เล่นเอาพลพรรคเพื่อไทย “ปวดกบาล” กันเลยทีเดียว เมื่อ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร หรือโทนี่ วู้ดซัม กล่าวตอนหนึ่งในรายการ CareTalk x CareClubHouse ภายใต้หัวข้อ “เศรษฐกิจพังยับ ประยุทธ์รับมือไม่ไหว” ว่าด้วยเรื่อง “แลนด์สไลด์” เพราะนายใหญ่ดันบอกว่าแม้รัฐบาลใหม่ได้แลนด์สไลด์ก็เป็นทุกขลาภ การแก้ไขปัญหาต่อไปนี้ยากมาก เพราะเละเทะทุกจุด ไม่มีระบบอะไรดีเลย งานนี้เล่นเอาลูกพรรคเพื่อไทยรวมทั้งทายาทนายกฯ หญิงคนที่สองของสยามประเทศอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” ไปไม่ถูก เลย ...๐
เพราะคนที่ปลุกและจุดพลุเรื่อง “แลนด์สไลด์” ก็คือคนแดนไกลนั่นเอง แต่วันดีคืนดีก็กลับมาบอกว่าเป็นทุกขลาภซะอย่างนั้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด เพราะ สัมภเวสีเหลี่ยมก็เรียกว่าพลิกไปพลิกมาเป็นนิจศีล อยู่แล้ว ดูจากก่อนหน้านี้ในเรื่อง “เงินดิจิทัล” หรือ “คริปโตเคอเรนซี”
ที่เจ้าตัวเคยมาร้องแรกแหกกระเชอว่าโลกก้าวไปถึงไหนแล้ว แต่ประเทศไทยยังจะอนุรักษนิยมกันอยู่อีก แต่เมื่อเงิน “คริปโต” ร่วงลงมาเพิ่งจะมาฟื้นในช่วง 2-3 วันนี้เท่านั้น พี่เหลี่ยมก็เท “คริปโต” เสียแล้ว บอกให้กอดเงินสดไว้ดีกว่า ...๐
นี่ถ้าไป ส่องสำรวจดู เผลอๆ อาจพบว่า “นายใหญ่” ก็เจ๊งไปกับคริปโตเหมือนกันก็เป็นได้ แล้วก็ไม่พลาดอีกเช่นกันที่ “ชายแม้ว” จะต้องมาโหนกระแสว่าด้วยกัญชา-กัญชง โดยเล่นแรงไปเทียบกับ “ฝิ่น” กันเลยทีเดียวว่าบอกแต่ข้อดีไม่ยอมบอกข้อเสีย สงสัยรู้ว่ากระแสกัญชานั้นสร้างชื่อและคะแนนให้กับพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เพราะลูกพรรคยังต้องจัดมหกรรม "ไล่หนู ตีงูเห่า” ข่มมาแล้ว ลูกพี่ใหญ่เลยต้องออกโรงมาหวดซ้ำเรื่องพิษกัญชากันบ้าง ...๐
เชื่อหัวไอ้เรืองได้เลยว่าสัปดาห์นี้ “คุณพี่โทนี่” ก็ต้องออกมาตำหนิติติงรัฐบาลในการมอมเมาประชาชนว่าด้วย “หวยดิจิทัล” เช่นกัน แต่เจ้าตัวคงไม่ลืมว่าตัวเองก็เป็นต้นธารของหวย 2 ตัวและ 3 ตัวนะจะบอกให้ ...๐
พูดถึงเรื่อง “กัญชง-กัญชา” แล้วก็มีข่าวเล็กๆ แต่สำคัญมาบอกคนไทยเช่นกัน เมื่อ “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา” ได้โพสต์เตือนคนไทยไม่ให้นำ “กัญชา-กัญชง” หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของกัญชา-กัญชงเข้าประเทศ เพราะมีโทษ ตามกฎหมายปรับขั้นต่ำ 1 พันล้านรูเปียห์ จำคุก 5 ปีถึงตลอดชีวิต หรือโทษสูงสุดประหารชีวิตกันเลยทีเดียว งานนี้บรรดาขาพี้หรือขาปุ้นต้องจำให้ขึ้นใจนะตัวเอง ...๐
หันมาเรื่องการเมืองเล็กๆ อีกเรื่องหนึ่งว่าด้วย การตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตกันบ้าง ซึ่งก็ได้ประธานเป็น “อนุชา นาคาศัย” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั่นเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ประการใด แต่ที่น่าสนใจคือเคส “ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์” ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ จากการเสียบบัตรแทนกัน ที่ได้มานั่งเป็น กมธ.ด้วย ซึ่ง “พรพิศ เพชรเจริญ” เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรก็การันตีว่าเป็นได้ ไม่เหมือน “ปารีณา ไกรคุปต์” เพราะเคสของน้องเอ๋นั้นศาลมีคำสั่งมาโดยตรงถึงสภากันเลย เรียกว่าใครๆ ก็ไม่รักเอ๋ทั้งนั้น โทษและคดีจึงแรงและเร็วด่วนจี๋เป็นพิเศษ ...๐
พูดถึงการเมืองไม่เอ่ยอ้างถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้ เพราะเป็นประเด็นญัตติเถื่อนหรือไม่ เพราะมี 10 รัฐมนตรีเป็น 11 รัฐมนตรี ที่น่าสนใจคือการอภิปรายของฝ่ายค้าน เพราะ “สุทิน คลังแสง” ประธานวิปฝ่ายค้านก็ประกาศแล้วว่า คนไม่มีชื่อก็จะถูกพาดพิงด้วย!!! เล่นเอาคอการเมืองก็ได้แต่ฉงนสงสัย ในเมื่อจะอภิปรายถึงแต่ไม่มีรายชื่อ ตกลงมันใช่อภิปรายไม่ไว้วางใจหรือแค่กระทู้ถาม กันแน่ ...๐
แล้วที่น่าตกใจเข้าไปอีกเมื่อ “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” ส.ส.ราชบุรี ค่ายประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลับมาเสนอแนะให้ฝ่ายค้านควรอภิปราย “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกฯ และ รมว.พลังงานมากกว่า “สุชาติ ชมกลิ่น” รมว.แรงงานเสียอีก ซ้ำยังบอกว่าจะขออภิปราย “สุพัฒนพงษ์” ด้วย เพราะมีข้อมูลวงในถึงขั้นน็อกคาสภากันเลยทีเดียว เล่นเอาสภาการแฟถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกไม่ต่างจากกรณี “พิเชษฐ สถิรชวาล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการอภิปราย “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.การคลังกันเลย ตกลงนี่เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือเป็นการสางแค้นเอาคืนกันหล่ะนี่ ไอ้เรืองก็ได้แต่เกาหัวยิกๆ สงสัยอย่างยิ่ง...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



