ไทม์ไลน์แต่งตั้ง 'สีกากี'

เริ่มต้นเข้าสู่ฤดูแต่งตั้ง สีกากี อย่างเป็นทางการ เมื่อ บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน ลงนามประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.ขึ้นไป ถึงระดับ รอง ผบ.ตร. วาระประจำปี  2565 ลงวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกองทะเบียนพล (ทพ.) สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงประกาศไปเรียบร้อย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตามกฎ ตามระเบียบ  ตามขั้นตอนการแต่งตั้งที่จะต้องประกาศลำดับอาวุโสให้ข้าราชการตำรวจดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีลำดับอาวุโส หากเห็นว่าข้อมูลในการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้องสามารถยื่นเรื่องต่อ ตร. ผ่าน ทพ.พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาทบทวนได้ภายใน 7 วัน

 นับแต่วันประกาศลำดับอาวุโส จากนั้น ทพ.ก็จะประกาศลำดับอาวุโสอีกครั้ง เพื่อให้ข้าราชการตำรวจตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการแต่งตั้ง ซึ่งระดับ นายพล ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.)-ผู้บังคับการ (ผบก.) บอร์ดแต่ละกองบัญชาการต้องเสนอรายชื่อขึ้นมาที่ ตร.เพื่อให้นำเข้าบอร์ดกลั่นกรอง ก.ตร.พิจารณา เสนอชื่อเข้าไป ก.ตร. นำไปรวมกับระดับ รอง ผบ.ตร.-ผบช. ยศ พล.ต.อ. ที่ ผบ.ตร. จะต้องเสนอชื่อเข้าที่ประชุม ก.ตร. ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร.พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายตามลำดับ

เริ่มต้นเข้าสู่ฤดูแต่งตั้ง สีกากี อย่างเป็นทางการ เมื่อ บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข แม่ทัพใหญ่กรมปทุมวัน ลงนามประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.ขึ้นไป ถึงระดับ รอง ผบ.ตร. วาระประจำปี  2565 ลงวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยกองทะเบียนพล (ทพ.) สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ลงประกาศไปเรียบร้อย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกตามกฎ ตามระเบียบ  ตามขั้นตอนการแต่งตั้งที่จะต้องประกาศลำดับอาวุโสให้ข้าราชการตำรวจดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีลำดับอาวุโส หากเห็นว่าข้อมูลในการจัดลำดับอาวุโสไม่ถูกต้องสามารถยื่นเรื่องต่อ ตร. ผ่าน ทพ.พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาทบทวนได้ภายใน 7 วัน นับแต่วันประกาศลำดับอาวุโส จากนั้น ทพ.ก็จะประกาศลำดับอาวุโสอีกครั้ง เพื่อให้ข้าราชการตำรวจตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการแต่งตั้ง ซึ่งระดับ นายพล ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.)-ผู้บังคับการ (ผบก.) บอร์ดแต่ละกองบัญชาการต้องเสนอรายชื่อขึ้นมาที่ ตร.เพื่อให้นำเข้าบอร์ดกลั่นกรอง ก.ตร.พิจารณา เสนอชื่อเข้าไป ก.ตร. นำไปรวมกับระดับ รอง ผบ.ตร.-ผบช. ยศ พล.ต.อ. ที่ ผบ.ตร. จะต้องเสนอชื่อเข้าที่ประชุม ก.ตร. ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร.พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายตามลำดับ 

ตามไทม์ไลน์การแต่งตั้ง สีกากี ปีนี้ จะเริ่มต้นด้วยการคัดเลือก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. แทน  ผบ.ปั๊ด ที่เกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.65 ก่อนเป็นลำดับแรก ในช่วงเดือนสิงหาคม มีแคนดิเดตต้องลุ้นกัน 3  ราย คือ บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. นรต.38 เกษียณปี 2566, บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. นรต.40 เกษียณปี 2567 และ บิ๊กหิน-พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ  เกษียณปี 2566 จากนั้นเดือนปลายเดือนสิงหาคม หรือช้าสุดก็ต้นเดือนกันยายน จะเป็นคิวแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.ลงไปถึง ผบก. เพราะตามกฎ ก.ตร. ตําแหน่งระดับ รอง ผบ.ตร.ลงมาถึง ผบก. ต้องให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคมของทุกปี ตามมาด้วยเดือนพฤศจิกายนจะเป็นคิวของ รองผบก.ลงมาถึง สว. หรือที่เรียกว่าระดับ นายพัน ซึ่งถ้าจะช้าสุดก็น่าจะไม่เกินต้นเดือนธันวาคม ก่อนสุดท้ายจะเป็นคิวของ รอง สว.ลงมาถึงชั้นประทวน จะเสร็จสิ้นภายใน 31  มกราคม ตามกฎ ตามเกณฑ์ ก.ตร.ที่กำหนดไว้ หากไม่เกิดรายการ โรคเลื่อน เหมือนในอดีตที่ผ่านมา 

หากดูจากลำดับอาวุโสที่ประกาศออกมาในตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่อยู่ในตะกร้าขึ้น รอง ผบ.ตร. หรือ พล.ต.อ. ที่ปีนี้ว่างอยู่ 4 ตำแหน่ง ก็ต้องบอกลุ้นกันสนุก เพราะผู้ช่วย  ผบ.ตร.ที่มีคุณสมบัติครบ มีสิทธิ์ขึ้น รอง ผบ.ตร. มีทั้งหมด  10 ราย ขึ้นได้ 4 ราย จึงลุ้นกันสนุก เนื่องจาก 1 ใน 4 ต้องให้อาวุโส 33% ตามกฎ ก.ตร.อยู่แล้ว เลยแปะชื่อ บิ๊กป๋อ-พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร.ไปก่อน 1 ที่นั่ง  ส่วนอีก 3 ที่นั่งที่เหลือต้องสู้กันที่อาวุโส ความรู้ ความสามารถ และพลังภายใน ก็จะมี พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เกษียณปี 2568, พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร.เกษียณปี 2567, พล.ต.ท.สุรเชษฐ์  หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เกษียณปี 2574, พล.ต.ท.สมพงษ์  ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.เกษียณปี 2566, พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เกษียณปี 2569, พล.ต.ท.ประจวบ  วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.เกษียณปี 2568, พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ  พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เกษียณปี 2569, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง จตช.เกษียณปี 2568 และ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เกษียณปี 2567 

ส่วนระดับ ผบช.ที่อาวุโส 10 ลำดับแรก ก็มี 1.พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผบช.ศ., 2.พล.ต.ท.กรไชย  คล้ายคลึง ผบช.สอท., 3.พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ  แพทย์ใหญ่ รพ.ตร., 4.พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์  ผบช.สตม., 5.พล.ต.ท.มโนช ตันตระเธียร จตร., 6.พล.ต.ท.ทรงเกียรติ วาทะกุล จตร., 7.พล.ต.ท.ธนายุตม์  วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, 8.พล.ต.ท.สุรพงษ์ ชัยจันทร์  ผบช.กมค., 9.พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6  และ 10.พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ส่วนระดับรอง ผบช. มี 1.พล.ต.ต.วรัตม์ชัย ศรีรัตนวุฑฒิ รอง  จตร., 2.พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7, 3.พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9, 4.พล.ต.ต.โชคชัย เหลืองอ่อน รอง ผบช.ภ.1, 5.พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3, 6.พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์  รอง ผบช.ศ., 7.พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภ.3, 8.พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ รอง จตร., 9.พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ภ.7 และ 10.พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เป็นต้น 

นอกจากทำหน้าที่เป็นรองโฆษกกระทรวงกลาโหมแล้ว  ผู้พันเบิร์ด-พ.อ.วันชนะ สวัสดี ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานผู้บัญชาการทหารสูงสุด (พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์) ยังสวมหมวกอีกหนึ่งใบคือการทำหน้าที่ จิตอาสา 904 เป็นวิทยากรไปบรรยายเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ในหน่วยงาน องค์กรต่างๆ โดยนำแง่มุมที่สังคมไม่ค่อยรับรู้เรื่องพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9-10 และสถาบันฯ มาถ่ายทอดให้ได้รับรู้ ยิ่งช่วงหลังเรียกว่าเดินสายถี่ยิบ จนกลายเป็นภาพจำของ “ทหาร” ที่เป็น “ตักศิลา” ด้านนี้ แถมมีแฟนคลับปกป้องสถาบันติดตามกิจกรรมอยู่ตลอด จะเรียกว่าเป็น influencer "สายรักเจ้า" ก็ว่าได้ “ผู้พันเบิร์ด” เล่าว่าตอนนี้มวลชนที่รัก-ปกป้อง ยังคงทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ได้มีการสื่อสารกับสังคมมากนัก สิ่งที่ตนเองทำและบอกกล่าวกับสังคมผ่านสื่อ เพื่อให้คนเหล่านี้รับรู้ว่าไม่ได้ต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว ยังมีแนวร่วมในการเดินในเส้นทางสายเดียวกัน และกองทัพเองก็ยังคงทำหน้าที่ในการปกป้องสถาบันกษัตริย์อยู่ตลอด เรียกว่าในแกนนำเตรียมทหารรุ่น 34 นอกจากมี “ผู้พันเบิร์ด” ทำงานนี้อย่างแข็งขันแล้ว ยังมีลมใต้ปีกอย่าง บิ๊กก้อง-พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนร่วมรุ่นที่เดินหน้าทำงานอย่างแข็งขันเพื่อสถาบันฯ ไปด้วยกัน 

ขณะที่ บิ๊กต้อง-พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์  โฆษกกระทรวงกลาโหม เตรียมตัวหาทายาทรับ โพเดียม ต่อ เลยเสริมทีม ต้อง 2-พ.อ.จิตตนาถ ปุณโณทก ที่ข้ามห้วยจากสำนักงานเลขานุการกองทัพบก (สลก.ทบ.) มาร่วมทีม เปิดหน้าครั้งแรกแถลงผลการประชุมสภากลาโหมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาฝึกงานไปพลางๆ แต่ข่าวฮืฮฮาในวันประชุมสภากลาโหมคือ ไอเดียของ “บิ๊กต้อง” ที่อยากเปิดกระทรวงกลาโหมให้ผู้มีความเห็นต่าง และทุกภาคฝ่ายการเมืองได้เข้ามาพูดคุย ตอบข้อสงสัยทุกเรื่อง แม้จะยังไม่มีรูปแบบ-แนวทางที่ชัดเจน เพราะเป็นไอเดียส่วนตัว แต่ก็สอดรับกับบรรยากาศทางการเมืองหลัง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ขายภาพลักษณะไม่ทะเลาะกับใคร มุ่งไปที่การทำงาน ซึ่งสังคม “ซื้อ”  ไปเต็มๆ แต่หลัง “โยนหิน” เปิดพื้นที่พื้นคุยไปแล้ว วันรุ่งขึ้นเหล่าบรรดานักการเมือง นักกิจกรรมที่เข็ดกับยุค "ปรับทัศนคติ” ช่วง ศอฉ. ยังไม่สามารถมูฟออน จากอดีตอันแสนรันทดได้ จึงไม่ค่อยรับลูกไอเดียนี้เท่าไหร่ จึงต้องดูว่า “บิ๊กต้อง” จะเดินหน้าหรือถอยทัพ เพราะความตั้งใจเดิมคือการสร้างความเข้าใจในงานของกองทัพมากขึ้น ลดความขัดแย้ง ป้องกันความรุนแรง ไม่เกี่ยวกับ จุฬาฯ คอนเนกชัน ที่น้องชายจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ รั้วจามจุรี จนได้รับอิทธิพลจากผู้ว่าฯ กทม.คนนี้ เพราะเป็นไอเดียของตนเองที่คิดเรื่องนี้มานานแล้ว ด้วยความที่ว่า “ความขัดแย้งทุกระดับจะจบได้ด้วยการพูดคุย” 

ตั้งข้อสังเกตกันในโลกสังคมออนไลน์ หลังเพจกองบิน 4 เผยแพร่ภารกิจของ บิ๊กป้อม-พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางไปสำรวจกองบิน 4  เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี น.อ.เนาวมรัตน์ ประพัฒน์ทอง ผู้บังคับการกองบิน 4 นำชม ในโพสต์ระบุว่า  “บิ๊กป้อม” ในฐานะคณะกรรมการบริหารการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี เดินทางไปเพื่อหาข้อมูลเตรียมความพร้อมรองรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีในอนาคตต่อไป ที่ห้องประชุม ฝูงบิน 403 กองบิน 4 อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ส่งผลเหล่าบรรดาผู้ติดตามข่าวสารเรื่องเครื่องบินรบนำไปแชร์ จนมีคอมเมนต์ และวิเคราะห์กันว่า กองบิน 4 Land Of The King Cobra อาจจะเป็นบ้านใหม่ที่เตรียมไว้สำหรับ F-35 ที่กองทัพอากาศกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาเข้ามาประจำการหรือไม่ จากเดิมที่คาดกันว่าจะใช้กองบิน 1 โคราช ถิ่นเก่าของ บิ๊กป้อง-พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศคนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนกันยายนนี้ 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ กำชับตำรวจก้าวข้าม 'ต่อ-โจ๊ก' ลั่นไม่ขอยุ่งแล้ว ให้เป็นหน้าที่คกก.ตรวจสอบ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 2/2567 ว่า ในที่ประชุมได้กำชับเรื่องความขัดแย้งระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

'บิ๊กต่าย' ไม่รู้ข้อเท็จจริง 'ทนายตั้ม' แฉปมส่วยเว็บพนัน แต่ต้องรับผิดชอบคำพูด

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวว่า ไม่ได้ให้ผู้ใต้บังคับการบัญชาที่เป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับการโทรศัพท์ไปขอข้อมูลกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ก่อนที่ทนายตั้ม

คณะสอบ 2 นายพล เตรียมเรียก 'โจ๊ก-ต่อ' เข้าให้ข้อมูล ยันไม่มีเกี้ยเซียะ

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฏหมาย กรณี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ตามคำสั่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดัง