๘ ปีของนายกฯ ประยุทธ์

นำไปสู่การตั้งคำถามกับพรรคเพื่อไทย

"...พรรคเพื่อไทยควรย้อนดูตัวเองด้วยว่า ที่ประเทศไทยต้องเจอกับสถานการณ์และเศรษฐกิจอย่างทุกวันนี้  เพราะรัฐบาลไหนทุจริตคอร์รัปชันมโหฬารชนิดที่อดีตนายกฯ ต้องหนีออกนอกประเทศ อดีตรัฐมนตรีต้องติดคุกไม่รู้กี่คนต่อกี่คน

หาก ๘ ปีที่ผ่านมาท่านนายกฯ ไม่เข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ วันนี้ประเทศคงจะแบ่งสีแบ่งฝ่ายกันอีกนาน  ประเทศคงจะถูกการทุจริตกัดกร่อนพรุนยิ่งกว่าบ้านถูกปลวกแทะไปนานแล้ว

หรือที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยมัวแต่สนใจว่าจะต้องช่วยใครคนใดคนหนึ่งให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนใช่หรือไม่ ถึงไม่เห็นว่าวันนี้หลายนโยบายของรัฐบาลถูกใจประชาชน จนประชาชนต่างเรียกร้องให้ออกนโยบายช่วยเหลือเพิ่มมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

หรือว่าพรรคเพื่อไทยทำใจไม่ได้ที่เห็นว่าประชาชนเริ่มสนใจนโยบายของรัฐบาลมากขึ้น จึงกลัวว่าคะแนนนิยมของตัวเองจะตกลง

อยากเตือนคนเสื้อแดงว่า ขอให้ย้อนดูอดีตนายกฯ  ท่านหนึ่งเป็นตัวอย่างให้ดี ที่ท่านเชื่อคำกล่อมว่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯ รอบที่ ๒ แต่สุดท้ายก็ถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด จนต้องเดินออกจากสภา กลับบ้านอย่างเดียวดาย  วันนี้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้งของคนในชาติมานานแล้ว อย่ากลับไปจุดเดิมอีกเลย..."

หากมองตามข้อเท็จจริง การบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดของรัฐบาลหนึ่ง จะกระทบไปถึงรัฐบาลถัดจากนั้นแน่นอน

ที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ นโยบายรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมหาศาลเข้าไปอุดหนุน

เป็นนโยบายเพื่อสร้างความนิยมทางการเมือง มากกว่าที่จะช่วยชาวนาจริงๆ

ก็เหมือนแจกปลาครับ แทนที่จะแจกเบ็ด

รัฐบาลประยุทธ์จึงต้องตั้งงบประมาณชดเชยไปแล้วรวม ๙.๕ แสนล้านบาท

นี่ยังไม่นับรวมการขายข้าวแบบจีทูจีเก๊ มีการโกงกันเป็นขบวนการ ผลคือติดคุกกันระนาว ตั้งแต่รัฐมนตรี ข้าราชการยันพ่อค้า

ฉะนั้น ๘ ปีในหน้าที่ของรัฐบาลประยุทธ์ ส่วนหนึ่งคือต้องเช็ดขี้ให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์

ฝั่งเพื่อไทยเขาไม่พอใจซิครับ ที่ไปบอกให้ย้อนดูตัว

"ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์" โฆษกพรรคเพื่อไทย ตอบโต้คอเป็นเอ็น

"...การทุจริตคอร์รัปชันที่กัดกร่อนประเทศตามที่นายธนกรกล่าวอ้างนั้น ความจริงปรากฏและสาธารณชนรับรู้โดยทั่วกันว่า ที่ผ่านมาสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ยอมรับว่ายุค  'คสช.-ประยุทธ์' เงินแผ่นดินรั่วไหลเฉียด ๓ แสนล้านบาท

ส่วนดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันปี ๒๕๖๔ ของไทยคะแนนลดลง จาก ๓๖ เหลือ ๓๕ คะแนน อันดับร่วงลงจากอันดับที่ ๑๐๔ ในปี ๒๕๖๓ มาอยู่อันดับที่ ๑๑๐ ในปีนี้

ตัวเลขที่หน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศรายงาน ล้วนเป็นฝีมือการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสิ้น ทั้งหมดคือข้อเท็จจริง และเป็นความจริงที่นายธนกรต้องยอมรับให้ได้ ไม่ใช่เอาแต่ท่องจำวาทกรรมเดิมๆ และยังมีความพยายามเชื่อมโยงเรื่องราวให้ผู้ที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารเข้าใจผิดได้

อดีตนายกรัฐมนตรีที่นายธนกรกล่าวถึงถูกโค่นล้มไล่ล่าในทางการเมือง ถูกกล่าวหาในหลายคดีความอย่างไม่ยุติธรรม ไม่ยึดหลักประชาธิปไตย สุดท้ายทั้งสองท่านถูกรัฐประหาร ซึ่งประเทศที่เจริญแล้วทั่วโลกไม่ยอมรับวิธีนี้                  ดังนั้น การทุจริตเฟื่องฟูเบ่งบานล้วนเกิดขึ้นในรัฐบาล  คสช. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำ แต่งตั้งโดยเผด็จการ  และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในปัจจุบันนี้ ตอนนี้ประเทศถูก  'ปลวก' ทุจริตกัดกร่อนจนบ้านที่ชื่อว่าประเทศไทย ล้มพังไปนานแล้ว

ด้วยฝีมือการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งสิ้น..."

อ่านไปก็สนุกดีครับ การเมืองประเทศเดียวกันแต่ราวกับอยู่คนละมิติ

ทำไมโฆษกพรรคเพื่อไทยไม่ยอมเอาตัวเลขดัชนีคอร์รัปชันสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาบอกประชาชนด้วย

อายหรือครับ?

ย้ำกันอีกที เรื่องคอร์รัปชันเกิดขึ้นในทุกรัฐบาล แม้กระทั่งรัฐบาลประยุทธ์ก็มี

เพราะมันเข้าไปอยู่ในดีเอ็นเอของคนโกงแล้ว

เพียงแต่การลากคอคนโกงมาลงโทษนั้น เป็นสิ่งที่นักการเมือง โดยเฉพาะฝ่ายค้านซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลแทนประชาชน ต้องทำ มากกว่าพูด

และอย่าหลอกตัวเอง

ปัญหาของพรรคเพื่อไทยคือความน่าเชื่อถือ เพราะอดีตยังหลอกหลอนประชาชนอยู่

ทุกครั้งที่พรรคเพื่อไทยพูดถึงการคอร์รัปชัน ก็จะถูกย้อนด้วยเรื่องคอร์รัปชันเมื่อครั้งที่ตัวเองเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ

คอร์รัปชันจึงกลายเป็นโซ่พันธนาการพรรคเพื่อไทย

ไม่อาจสลัดให้พ้นได้มาจนถึงทุกวันนี้

หากรัฐบาลประยุทธ์คือปลวกกัดกินประเทศ รัฐบาลระบอบทักษิณก็เป็นตะกวด จับกินหมดตั้งแต่สัตว์บกยันสัตว์น้ำ สัตว์ปีก กินทุกอย่างที่มีชีวิต

จนถึงวันนี้พรรคเพื่อไทยยังพยายามบอกกับประชาชนว่า การโกงในรัฐบาลระบอบทักษิณ เป็นเรื่องไม่จริง เป็นการเข่นฆ่าทางการเมือง

เป็นเพราะเผด็จการต้องการทำลายประชาธิปไตย

อ้างจนกลายเป็นคาถาประจำพรรคไปเสียแล้ว

แต่ก็แปลกนะครับ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ยอมสู้คดีโกงในกระบวนการยุติธรรม แต่เมื่อเห็นว่าตัวเองแพ้คดีแน่ ก็เผ่นไปต่างประเทศเสียก่อนที่ศาลจะอ่านคำวินิจฉัย

คดีคอร์รัปชันมันไม่ได้แกล้งกันง่ายๆ ครับ

มันต้องมีหลักฐานที่้หนาแน่นพอที่จะเอาผิดได้

ก็ดูคดี "ข้าวจีทูจีเก๊" เป็นตัวอย่างได้เลยครับ

โกงล้วนๆ ไม่มีเกมการเมืองแทรก

คนโกงตัวจริงเสียงจริง ไม่มีการแสดงแทน

และติดคุกกันไปหมดแล้ว

นี่คือหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โกงจริง

มันไม่ใช่วาทกรรมว่า ระบอบทักษิณขี้โกง แต่มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น และพิสูจน์โดยกระบวนการยุติธรรมแล้ว

๘ ปีรัฐบาลประยุทธ์ ยังไม่มีรัฐมนตรีเข้าคุก หรือหนีไปต่างประเทศ

ฉะนั้นเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องย้อนมองตัวเองจริงๆ ตามที่โฆษกรัฐบาลแนะนำ

เพราะหากไม่รู้จักตัวเอง แล้วยังอ้างว่าอาสาเข้ามาเพื่อรับใช้ประชาชน การคอร์รัปชันมโหฬารอย่างในอดีตก็จะกลับมาหลอกหลอนกันอีกครั้ง

พรรคเพื่อไทยหลอกตัวเองว่าไม่เคยโกงได้ แต่หลอกประชาชนไม่ได้ครับ เพราะคนของพรรคเพื่อไทยในอดีตยังอยู่ในคุกหลายคน.