ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net เสียงเตือนจากสภา สั่นสะเทือนถึงทำเนียบฯ! "อยากฝากรัฐมนตรีไปยังนายกฯ ให้เตือนท่านนายกฯ ในที่ประชุม ครม. ว่า สภามีข้อบังคับการประชุมข้อที่ 151 ท่านควรมาตอบเอง ให้เกียรติสภาหน่อย ถ้าติดภารกิจควรต้องมอบหมายบุคคลที่มาตอบได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือรองนายกฯ ได้หรือไม่ หรือใครที่มีความรู้ที่จะมาตอบได้ ก็ขอฝากตรงนี้ด้วย ขอกำชับว่าการมอบหมายอย่าสั่งเหมือนทหาร คือสั่งไปแล้วถือว่าจบกันแบบนั้นไม่ใช่ แต่ขอให้สั่งเหมือนนักการเมือง ต้องสอบถามกันหน่อยว่าว่างหรือไม่ ตอบได้หรือไม่ แบบนี้ไม่เรียกว่ามอบหมาย เพราะมอบหมายแล้วไม่มาตอบถือว่าไม่มีความรับผิดชอบ" เข้าตำรา "พูดน้อย ต่อยหนัก" ต้องยอมรับว่าสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25 ในยุคที่มีนายชวน หลีกภัย ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ
ทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่น จนกลบบทบาทรองประธานสภาฯ ทั้งสองคน แต่ในช่วงกระทู้ถามสดพฤหัสฯ ที่ผ่านมาของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถามนายกฯ เกี่ยวกับแนวทางจัดการปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ พลังงาน และค่าครองชีพ ปรากฏชิ่งกันเป็นทอดๆ นายกฯ มอบ รมว.คลัง อาคมโยน รมช.คลัง สันติก็ไม่ว่าง สุดท้ายไม่มีใครมา "สุชาติ ตันเจริญ" รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เลยต้องโชว์บท "ตี๋กร่าง" อีกครั้ง ฉายาที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งให้ สมัยเป็นรองประธานสภาฯ ช่วงปี 2548 ซึ่งทำหน้าที่ชนิดที่ไม่ยอมใครง่ายๆ งานนี้ มท.3 "นิพนธ์ บุญญามณี" รัฐมนตรีคนเดียวที่นั่งอยู่ในห้องประชุม คงไม่ต้องรับงานเอ่ยปากอะไร เชื่อว่า "บิ๊กตู่" ได้ยินเต็มสองหูอยู่แล้วล่ะ
๐ นอกจากข้อบังคับสภา ข้อที่ 151 ที่ "บิ๊กตู่" ต้องหันมาให้ความสำคัญแล้ว ยังมีรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ที่ต้องเตรียมรับมือ หลัง "ประธานชวน" ไฟเขียวญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล บรรจุเป็นวาระด่วน ก่อนจะส่งญัตติไปให้ ครม. แต่ดูท่านายกฯ ไม่วิตกศึกซักฟอกครั้งสุดท้ายสักเท่าไหร่ แว่วมาสั่งทีมงานนายกฯ หาข้อมูล เก็งข้อสอบไว้แล้วว่าฝ่ายค้านจะไล่บี้ประเด็นไหนบ้าง เรียกว่ากรำศึกใหญ่มา 3 รอบ เชี่ยวชาญสนามไม่น้อย ขนาดอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ปี 2566 บิ๊กตู่ยังตอบได้ทุกเม็ดไม่แพ้นักการเมืองอาชีพทีเดียว ถึงอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะไม่มีองครักษ์พิทักษ์นายกฯ ขาประจำอย่าง "สิระ เจนจาคะ" กับ "ปารีณา ไกรคุปต์" ก็น่าจะเอาตัวรอดเองได้ ส่วนทีมปราบมาร 11 ส.ส. ที่นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล ตั้งขึ้น ลองสแกนชื่อแล้วก็อาจจะละอ่อนจริงดั่งที่ฝ่ายค้านเย้ยหยัน ที่จริงแล้ว พปชร. คงไม่ได้หวังผลอะไรมาก แค่อยากบอกให้รู้ว่าไม่ได้ลอยแพทั่นนายกฯ ก็เท่านั้นแหละ ขณะที่เจ้าตัวช่วงนี้ขยันเดินสายลงพื้นที่ สัปดาห์ก่อนไปอ้อนขอคะแนนคนอีสานมาแล้ว พุธหน้าขึ้นเหนือเหยียบถิ่นนายใหญ่เพื่อไทย ไปเยี่ยมชมงานด้านการส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อภาคธุรกิจอุตสาหกรรม ที่บริษัท ศูนย์ทำร่ม อ.สันกำแพง และโรงงานเกรียงไกรผลไม้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
๐ โล่งญัตติไม่เถื่อน ฝ่ายค้านคึกเดินหน้าต่อ ประกาศขอเปิดยุทธการเด็ดหัว (บิ๊กตู่) สอยนั่งร้าน (10 รมต.) รวม 5 วัน ถ้ารัฐบาลเซย์เยส ก็น่าจะบรรเลงได้ตั้งแต่วันที่ 18-22 ก.ค. ลงมติวันเสาร์ 23 ก.ค. ซักฟอกคราวนี้เท่ากับจะใช้เวลามากกว่า 3 ครั้งที่ผ่านมา ย้อนดูการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก 6 คน ระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ.2563 ลงมติ 28 ก.พ. ครั้งที่สอง 10 คน วันที่ 16-19 ก.พ.2564 ลงมติ 20 ก.พ. ครั้งที่สาม 6 คน วันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย.2564 ลงมติ 4 ก.ย. ทั้งสามครั้งใช้เวลาอภิปราย 4 วัน ถ้าจำกันได้ฟังแล้วเปลืองเวลาพอสมควร เพราะก่อนเปิดศึก แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทย มักตีปี๊บใหญ่โตให้ตื่นเต้น พอถึงวันจริง เหมือนหนังคนละม้วน มีแต่น้ำลายท่วมสภา ศึกทิ้งทวนเที่ยวนี้คงต้องโฟกัสไปที่ก้าวไกล ที่ยังเก็บงำข้อมูลเด็ดไว้ ไม่ยอมแชร์ให้เพื่อไทยรู้ ล่าสุด "ณัฐวุฒิ บัวประทุม" ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำอีกรอบว่าประเด็นซักฟอกพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์และแกนนำรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งก็หมายถึง 3 ป. นับถอยหลังไม่ถึงเดือน คอการเมืองไม่พลาดแน่ ขอแค่ให้เด็ดจริง อย่าหักหลังกันเอง กลายเป็นมวยล้มต้มคนดูซ้ำซาก.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



