โลกกำลังจะเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า “เศรษฐกิจเรียลไทม์” หรือที่นิตยสาร The Economist เรียกว่า Instant (Real-time) Economics
นั่นแปลว่าข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำและมีคุณภาพสามารถเกิดขึ้นได้โดยฉับพลัน
นำไปสู่การนำมาปรับใช้เพื่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจที่กำหนดวิถีชีวิตของผู้คนอย่างชนิดที่เราไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน
เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้วก็เริ่มจะน่าสงสัยว่ามีใครเข้าใจจริงๆ หรือเปล่าว่ากำลังเกิดอะไรกับเศรษฐกิจโลกวันนี้
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนที่ผมสนทนาด้วยยอมรับว่าตำราเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนกันมาหลายร้อยปีนั้นกำลังจะถูกท้าทายอย่างหนัก
เพราะไม่มีใครเข้าใจจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในเศรษฐกิจโลก
การระบาดใหญ่ของโควิดทำให้ทำให้วิธีคิดเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ดั้งเดิมไม่สามารถจะตอบคำถามที่เกิดขึ้นวันนี้ได้
ก่อนหน้านี้จะมีผู้เชี่ยวชาญสักกี่คนที่คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบจะพุ่งเหนือบาร์เรลละ 80 เหรียญสหรัฐฯ
ไม่ต้องพูดถึงปัญหาที่อยู่ดีๆ ก็เกิดปัญหาคอนเทนเนอร์ที่กองพะเนินอยู่นอกท่าเรือแคลิฟอร์เนียและจีน
จนเกิดกรณีการยื้อแย่งตู้คอนเทนเนอร์ทั่วโลก ทำให้ค่าระวางส่งสินค้าทางทะเลพุ่งพรวดพราดจนกระทบการส่งออกของประเทศส่วนใหญ่ในโลก
ตอนที่โควิดเริ่มคลี่คลายช่วงหนึ่งในปี 2020 นักพยากรณ์ประเมินว่าว่างงานจะสูงไม่มากนัก เพราะคิดว่ามันจะจบลงในเร็ววันนี้
แต่เอาเข้าจริงๆ จำนวนคนตกงานสูงว่าที่ผู้เชี่ยวชาญประมาณเอาไว้มาก
อีกทั้งถึงวันนี้ก็ไม่มีใครแน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อและค่าจ้างจะเพิ่มขึ้นหรือไม่
ต้องยอมรับว่าประเด็นสำคัญที่ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ต้องคลำอยู่ในความมืดในเรื่องสมการและทฤษฎีนั้น เป็นเพราะมีข้อมูลน้อยเกินไปที่จะนำเสนอนโยบายที่จะแก้ปัญหาได้
แต่วันนี้โลกแห่งความสับสนและงุนงงอาจจะเริ่มสลายหายไป เพราะโลกกำลังใกล้จะเกิดการ “ปฏิวัติ”
ก็ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “เศรษฐศาสตร์แบบเรียลไทม์” นี่แหละ
มันเป็นอย่างไรหรือ?
สิ่งที่กำลังจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงคือ การมีข้อมูลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา
ด้วยคุณภาพและความทันเวลาของข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี่แหละที่ทำให้บริษัทเทคฯ ยักษ์ๆ ที่นำเสนอบริการผ่านออนไลน์ เช่น Amazon ถึง Netflix
ที่สามารถใช้ข้อมูลปัจจุบันทันด่วนเพื่อตรวจสอบการส่งมอบสินค้าที่สั่งผ่านมือถือว่าไปถึงไหน ณ นาทีนั้นๆ และจะไปถึงผู้รับในสภาพเช่นไร
หรือ Netflix สามารถรู้ได้ว่ามีคนติดละครซีรีส์ชื่อดังอย่าง Squid Game เท่าไหร่และเป็นใครอย่างคล่องแคล่วว่องไว
อีกทั้งการระบาดของโควิดทำให้รัฐบาลและธนาคารกลางต่างๆ มาทดลองใช้ “ข้อมูล” กะทันหันมาตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน
เช่น การใช้ข้อมูลตรวจสอบการจองร้านอาหารไปจนถึงการติดตามการชำระเงินแบบดิจิทัล
ด้วยอุปกรณ์ดิจิทัล เซ็นเซอร์ และการชำระเงินที่รวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมใหม่นี้กระจายตัวอย่างแพร่หลาย
นำไปสู่การเพิ่มความสามารถในการเกาะติดสถิติเศรษฐกิจอย่างถูกต้องแม่นยำและรวดเร็วขึ้น
ด้านบวกก็คือมันทำให้รัฐบาลตัดสินใจในหลายเรื่องใกล้เคียงความจริงมากขึ้น
แต่ด้านลบก็คือการเปิดทางให้ผู้มีอำนาจคิดเข้ามาแทรกแซงพฤติกรรมของประชาชนมากขึ้นเช่นกัน
ที่เห็นได้ชัดเจนคือการระบาดใหญ่ของโควิดครั้งนี้ได้กลายเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างปฏิเสธไม่ได้
แนวโน้มเช่นนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเทคโนโลยีแทรกซึมเข้าสู่เศรษฐกิจ เพราะการทำธุรกรรมจะผันตัวเองไปสู่ออนไลน์มากขึ้นแม้จะพ้นช่วงโควิดแล้วก็ตาม
แม้จะมีความเสี่ยงที่จะถูกมิจฉาชีพเจาะล้วงข้อมูลไปอย่างที่เราเห็นในเร็วๆ นี้ก็ตาม
แต่ผู้รู้ยอมรับว่าการได้ข้อมูลที่ทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงของการดำเนินนโยบายที่ล่าช้า ไม่ทันกับปัญหาที่เกิดขึ้น
เช่น ที่ผ่านมาธนาคารกลางของประเทศอาจจะต้องใช้เวลา 18 เดือน (หรือมากกว่า) ในการที่จะเห็นผลหลังการตัดสินใจปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย
แต่ที่ฮ่องกงมีการทดลองใช้เงินสดใน “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ที่จะหมดอายุหากไม่ได้ใช้อย่างรวดเร็ว
เงินสกุลดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง หรือ Central Bank Digital Currencies (CBDCs) อาจทำให้เกิดข้อมูลที่ทำให้การตัดสินใจปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าด้วยซ้ำ
ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าข้อมูลที่ดีในช่วงวิกฤตอาจทำให้การสนับสนุนกำหนดเป้าหมายได้แม่นยำกว่าการรอข้อมูลเป็นไตรมาสเพื่อใช้ในการพิจารณาปรับเปลี่ยนนโยบาย
ปรากฏการณ์ “เศรษฐศาสตร์เรียลไทม์” กำลังเกิดขึ้นจริงๆ เพราะตอบโจทย์ของสังคมได้เร็วกว่า แม่นยำกว่า ได้ผลมากกว่า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


