ข้างหลังทหารยูเครนสู้รัสเซีย ยังมีปฏิบัติการข่าวกรองมะกัน

การที่ทหารยูเครนสามารถสกัดการรุกคืบของรัสเซียเอาไว้ในหลายๆ กรณีนั้นไม่ใช่เพียงเพราะได้อาวุธยุทโธปกรณ์จากทางตะวันตกเท่านั้น

แต่ “ข่าวกรอง” เป็นหัวใจของการทำสงครามอีกมิติหนึ่งอย่างแน่นอน

สื่อสหรัฐฯ หลายสำนักรายงานตรงกันว่า สหรัฐฯ จัดหาข่าวกรองที่ช่วยให้กองกำลังยูเครนค้นหาและโจมตีเรือธงของกองเรือทะเลดำของรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว

ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้อีกว่าฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กำลังปรับกฎเกณฑ์กติกาให้ผ่อนคลายข้อจำกัดที่ตนเองกำหนดไว้ก่อนหน้านี้

เพื่อช่วยยูเครนในการต่อสู้กับการรุกคืบของกองกำลังรัสเซียทั้งบนบก, ทางอากาศและในทะเล

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้โฆษกทำเนียบขาวออกมาปฏิเสธ แต่ก่อนหน้านั้นแหล่งข่าวในรัฐบาลอเมริกันบอกกับหลายสื่อว่า ความช่วยเหลือในการกำหนดเป้าหมายฝ่ายตรงกันข้ามมีส่วนในการจมเรือ Moskva ซึ่งเป็นเรือธงของรัสเซียในกองเรือทะเลดำ

แม้ NATO จะไม่ได้เข้าร่วมรบโดยตรง แต่สมาชิกนาโตแต่ละชาติก็มีส่วนเสริมกองทัพรัสเซียในการตั้งรับและรุกกลับของยูเครน จนทำให้แผนสงครามของรัสเซียมีอันต้องเพลี่ยงพล้ำในหลายๆ       กรณี

การที่สหรัฐฯ ป้อน “ข่าวกรองสนามรบแบบเรียลไทม์” ให้แก่นักรบยูเครน สร้างความได้เปรียบของกองทัพยูเครนอย่างเห็นได้ชัด

เพราะปฏิบัติการลับที่ว่านี้ยังรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลความเคลื่อนไหวของกองทหารรัสเซียที่ประเมินไว้ล่วงหน้าโดยหน่วยยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ และตะวันตก

เป็นการรวบรวมจากการประเมินแผนรบของมอสโกที่ใช้ในการสู้รบในภูมิภาค Donbas ทางตะวันออกของยูเครน

ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เร่งส่งอาวุธที่มีประสิทธิภาพทำลายล้างสูงขึ้นไปให้ยูเครน

รัฐสภาเตรียมอนุมัติข้อเสนอของไบเดนชุดใหม่ ของบประมาณเพิ่มเติมอีก 39,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท) ให้ยูเครน

ตอกย้ำว่าวอชิงตันกำลังหาทางลดข้อจำกัดของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนยูเครนเพื่อให้แน่ใจว่ารัสเซียจะไม่สามารถยึดครองยูเครนได้อย่างที่วางแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้น

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอเมริกาบอกว่า ความจริงฝ่ายยูเครนเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูลที่ทำให้สามารถเล็งเป้าหมายไปที่เรือธง Moskva ของรัสเซียด้วยตนเอง

สหรัฐฯ เพียงช่วยตรวจสอบข้อมูลข่าวกรองเพื่อการยืนยันว่าถูกต้องแม่นยำเท่านั้น

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหน่วยข่าวกรองของอเมริกามีบทบาทสำคัญยิ่งในการทำให้เรือรัสเซียลำนี้จมลงไปในท้องทะเลในที่สุด

กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงครามในยูเครนกันเลยทีเดียว

พอรัสเซียเปิดฉากสงคราม หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ ก็เริ่มทำงานด้วยการให้รายละเอียดเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของรัสเซียให้กองทัพยูเครนทันที

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจังหวะเวลาและเป้าหมาย หรือสถานที่ที่ขีปนาวุธและระเบิดของรัสเซียเล็งจะโจมตี

มีผลช่วยให้ยูเครนเคลื่อนไหวเพื่อป้องกันทางอากาศและเครื่องบินให้พ้นจากอันตราย

การแบ่งปันข่าวกรองแบบเรียลไทม์ยังปูทางให้ยูเครนยิงเครื่องบินขนส่งของรัสเซียที่บรรทุกทหารหลายร้อยนายตกในช่วงแรกๆ ของสงคราม

นั่นมีส่วนช่วยขับไล่สกัดการโจมตีของรัสเซียต่อสนามบินสำคัญๆ ใกล้เมืองหลวงเคียฟ

ปฏิบัติการแบ่งปันข่าวกรองระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครนเช่นนี้ถือว่าเป็นกรณีพิเศษที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับพันธมิตรที่ไม่ใช่นาโต

มีส่วนช่วยเกื้อหนุนกองทัพยูเครนในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซียที่ใหญ่กว่าและมีอาวุธดีกว่ามาตลอด

โดยภาษาทางการแล้ว สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ เพียงบอกกับสาธารณชนผ่านแถลงการณ์ของโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวว่า

“เรากำลังให้ข่าวกรองที่มีรายละเอียดและทันท่วงทีแก่ชาวยูเครนในสนามรบเป็นประจำ เพื่อช่วยปกป้องประเทศของพวกเขาจากการรุกรานของรัสเซียและจะทำเช่นนั้นต่อไป”

อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสที่คุ้นเคยกับสถานการณ์บอกกับสื่อมะกันว่า ข้อมูลที่สหรัฐฯ ส่งต่อให้ยูเครนนั้นมีรูปแบบต่างๆ เช่น ภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ "แต่ยังมีข้อมูลอื่นๆ อีกมากมายเกี่ยวกับหน่วยงานของรัสเซียที่ถือว่าเป็นความลับที่รู้กันเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น"

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เกิดจากการแบ่งปันข่าวกรองก็คือ กองทัพยูเครนสามารถเคลื่อนย้ายระบบป้องกันภัยทางอากาศเป้าหมายหรือเครื่องบินได้ทันเวลา...ก่อนการโจมตีของรัสเซีย

ความจริงความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครนเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่รัสเซียยึดไครเมียในปี 2014

แต่ฝ่ายบริหารของไบเดนก็ยกระดับความร่วมมือให้สูงขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนการบุกของรัสเซีย

ทีมทหารสหรัฐฯ เยี่ยมชมเพื่อประเมินสถานะของการป้องกันทางอากาศของยูเครน

และให้คำแนะนำโดยละเอียดแก่ยูเครนว่าด้วยวิธีกระจายระบบป้องกันภัยทางอากาศของตน

มีผลช่วยให้ยูเครนปิดช่องทางที่จะให้รัสเซียจากการยึดครองน่านฟ้าได้ทั้งหมด

กองกำลังยูเครนได้ใช้พิกัดเฉพาะที่สหรัฐฯ ใช้ร่วมกันเพื่อสั่งยิงไปยังตำแหน่งและเครื่องบินของรัสเซีย

ช่วยขัดขวางการปฏิบัติการจู่โจมทางอากาศของรัสเซียที่ออกแบบมาเพื่อให้สนามบินโฮสโตเมลใกล้กับกรุงเคียฟ

ซึ่งจะทำให้ฝั่งรัสเซียสามารถระดมกำลังทหารและอุปกรณ์ต่างๆ ในภูมิภาครอบเมืองหลวงได้

ในที่สุดแม้ทหารรัสเซียก็เข้าสนามบินได้ชั่วขณะหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยสามารถควบคุมการบินด้วยอุปกรณ์จำนวนมหาศาลได้เพียงพอ

ความล้มเหลวนี้เองที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการต่อสู้เพื่อปกป้องกรุงเคียฟของฝ่ายยูเครนอย่างมีประสิทธิภาพ

นี่คือเบื้องหลังปฏิบัติการข่าวกรองลับที่อเมริกาหนุนเนื่องให้ยูเครนปักหลักสู้กับรัสเซียได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจถึงวันนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทิม คุกบินไปเวียดนาม-อินโดฯ ทำไมไม่แวะประเทศไทย?

สัปดาห์ก่อน ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บินข้ามไทยไปเวียดนาม, อินโดนีเซียและสิงคโปร์ เพื่อสรุปแผนการลงทุนหรือเพิ่มกิจกรรมในประเทศเหล่านั้น

มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร

จีน-อินเดีย: 'สันติภาพร้อน' ที่ทำให้ร่วมแก้วิกฤตพม่าไม่ได้

วิกฤตพม่าทำให้ผมคิดถึงความความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียวันนี้ เพราะหากสองยักษ์แห่งเอเชียทำงานร่วมกัน ไทยก็อาจจะเป็นมือประสานให้เกิดกระบวนการเจรจาในพม่าได้