารถกระจายกระสุนที่เข้าจัดการฐานทัพอากาศได้

นักวิจัยจาก National Policy Foundation สถาบันคลังสมองในกรุงไทเป กล่าวกับรอยเตอร์ว่า ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถเดินทางไปถึงกองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน               รวมถึงพิกัดที่ใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้ และมณฑลเจ้อเจียง

ซึ่งจะช่วยชะลอหรือขัดขวางการรุกรานไต้หวันของจีนได้ และทำให้จีนบรรลุเป้าหมายในการก่อสงครามอย่างรวดเร็วกับไต้หวันได้ยากขึ้น

การระบุเป้าหมายของการต่อสู้บนจีนแผ่นดินใหญ่เช่นนี้ย่อมจะต้องทำให้ปักกิ่งลุกขึ้นศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง

เพราะจีนย่อมจะมีข่าวกรองว่าไต้หวันได้พัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธและต่อต้านอากาศยานจากภาคพื้นสู่อากาศ Sky Bow III ที่สามารถทำลายขีปนาวุธวิถีโค้ง ขีปนาวุธร่อน และเครื่องบินรบต่างๆ ได้ด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติมยังบอกด้วยว่า ไต้หวันยังเตรียมสร้างโรงงานใหม่ 4 แห่ง สำหรับการซ่อมบำรุงและผลิตโดรนชนิดใหม่ ภายในปี 2025 ด้วย เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างโดรนโจมตี 48 ลำต่อปี

รายงานบอกด้วยว่า ประมาณ 64% ของงบประมาณด้านการทหารที่เพิ่มขึ้นมาจากงบประมาณด้านการทหาร 471,700 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 545,000 ล้านบาท) ในปีงบประมาณ 2022 นี้ถูกกำหนดให้ไปใช้กับขีปนาวุธต่อต้านเรือรบ การผลิตขีปนาวุธของไต้หวันเอง และเรือรบศักยภาพสูงที่สู้กับจีนแผ่นดินใหญ่ได้

หญิงกร้าวประธานาธิบดี ไช่ อิง เหวิน แห่งไต้หวัน ประกาศชัดเจนว่าการปรับปรุงกองทัพไต้หวันให้ทันสมัยเป็นวาระสำคัญอันดับต้นๆ ของไต้หวัน

รัฐบาลสหรัฐฯ ของโจ ไบเดน ได้แจ้งสภาคองเกรสว่าจะเสนอขายอาวุธมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์ (กว่า 24,000 ล้านบาท) ให้แก่ไต้หวันมากขึ้น

ซึ่งจะรวมถึงเครื่องบินรบทันสมัยและระบบปืนครกแบบขับเคลื่อนด้วยตนเอง ขนาดกลาง M109A6 จำนวน 40 เครื่องและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง

ปักกิ่งเดือดเป็นอย่างยิ่งที่มี ส.ส.และ ส.ว.สหรัฐฯ ไปเยือนไต้หวันเมื่อสัปดาห์ก่อน

ก่อนหน้านั้น แนนซี เพโรซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ประกาศว่าจะไปเยือนไต้หวัน แต่เกิดติดโควิดก่อน จึงยกเลิกไป

ไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อเกิดกรณียูเครน ความตึงเครียดระหว่างไต้หวันกับปักกิ่งก็ร้อนแรงขึ้นอีกระดับหนึ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทิม คุกบินไปเวียดนาม-อินโดฯ ทำไมไม่แวะประเทศไทย?

สัปดาห์ก่อน ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บินข้ามไทยไปเวียดนาม, อินโดนีเซียและสิงคโปร์ เพื่อสรุปแผนการลงทุนหรือเพิ่มกิจกรรมในประเทศเหล่านั้น

มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร

จีน-อินเดีย: 'สันติภาพร้อน' ที่ทำให้ร่วมแก้วิกฤตพม่าไม่ได้

วิกฤตพม่าทำให้ผมคิดถึงความความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียวันนี้ เพราะหากสองยักษ์แห่งเอเชียทำงานร่วมกัน ไทยก็อาจจะเป็นมือประสานให้เกิดกระบวนการเจรจาในพม่าได้