ปูตินจะประกาศอะไรวันที่ 9 พฤษภาคม?

ข่าวหลายกระแสบอกว่า วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคมนี้ จะมีความสำคัญสำหรับสงครามในยูเครน

เพราะเป็น “วันแห่งชัยชนะ” หรือ Victory Day ที่ประธานาธิบดีปูตินเตรียมประกาศเรื่องสำคัญๆ เกี่ยวกับสงครามที่เข้าสู่วันที่ 75 ในวันนั้น

ส่วนคำประกาศต่อหน้าการสวนสนามของกองทัพรัสเซีย ณ จัตุรัสแดงกลางกรุงมอสโกจะเป็นอย่างไร ยังเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายกำลังคาดเดากัน

ประเทศตะวันตกอ้างว่าปูตินอาจใช้จังหวะนี้ประกาศว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครนจะขยับเป็น “สงคราม” อย่างเป็นทางการ

แต่สันตะปาปาแห่งวาติกันให้สัมภาษณ์สื่ออิตาลีอ้างคำบอกเล่าของนายกฯ ฮังการี วิกเตอร์ โอเบิน ว่า วันนั้นปูตินจะประกาศ “ยุติสงคราม”

โฆษกรัฐบาลรัสเซีย Dmitry Peskov ออกมาปฏิเสธข่าวเรื่องปูตินจะประกาศสงครามในวันนั้น

เขาบอกว่า “เป็นข่าวไม่จริง, ไร้สาระ”

ความหมายที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร ยังต้องมีการเฝ้ารอคอยกันจนถึงวันจันทร์ที่จะถึงนี้

9 พฤษภาคมคืออะไร?

9 พฤษภาคม หรือที่เรียกว่า "วันแห่งชัยชนะ" ในรัสเซีย เป็นการระลึกถึงความพ่ายแพ้ของพวกนาซีในประเทศในปี ค.ศ.1945

สำหรับสหภาพโซเวียตในอดีตแล้ว วันนี้มีความสำคัญต่อประเทศมาก เพราะเป็นความสำเร็จด้านการสู้รบสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์

สะท้อนถึงความกล้าหาญ, เสียสละและความเหนือชั้นของกองทัพรัสเซียที่สามารถปราบนาซีเยอรมันได้จนปิดเกมสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างราบคาบ

ทุกปีกิจกรรมสำคัญคือ การเดินสวนสนามและขบวนพาเหรดทางทหารในมอสโก

เราจะเห็นผู้นำรัสเซียยืนบนหลุมฝังศพของวลาดิมีร์ เลนิน ผู้ก่อการปฏิวัติรัสเซียในจัตุรัสแดง

คำประกาศใดๆ จากผู้นำรัสเซียวันนั้นถือเป็นแนวทางของชาติที่กำหนดชะตากรรมของตนกันเลยทีเดียว

ในความเห็นของนักวิเคราะห์ที่ติดตามการเมืองรัสเซียมาตลอดนั้น วันที่ 9 พฤษภาคม ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นสำนึกแห่งความรักชาติของคนรัสเซีย

ขณะเดียวกันสำหรับผู้นำรัสเซียแล้ว การแสดงออกอย่างอลังการเพื่อสำแดงแสนยานุภาพทางทหารประจำปีนั้นก็มีจุดประสงค์เพื่อข่มขู่ฝ่ายค้าน

และประกาศให้ชาวโลกได้เกรงขามความพร้อมของรัสเซียที่จะสกัดความพยายามใดๆ ของตะวันตกที่จะกดดันและคุกคามรัสเซีย

ปูตินคงจะใช้โอกาสนี้ปล่อยสัญลักษณ์ทางด้านทางทหารเพื่อรุกคืบในยูเครน

และเพื่อสกัดความพยายามใดๆ ของตะวันตกที่จะหยุดปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน

และผมจะไม่แปลกใจเลยหากปูตินจะใช้โอกาสนี้ยืนยันว่ามาตรการคว่ำบาตรหลายระลอกของตะวันตกต่อรัสเซียนั้น

หากปูตินประกาศยกระดับจาก “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” เป็น “สงคราม” ในวันนั้นก็อาจจะหมายถึงการเดินหน้าระดมสรรพกำลังเพื่อดำเนินการกดดันยูเครนต่อไป

ทางเลือกหนึ่งสำหรับปูตินคือ การออกกฎหมายการระดมกำลังของรัสเซีย

นั่นหมายถึงการระดมกำลังทางทหารทั่วไปหรือบางส่วน

โดยมีข้ออ้างว่าจำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพราะมีภัยในกรณีที่มีการรุกรานสหพันธรัฐรัสเซีย หรือการคุกคามโดยตรงของการรุกราน การขยายวงของความขัดแย้งทางอาวุธที่มุ่งเป้าไปที่สหพันธรัฐรัสเซีย

นอกจากนี้ หากมีการประกาศ “ภาวะสงคราม” ก็จะทำให้รัฐบาลของปูตินมีอำนาจในการบริหารประเทศที่รวมศูนย์มากขึ้น

คือไม่เพียงแต่จะสามารถระดมทหารหรือเกณฑ์นักรบเสริมกองทัพเพิ่มเติมเท่านั้น แต่ยังสามารถประกาศบริหารเศรษฐกิจของประเทศ “ในภาวะสงคราม” ได้อีกด้วย

ข่าวกรองตะวันตกอ้างว่า กองกำลังรัสเซียสูญเสียทหารอย่างน้อย 15,000 นาย ตั้งแต่เริ่มสงครามเมื่อ 24 กุมภาพันธ์

หากมีการใช้คำว่า “ระดมพล” อาจหมายถึงการขยายการเกณฑ์ทหารที่ปัจจุบันอยู่ในกองทัพ หรือเปิดทางสร้าง “กองหนุน” หรือเกณฑ์ผู้ชายวัยต่อสู้ที่ได้รับการฝึกทหารเข้ามา

นักวิเคราะห์ตะวันตกอาจจะตีความว่าปูตินกำลังจะ “เปลี่ยนเรื่องเล่าว่าด้วยการรุกยูเครน

เปลี่ยนจากการยึดครองมาเป็นการเปิด “สงครามกับ Neo-Nazis” ในยูเครน

ซึ่งอาจจะเท่ากับเป็นการยอมรับว่าการบุกยูเครนไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

แน่นอน หากปูตินประกาศ “สงคราม” กับยูเครนอย่างเป็นทางการเพื่อจะได้บริหารกองทัพและเศรษฐกิจ        รวมถึงสังคมรัสเซียในรูปแบบที่เข้มข้นขึ้นอีกก็อาจจะกำลังเข้าสู่ภาวะความเสี่ยงที่สูงขึ้น

หรืออาจจะไปไกลกว่านั้น?

เช่น การประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกในรัสเซีย ระงับการเลือกตั้งและรวมอำนาจไว้ในมือมากขึ้น

แต่หากปูตินไม่ประกาศสงคราม เขาอาจมองหาที่อื่นเพื่อออกแถลงการณ์เนื่องในวันแห่งชัยชนะ

เช่น อาจจะประกาศผนวกดินแดนลูฮันสก์และโดเนตสค์ในยูเครนตะวันออกที่ประกาศแยกตัวออกมานานแล้ว

หรือประกาศควบเมืองท่าโอเดสซาทางตอนใต้ครั้งใหญ่ หรือประกาศควบคุมเมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตอนใต้อีกเมืองหนึ่ง

มีความเป็นไปได้เช่นกันว่ารัสเซียอาจวางแผนที่จะประกาศและผนวก "สาธารณรัฐประชาชน" ในเมือง Kherson ทางตะวันออกเฉียงใต้

หรืออาจจะเป็นการรวบเอาหัวข้อทั้งหมดนี้เพื่อประกาศ “ชัยชนะ” ครั้งประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง

ปูตินจำเป็นต้องยืนหยัดว่าการตัดสินใจบุกยูเครนยังดำเนินไปตามเป้าหมายเดิม

ขณะเดียวกันก็ต้องมีเรื่องราวที่ทำให้ชาวรัสเซียที่เชื่อเขายังคงสนับสนุนเขาต่อไป

และสกัดไม่ให้ผู้ต่อต้านเขาในรัสเซียสามารถระดมประชามติที่ยืนคนละข้างกับเขามากไปกว่านี้

ในแง่หนึ่งการคาดเดาว่าปูตินจะพูดจะทำอะไรเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะเขาพร้อมจะเปลี่ยนทิศทางการนำเสนอได้ตลอดเวลา

แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพยากรณ์ว่าปูตินต้องการจะบอกกล่าวให้คนรัสเซีย, ตะวันตกและชาวโลกได้รับรู้อะไร

มันคือการผสมผสานของคำว่า “สงคราม” กับ “ชัยชนะ” ที่ต้องมาวางเรียงกันไว้ต่อหน้าเขาเท่านั้น!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งบมะกันก้อนใหม่จะช่วยยูเครน พลิกสถานการณ์สู้รบได้แค่ไหน?

แม้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯจะเปิดไฟเขียวให้งบประมาณช่วยเหลือทางทหารก้อนใหม่ แต่ยูเครนก็ยังต้องดิ้นรนไม่ให้แพ้สงครามกับรัสเซีย

ทิม คุกบินไปเวียดนาม-อินโดฯ ทำไมไม่แวะประเทศไทย?

สัปดาห์ก่อน ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บินข้ามไทยไปเวียดนาม, อินโดนีเซียและสิงคโปร์ เพื่อสรุปแผนการลงทุนหรือเพิ่มกิจกรรมในประเทศเหล่านั้น

มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร