พอจีนล็อกดาวน์... เศรษฐกิจโลกก็กระเทือน

มาตรการเข้มงวดแบบล็อกดาวน์อย่างจริงจังของรัฐบาลจีนที่เมืองใหญ่ๆ อย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งในช่วงหลังนี้มีผลกว้างไกลต่อเศรษฐกิจของจีนและของโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สำหรับไทย ความคาดหวังเรื่องนักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มกลับมาในปีนี้บ้างก็เลือนรางลงทันที

อีกทั้งการส่งสินค้าไทยไปจีนหลายรายการก็ถูกมาตรการเข้มข้นตรงชายแดนก็เผชิญอุปสรรคขัดขวางไม่น้อย

แต่ในภาพรวมการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดของจีนเพื่อควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องให้คำมั่นกับประชาชนคนจีนที่จะต้องมีมาตรการ “กระตุ้นเศรษฐกิจ” เพื่อไม่ให้อัตราโตทางเศรษฐกิจปีนี้ต่ำกว่าที่คาดไว้มากเกินไปนัก

ที่น่ากังวลอีกด้านหนึ่งคือ ผลกระทบด้านการเมืองและสังคม

เป็นครั้งแรกในหลายสิบปีที่เราเห็นและได้ยินคนจีนวิพากษ์รัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์ว่าด้วยความเข้มข้นของมาตรการที่มีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านทุกระดับ

คลิปวิดีโอและข้อความในโซเชียลมีเดียของจีนที่เป็นภาษากร้าวและดุดันต่อเจ้าหน้าที่มีมากและถี่เกินกว่าที่ทางการจะตามไล่ลบหรือหาคำอธิบายให้ผ่อนเบาลงได้

ที่เห็นได้ชัดคือความเสียหายที่เกิดจากการปิดโรงงานในเดือนเมษายนที่ศูนย์กลางทางการเงินหลักอย่างเซี่ยงไฮ้ ศูนย์การผลิตรถยนต์ฉางชุน และที่อื่นๆ

ได้รับการเปิดเผยโดยข้อมูลอย่างเป็นทางการครั้งแรก

สถิติทางการชี้ว่า กิจกรรมการผลิตและการบริการทั้งกิจกรรมอื่นๆ ทางเศรษฐกิจลดลงสู่ระดับที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020

นั่นคือปีที่ทางการจีนประกาศมาตรการล็อกดาวน์เมื่อเกิดการระบาดของโรคโคโรนาไวรัสในอู่ฮั่นในช่วงเริ่มต้น

ความตึงเครียดในห่วงโซ่อุปทานหรือ supply chain ทั่วโลกก็เริ่มปรากฏชัดเช่นกัน

ซัพพลายเออร์ต้องเผชิญกับความล่าช้ายาวนานที่สุดในรอบกว่า 2 ปีในการส่งมอบวัตถุดิบให้แก่ลูกค้าภาคการผลิต

ไม่แต่เท่านั้น สินค้าคงคลังของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ

ขณะที่ดัชนีการส่งออกและนำเข้าตกต่ำ

เด็กสำเร็จการศึกษาใหม่หลายล้านคนกำลังดิ้นรนหางานทำขณะที่ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลง การนำเข้าหดตัว และชาวจีนในหลายๆ เมืองก็เริ่มตุนอาหาร

เพราะไม่แน่ใจว่าเมืองต่อไปที่จะถูกล็อกดาวน์จะเป็นเมืองไหน

ประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น บราซิล ซึ่งพึ่งพาความต้องการของจีนสำหรับผลิตภัณฑ์ เช่น แร่เหล็กและโลหะอื่นๆ อาจลดความต้องการลง

ผู้ส่งออกส่วนประกอบและเครื่องจักรไปยังจีน เช่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รายงานยอดขายที่ทรุดตัวลงแล้วหลังจากการปิดโรงงานในจีน เพราะมาตรการล็อกดาวน์

Ford Motor Co. รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ในจีนลดลง 19% ในไตรมาสแรกจากปีก่อนหน้า

ขณะที่ Texas Instruments Inc. ผู้ผลิตชิปในดัลลัสของสหรัฐฯ ได้ปรับลดประมาณการรายรับสำหรับไตรมาสที่ 2 ลง

เหตุเพราะความต้องการที่ลดลงที่เกี่ยวข้องกับข้อจำกัดของโควิดในจีน

การเปิดเผยตัวเลขชุดล่าสุดนี้มาในจังหวะที่ไม่สวยมากนักสำหรับผู้นำประเทศ

เพราะก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน คำประกาศจากกรมการเมือง หรือ Politburo ของพรรคคอมมิวนิสต์ที่มี สี จิ้นผิง นั่งหัวโต๊ะ รับปากว่าจะทำทุกอย่างให้บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจ

แต่ขณะเดียวกันก็ยังนั่งยันนอนยันว่าจะยังเดินหน้าตามนโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์” เพื่อควบคุมการแพร่เชื้อโควิด

ถ้าถามนักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักก็จะได้คำตอบว่า เป้าหมายทั้ง 2 นั้นขัดแย้งกัน

จะให้เศรษฐกิจโตตามเป้าและควบคุมให้การแพร่ระบาดของโควิดเป็นศูนย์ตลอดเวลานั้นเป็น 2 อย่างที่ย้อนแย้งกันอยู่ในตัวเอง

ผู้เชี่ยวชาญเริ่มคาดการณ์ว่า การเติบโตของ GDP จะต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการของรัฐบาลที่ประมาณ 5.5%

บางสำนักถึงกับทำนายว่า การเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 2 จะติดลบเพราะการล็อกดาวน์ที่เมืองใหญ่ๆ ในช่วงนี้

ยกเว้นเสียแต่ว่าทางการพร้อมจะยอมผ่อนปรนนโยบายการปราบโควิดให้ยอม “อยู่ร่วมกับไวรัส” เหมือนที่หลายๆ ประเทศกำลังทำอยู่

แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองและความกลัวจะ “เสียฟอร์ม” ของผู้นำจีน เรื่องนี้อาจจะค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก

แต่ผู้นำจีนจะไม่ยืนหยัดนโยบายเดิมอย่างเดียวไม่ได้

ถ้าไม่ผ่อนปรนมาตรการปราบโควิด ก็ต้องอัดฉีดสารกระตุ้นในรูปแบบของมาตรการที่มีแรงจูงใจพิเศษให้กับเศรษฐกิจ

เราจึงเห็นการประกาศหลายมาตรการที่ทำหน้าที่กระตุ้นเศรษฐฏิจ

ในขณะที่ สี จิ้นผิง ยังตอกย้ำว่า การส่งเสริมด้านทุนนั้นต้องมีวงจำกัดด้วย

เพราะในความเห็นของท่านผู้นำนั้น ทุนต้องได้อยู่ภายใต้การควบคุมที่เหมาะสม

ต้องไม่ยอมปล่อยให้ทุนบ่อนทำลายวัตถุประสงค์ของแนวทาง “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”

อันหมายถึงการลดช่องว่างระหว่างคนมีกับคนจนด้วย

แต่ความเป็นจริงที่ปรากฏชัดแล้วก็คือ เมื่อจีนเป็นผู้ผลิตของโลก การล็อกดาวน์ย่อมหมายถึงการขาดแคลนสินค้า และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วโลก

แม้ทางการจีนจะพยายามย้ำว่าต้องจัดระเบียบเพื่อให้แน่ใจว่าระบบขนส่ง หรือ logistics จะต้องราบรื่น แต่ในความเป็นจริงนั้น สินค้าในตู้คอนเทนเนอร์เป็นจำนวนมากยังคงติดอยู่ที่ท่าเรือของเซี่ยงไฮ้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์

แรงกดดันต่อผู้นำจีนไม่เคยหนักอย่างที่เป็นอยู่

ยิ่งปีนี้เป็นปีสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการที่ สี จิ้นผิง ต้องสร้างความชอบธรรมที่จะให้พรรคต่ออายุการเป็นผู้นำประเทศอีก 5 ปี ปัญหาหนักๆ ที่มาพร้อมกับโควิดและสงครามยูเครนทำให้อะไรๆ ที่เคยคิดว่าจะราบรื่นนั้นเริ่มเห็นเมฆดำทะมึนเต็มไปหมดแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร

จีน-อินเดีย: 'สันติภาพร้อน' ที่ทำให้ร่วมแก้วิกฤตพม่าไม่ได้

วิกฤตพม่าทำให้ผมคิดถึงความความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียวันนี้ เพราะหากสองยักษ์แห่งเอเชียทำงานร่วมกัน ไทยก็อาจจะเป็นมือประสานให้เกิดกระบวนการเจรจาในพม่าได้

บทเรียนสีหนุวิลล์สำหรับไทย

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของจีนกับกัมพูชามาในหลายรูปแบบ...และหนึ่งในนั้นคือการสร้างสีหนุวิลล์เป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิง หรือที่เรียกว่า Entertainment Complex

อิหร่าน-อิสราเอล: ทุกฉากทัศน์ล้วนเสี่ยงสูง

คณะรัฐมนตรีสงครามหรือ War Cabinet ของอิสราเอลประชุมกันเคร่งเครียดมาหลายรอบ...สรุปได้เพียงว่าจะต้องตอบโต้อิหร่านแน่...แต่ไม่ระบุว่าเมื่อไหร่และด้วยยุทธการแบบใด