ก็ไม่ได้สนใจจะดื่ม กิน พี้ หรือแม้กระทั่งปลูกกัญชาอะไรกับเขาหรอกนะ
แต่เมื่อได้ยินได้เห็นได้อ่านข่าวความคิดต่างและการแสดงความไม่เห็นด้วยของบรรดาผู้คนในสังคมไทยหลังจากมีการปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชีสารเสพติดต้องห้ามแล้ว ก็อดคิดคล้อยตามไม่ได้ว่า ..มันสุ่มเสี่ยงเกินไปไหม?!? กับการปล่อยเสรีกัญชา
เข้าใจอยู่นะ ว่าประโยชน์ของกัญชาในด้านการแพทย์ การเยียวยารักษาโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างนั้น มีอยู่หลายสถาน และในชีวิตจริงแล้ว ก็มีการใช้กัญชากับหลายสิ่งหลายอย่างในรอบตัวเรามานานแล้ว ทั้งๆ ที่มันเคยผิดกฎหมายก็ตาม การปลดปล่อยไม่ต้องลักลอบ ไม่ต้องยึดโยงกับกลุ่มธุรกิจสีเทา แล้วกระบวนการใช้ประโยชน์ก็จะเต็มประสิทธิภาพ แต่ทว่า..ปัญหาคือ มันไม่มีกฎหมายที่จะควบคุม หรือเข้าไปสอบทานได้เลยว่า กัญชานั้นหลุดเข้าไปอยู่ในมือเด็กและเยาวชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเปล่า
เหนืออื่นใด เด็กและเยาวชนหันไปใช้กัญชาเพื่อความบันเทิง จนหลุดโลกหรือเปล่า ..ปัญหานี้เป็นเรื่องล่อแหลมที่สุด ในเมื่อกฎหมายยื่นมือเข้าไปห้ามปราม หรือจัดการไม่ได้
มนุษย์ป้ามีประสบการณ์ตรง สัมผัสด้วยจมูกตัวเองมาแล้ว เมื่อเสาร์ที่ผ่านมานั่นแหละ กับงานปาร์ตี้ริมหาดแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเยาวชนวัยกำลังคึกคะนอง รักสนุก เต้นไปดื่มไป พร้อมกับกลิ่นกัญชาคละคลุ้งตลอดชายหาด
ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ปล่อยผีกัญชาเสรี อาจจะแย้งว่า งานปาร์ตี้ของวัยรุ่นในอดีตก็มีแบบนี้ ไม่เห็นเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์
มนุษย์ป้าก็ขอเท้าสะเอวเถียงเหมือนกันว่า มีประปราย และแอบๆ ไม่ไปอยู่ใกล้ก็ไม่ได้กลิ่นจ้า แต่นี่ชายหาดกว้างยาวขนาดไหน เอาปากกามาวง ปรากฏว่ามีกัญชาทุกวงแน่นอน แล้วปรากฏการณ์แบบนี้เรียกว่า ปกติธรรมดา..จริงหรือ?!?
เสรี.. ซื้อง่าย พี้กันครึกโครม.. ต่อไปจะถามหาอนาคตของชาติได้ในยามไหนกันจ๊ะ.
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
5นาทีหลังมื้อเย็นที่ช่วยให้ 'หลอดเลือดสะอาดขึ้น'
เพื่อนๆ มนุษย์ป้าส่งกันมายกใหญ่ ว่าอีกไม่กี่วันก็จะข้ามไปปีม้าแล้ว ขอให้ขยันหายใจเข้าไว้ พร้อมกับเคล็ดลับดูแลตัวเองแบบง่ายๆ ด้วยข้อความว่า
เรื่องจริงไม่อิงนิยาย
ศูนย์อพยพที่แน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากกว่าหนึ่งแสนชีวิต อันเกิดจากความขัดแย้งทางการทหารระหว่างไทย–กัมพูชา ..แน่นอนว่า ทำให้คนไทยทุกคนสะท้อนใจ แม้จะมีข่าวว่า ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันให้การดูแลกับคนที่ต้องทิ้งบ้านมาอย่างใกล้ชิดก็ตาม
ขอบ่น..ด้วยคน
ค่าฝุ่น PM 2.5 ช่วงนี้อาละวาดจนไม่รู้จะบ่นกับใครแล้ว นี่มนุษย์ป้าเขียนงานไปก็จามไป จมูกฟุดฟิดหงุดหงิดแดงเป็นโบโซ่เลยทีเดียว
วัน(แก้ไข)รัฐธรรมนูญ
10 ธันวาคมของทุกปี เรารับรู้กันว่าเป็น "วันรัฐธรรมนูญ" เพราะเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 คือวันที่ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม 2475-รัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของไทย ให้แก่ประชาชนชาวไทยโดยเป็นทางการ
ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!
ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่
ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย


