เรากำลังจะเปิดประเทศเกือบเต็มรูปแบบ กลับเข้าสู่ภาวะของความเป็นอยู่และการทำมาหากินเกือบเหมือนสภาวะปรกติก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สถานการณ์เช่นนี้คนไทยส่วนใหญ่ดีใจ และชื่นชมการทำงานของรัฐบาลและภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ร่วมมือกันอย่างดี ทำให้ประเทศไทยกำลังจะรอดพ้นจากวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
แต่ก็มีคนบางกลุ่มบางพวกที่ไม่รู้สึกยินดีกับสถานการณ์ดังกล่าวนี้ เพราะมันหมายถึงการจะด้อยค่านายกรัฐมนตรี และความพยายามจะไล่นายกรัฐมนตรีให้หลุดจากตำแหน่งนั้นจะเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
เพราะไม่มีประชาชนเป็นแนวร่วมที่มากพอ ตอนนี้เลยเกิดอาการดิ้นพราดๆ ด้วยความริษยา และการมองไม่เห็นความหวังที่จะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งตามที่ตั้งใจเอาไว้ ความปรารถนาที่จะให้ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในครั้งต่อไปที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 แบบ Landslide นั้นดูเหมือนจะเลือนราง จึงจำเป็นต้องออกมาเห่าด้อยค่ารัฐบาลแบบไม่ลืมหูลืมตา ทำเป็นมองไม่เห็นผลงานของรัฐบาล ทั้งหัวหน้าและลูกน้องเห่าเสียงดังกว่า 8 ปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศแบบไม่มีผลงาน ทำประเทศชาติล้าหลัง ไร้ความเจริญ และไม่สามารถเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจทั่วโลกได้ เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีความรู้ และไม่ได้เตรียมการอะไรไว้เลย
อาการดิ้นพราดแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังเกิดอาการกลัวว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่ตั้งใจจะให้เกิดขึ้นหลังจากที่ชนะการเลือกตั้งแบบ Landslide คงจะไม่เกิดขึ้นแล้ว เพราะว่าเมื่อมองความจริงเชิงประจักษ์ สถานการณ์ของประเทศไทยในความจริงเชิงประจักษ์นั้น แตกต่างจากวาทกรรมที่เห่าออกมาอย่างสิ้นเชิง เพราะตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการพัฒนาเจริญก้าวหน้าหลายๆ เรื่อง มีทั้งการแก้ปัญหาที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ทำเอาไว้ และมีโครงการต่างๆ ที่เป็นการพัฒนาประเทศที่ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
แม้ว่าเรายังมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่อยู่ในสภาพที่ยากลำบาก รัฐบาลก็พยายามที่จะแก้ไขด้วยหลักการที่ว่า “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ดังนั้นข้อกล่าวหาที่ว่า 8 ปีไม่มีอะไรนั้น เป็นข้อความที่เป็นเท็จ ไม่รู้ว่าเกิดจากการที่คนพูดไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง หรือจริงๆ แล้วเขารู้ความจริงที่เกิดขึ้น แต่เขาก็จงใจบิดเบือนเพื่อที่จะด้อยค่าพลเอกประยุทธ์ เพราะการเห่าของเขาทุกครั้งจะต้องจบลงที่ว่าประเทศไทยย่ำแย่ (ตามสายตาของเขา) เกิดจากการที่ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเอาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่ง แล้วประเทศไทยจะดีขึ้น (ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย)
ประเทศไทยจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ดีแค่ไหน เราจึงได้รับคำชมจากองค์การอนามัยโลก เราดูแลคนที่เจ็บป่วยได้ดีแค่ไหน จึงมีจำนวนคนเสียชีวิตในระดับที่ต่ำกว่าอีกหลายประเทศ รัฐบาลจัดหาวัคซีนมาให้คนไทยได้ครบทุกยี่ห้อที่มี หามาได้เป็นจำนวนมากที่จะสามารถฉีดให้คนไทยได้เป็นจำนวนมากพอที่จะก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ จนเราสามารถผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่ทำให้เราเปิดธุรกิจได้เกือบเต็ม 100% และสามารถเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยภาพลักษณ์ของเมืองที่ปลอดภัยและเมืองที่มีเสน่ห์สำหรับการมาเยือน
แม้ว่าเรากำลังเผชิญกับเงินเฟ้อ สินค้าหลายอย่างมีราคาแพงขึ้น น้ำมันมีราคาแพงขึ้น แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ เพราะปรากฏการณ์ดังกล่าวนี้เป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่เมื่อมองดูตัวเลขเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลกแล้ว จะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าหลายประเทศ ขณะที่ของประเทศไทยเงินเฟ้ออยู่ในระดับ 4% หลายประเทศไทยทั่วโลกมีอัตราเงินเฟ้อเป็นเลขสองหลัก นั่นก็หมายความว่ามากกว่า 10%
นอกจากเราจะมีระดับเงินเฟ้อที่ต่ำแล้ว เรายังมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และนักวิเคราะห์การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บรรเทาเบาบางลงของประเทศต่างๆ เขาลงความเห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาด ทั้งนี้เพราะนโยบายการรับมือกับวิกฤตไวรัสโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการท่องเที่ยวนั้นมีประสิทธิผลเป็นที่พอใจ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากการเตรียมตัวที่ดี มีความพร้อม มีความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้จะมีการกู้เงินเพิ่ม ก็กู้มาเพื่อใช้ในการดูแลแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งทางด้านสาธารณสุขและการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าว รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการฟื้นฟูสู่สภาพปรกติให้เร็วที่สุด และเวลานี้การขับเคลื่อนต่างๆ ทั้งหลายที่เกิดขึ้น กำลังเกิดดอกออกผลเป็นที่น่าพอใจของประชาชนจำนวนมาก แม้จะยังมีผู้ที่ไม่พอใจอยู่อีกจำนวนหนึ่ง ทำให้ฝ่ายที่ต้องการขับไล่นายกรัฐมนตรีให้พ้นจากตำแหน่งเกิดอาการดิ้นพราดอย่างหนัก จนเกิดการเห่าวาทะต่างๆ ออกมาเหมือนคนเมาหมัดแห่งความพ่ายแพ้ ที่ถูกสุมให้ลุกโหมมากขึ้นด้วยไฟริษยา ความหวังที่จะชนะการเลือกตั้งแบบ Landslide ดูจะเลือนรางเต็มที เพราะเลือดกำลังไหลออกไปสู่พรรคที่เป็นแนวร่วมรัฐบาล จึงต้องออกมาไล่หนูตีงูเห่า
ประชาชนพอใจผลงานรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยโตวันโตคืน พรรคของตนเองยังปักธงในภาคใต้ไม่ได้ ฐานเสียงเปลี่ยนใจเพราะรู้เช่นเห็นชาติแล้วว่าที่ผ่านมานั้นมีความจริงใจกับประชาชนแค่ไหน และที่ออกมาเห่าอยู่ทุกวันนี้เป็นความหวังดีต่อประเทศชาติและประชาชน หรือเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เวลาพูดจาแนะนำอะไรจึงต้องจบด้วยการไล่นายกรัฐมนตรีออกไป แบบนี้มันคือความหวังที่จะเปลี่ยนขั้วอำนาจให้ฝ่ายของตนได้อำนาจใช่หรือไม่ ต้องการใช้อำนาจเพื่อแก้ไขปัญหาของตนเองใช่หรือไม่ เวลานี้ที่ความหวังเลือนรางไปแล้ว จึงเกิดอาการหนักอย่างที่เห็น เป็นทั้งกับเจ้าของคอกและคนในคอกถ้วนหน้าจริงๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร
นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง
'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!
คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน
'เห็นลิ้นไก่' แก้ กม.กลาโหม
ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง
ลัคนาธนูกับเค้าโครงชีวิตปี 2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการเปลี่ยนแปลงใหญ่สุขภาพอนามัย-หนี้สิน-ลูกน้องบริวาร และเกือบตลอดปีผู้หลักผู้ใหญ่อวยสถานะ-ยศ-เงินทองให้ แต่มีช่วงซ้อมรับทุกข์และการได้ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
ดร.เสรี ลั่นรังเกียจ วาทกรรมแซะสถาบัน
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า เกิดวาทกรรมใหม่ "ใบอนุญาตที่ 2"
เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร
ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง