รื้อ กม.ตำรวจสกัดเด็กเส้น!

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศตำรวจเป็นกรณีพิเศษ ระบุ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศร้อยตำรวจตรีเป็นกรณีพิเศษ ให้แก่ ข้าราชการตำรวจชั้นประทวนยศ ดาบตำรวจ ที่มีความประพฤติเรียบร้อยและปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความวิริยอุตสาหะตลอดมา ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2565 จำนวน 70 ราย อาทิ ดาบตำรวจการุณย์ บือราเฮง, ดาบตำรวจ กิจจ์ ณ สงขลา, ดาบตำรวจเกรียงศักดิ์ แก้วพินิจ, ดาบตำรวจเกษม เรืองเดช, ดาบตำรวจจรูญ ไชยสาลี, ดาบตำรวจชัยรัตน์ ศรีษะเพชร, ดาบตำรวจชาติชาย สุพรรณอาสน์, ดาบตำรวจณัฐวัฒน์ สองนาม, ดาบตำรวจดํารง พันมะกรูดทอง และ ดาบตำรวจดื่ม สีจันทร์ เป็นต้น 

นอกจากนี้ยังมีประกาศ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศตำรวจเป็นกรณีพิเศษ ให้แก่ ข้าราชการตำรวจ ซึ่งเสียชีวิตเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ จำนวน 11 ราย รวมทั้งมีประกาศ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศตำรวจเป็นกรณีพิเศษ ให้แก่ ข้าราชการตำรวจ ซึ่งทุพพลภาพหรือพิการจนไม่สามารถรับราชการต่อไปได้ เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการจำนวน 3 ราย ๐

เกริ่น ปฏิรูปตำรวจ ใกล้เสร็จสิ้นไปเมื่อสัปดาห์ก่อน มาสัปดาห์นี้รายละเอียด “ปฏิรูปตำรวจ” เริ่มเผยโฉมออกมาให้เห็นเค้าโครงความหล่อเหลากันบ้างแล้ว เมื่อ บิ๊กนวย-พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน อดีต ผบช.ภ.1 ซึ่งเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง "สิ้นสุดการรอคอยกับการปฏิรูปตำรวจ" เนื้อหาคร่าวๆ จุดที่น่าสนใจ มีการปรับ ก.ตร. ซึ่งมีบทบาทอำนาจหน้าที่ในการกำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งตำรวจ ไม่ให้รอง ผบ.ตร. และปลัดกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกฯ มาเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ มีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกไม่กี่คน ซึ่งถูกเลือกจากตำรวจ ยศ พ.ต.อ.ขึ้นไปเป็นผู้เลือก ก.ตร.ใหม่ โครงสร้างจะมีนายกฯ เป็นประธาน, ผบ.ตร.เป็นรองประธาน, เลขาธิการ ก.พ., เลขาธิการ ก.พ.ร., รอง ผบ.ตร.ตามลำดับอาวุโส 5 คน และจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ รวมทั้งมี ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน มี ผบช.ก.ตร. เป็นเลขาฯ และรอง ผบช.ก.ตร. เป็นผู้ช่วยฯ โดย ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ให้สิทธิ์ตำรวจตั้งแต่ สิบตำรวจตรี ขึ้นไป จนถึง พล.ต.อ. จำนวนกว่า 2 แสนนาย ลงคะแนนเลือก ๐

ที่น่าสนใจ บิ๊กนวย บอกไว้ “...คำพูดที่ว่า 'หลักเกณฑ์เอาไว้ใช้กับคนที่ไม่มีเส้น ส่วนคนที่มีเส้นได้รับการยกเว้นหลักเกณฑ์' เป็นเรื่องที่มีอยู่จริงและมีมานานแล้ว พวกดาวรุ่ง ดาวหาง ผีพุ่งไต้ ลูกท่านหลานเธอ เส้นใหญ่ไร้กติกา ก็จะใช้บทบัญญัติข้อยกเว้นข้อนี้แหละ ยกเว้นหลักเกณฑ์การแต่งตั้งที่ ก.ตร.เขียนไว้อย่างดิบดี ต้องพังครืนลงด้วยบทบัญญัติเพียงวรรคท้ายของมาตรา 80 เท่านั้นคือ 'ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก.ตร.จะมีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ เพื่อแต่งตั้งบุคคลใดให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการตำรวจแตกต่างไปจากหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในหมวดนี้ก็ได้' ในการปฏิรูปครั้งนี้ให้ยกเลิกบทบัญญัติวรรคท้ายของมาตราดังกล่าวทิ้ง แปลว่า มวลตำรวจทุกคนจะอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกันอย่างเสมอภาค...” นั่นหมายความว่าการรื้อกฎหมายตำรวจครั้งนี้ จะสกัดเด็กเส้นเด็กสายไม่ให้ขึ้นลิฟต์ ขึ้นบันไดเลื่อน ข้ามหัวผู้อาวุโสต่างๆ ซึ่งหากทำได้จริงเชื่อว่าตำรวจทั่วประเทศจะยกมือท่วมหัว...สาธุ ๐

งามหน้าไม่หยุดหย่อน จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักสามพราน จ.นครปฐม จับกุมเด็กวัยรุ่น 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาขอความช่วยเหลือจากกลุ่มวัยรุ่นที่ตามทำร้าย และได้พบรถสายตรวจจอดอยู่ริมถนน จึงขอความช่วยเหลือ แต่ตำรวจไม่ฟัง สั่งให้ยกมือขึ้นและให้นั่งถอดเสื้อ ก่อนตรวจค้นเจออาวุธปืนพกสั้นพร้อมกระสุน จึงบังคับให้นอนลงกับพื้น ทำร้ายร่างกาย ใช้มือตบ ใช้เท้าเหยียบหัว จับใส่กุญแจมือนั้น ล่าสุด พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 ในฐานะโฆษกตำรวจภาค 7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ คำปาเชื้อ รอง ผบก., พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก. และ พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช

ผกก.สภ.สามพราน ซึ่งเป็นคณะกรรมการสอบสวน สรุปผลการสอบสวนพบ รอง สวป. สภ.สามพราน มีมูลการกระทำความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง รวมทั้งญาติเด็กที่ถูกทำร้ายร้องดำเนินคดีอาญา จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และให้ออกจากราชการไว้ก่อน ๐

พล.ต.อานนท์ เพชรคำ หัวหน้าคณะทำงานด้านกิจการพลเรือน ทบ. เดินทางตรวจเยี่ยมดูสภาพความพร้อมด้านบรรเทาสาธารณภัย ของกองพลทหารราบที่ 11 (พล.ร.11) จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี บิ๊กตั้ง-พล.ต.ธวัชชัย ตั้งพิทักษ์กุล ผบ.พล.ร.11 และผู้บังคับบัญชาหน่วยต้อนรับ โดยมีการจัดบรรยายสรุปและหัวหน้าคณะทำงานรับฟังปัญหาข้อขัดข้อง และให้คำแนะนำปรับปรุงหน่วยบรรเทาสาธารณภัยให้มีความพร้อม โดยมียุทโธปกรณ์หรือสิ่งอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และสำรวจความต้องการยุทโธปกรณ์ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วย รวมทั้งจัดทำบัญชีรายละเอียดยุทโธปกรณ์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่สำคัญคือการฝึกร่วมกับส่วนราชการศูนย์บรรเทาสาธารภัยในพื้นที่ พร้อมรับหากเกิดสถานการณ์จริง ๐

เห็นแคมเปญของกองทัพอากาศ จัดกิจกรรมดูหนังทหารเกี่ยวกับนักบิน เรื่อง TOP GUN: MAVERICK โดยการตอบคำถามลุ้นรับตั๋วดูภาพยนตร์แล้ว ทำให้นึกถึงช่วงที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก ที่ตอนนั้นจัดกิจกรรมให้กำลังพลดูภาพยนตร์เรื่อง Black Hawk Down ปูพื้นก่อนที่จะเปิดโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กเข้าประจำการ แต่สำหรับกิจกรรมครั้งนี้มุ่งหวังการเดินหน้านโยบาย ปลุกคนรุ่นใหม่ที่รักหนัง รักเครื่องบิน ให้มีแรงบันดาลใจเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกับ ทอ. หรือมาสมัครเป็นนักเรียนนายเรืออากาศเพื่อเป็นนักบินในอนาคต อีกทั้งมีการจัดทำคลิปทางช่องยูทูบในรายการ RTAF INSIDER ที่พูดคุยเกี่ยวกับเครื่องบิน ศัพท์ต่างๆ ที่อยู่ในบทหนังโดย ต้น-น.อ.ณัฏฐวุธ ดวงสูงเนิน อดีตผู้การฝูงบิน 701 นักบินกริพเพน นามเรียกขาน NEON ภาพรวมคือการขยับปรับตัวสื่อสารกับสังคมภายนอก โดยมีภาพยนตร์เป็นตัวกลางปูพื้นการพัฒนาศักยภาพด้านการบิน ทอ.ตามนโยบายของ บิ๊กป้อง-พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาเครื่องบินในเจเนอเรชันที่ 5 อย่าง F-35 ให้เป็นผลสำเร็จ๐

ประชาชนและชุมชนที่อยู่รอบๆ หน่วยทหารชายแดนนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นความร่วมมือระหว่างกำลังพลและชาวบ้าน ถือเป็นกุญแจแห่งความมั่นคงในการรักษาปกป้องอธิปไตยชาติ ทำให้สัปดาห์ก่อน พล.ร.ต.สรวุท ชวนะ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เดินทางไปยังหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด เพื่อตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญและดูแลความเป็นอยู่ของกำลังพลหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด โดยพักค้างแรมและร่วมกิจกรรมประจำวันกับกำลังพลหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด รวมทั้งชมการฝึกทบทวนการยิงอาวุธปืน 76/50 และปืนต่อสู้อากาศยาน 37 มม. ซึ่งเป็นอาวุธประจำหน่วย ซึ่งทำการฝึกยิงต่อเป้าพื้นน้ำ และเป้าอากาศยานสมมติ ทั้งนี้ยังได้มีการร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับประทานอาหารเช้าร่วมกันกับหัวหน้าส่วนราชการและผู้นำท้องถิ่น ชมการฝึกยิงอาวุธประจำหน่วย นปก. เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจในภารกิจของหน่วย ๐

สำหรับภารกิจของผู้นำกองทัพในการกระชับความสัมพันธ์กับกองทัพประเทศเพื่อนบ้านหลังโควิด-19 ใกล้เป็นโรคประจำถิ่น เริ่มมีการเดินสายพบปะผู้นำกองทัพรอบบ้านตามคำเชิญอย่างเป็นทางการ โดย บิ๊กแก้ว-พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เดินทางเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของ พล.อ.อ.Tan Sri Dato’ Sri Haji Affendi Bin Buang ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย สองฝ่ายได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนาน โดยจะเห็นได้จากที่มีการแลกเปลี่ยนการเยือน การฝึก ศึกษาระหว่างกันในทุกระดับ ภายใต้กรอบของการประชุม GBC และความร่วมมือต่างๆ ซึ่งหากกองทัพไทยต้องการขยายความร่วมมือเพิ่มเติ่มสามารถเสนอความต้องการได้ ขณะที่ บิ๊กบี้-พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของผู้บัญชาการทหารบกสิงคโปร์เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'โจ๊ก' ยื่นอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการ ปูดแผนผังแก๊ง 4x100 สยบปีกพระพรหม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.ตร.) กรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ร

'บิ๊กต่าย' เซ็นแบ่งงานรองผบ.ตร. 'ธนา-สราวุฒิ' แทน 'บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กรอย'

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) มีคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 ลงวันที่ 17 เม.ย. 2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ตำรวจแจ้ง 5 จุดจอดรถ เล่นน้ำสงกรานต์พระประแดง 21 เม.ย.

จุดจอดรถ  สงกรานต์พระประแดง วันอาทิตย์ ที่ 21 เม.ย.67 ระบุว่า  มีจุดจอดรถยนต์ รองรับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมสงกรานต์พระประแดง

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล