วันที่ 2 สิงหาคม แนนซี เพโลซี (Nancy Pelosi) ประธานสภาผู้แทนราษฎรและคณะเยือนไต้หวัน เข้าพบประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน (Tsai Ing-wen) เพโลซีกล่าว รัฐบาลสหรัฐยึดมั่นข้อตกลงที่ทำกับไต้หวัน อันหมายถึงสนธิสัญญาความมั่นคง สหรัฐจะปกป้องไต้หวัน เป็นจุดยืนดั้งเดิมของรัฐบาลสหรัฐ ชื่นชมความเป็นประชาธิปไตยของไต้หวัน ผู้รักเสรีภาพ
การตอบโต้จากจีน:
ทุกครั้งที่บุคคลระดับสูงของสหรัฐเยือนไต้หวันจะถูกรัฐบาลจีนตีความว่าเป็นการรับรองไต้หวัน แม้รัฐบาลสหรัฐยืนยันยึดมั่นนโยบายจีนเดียว (One-China principle)

เครดิต: https://www.globaltimes.cn/page/202208/1272075.shtml
เพราะเมื่อไปถึงมักจะมีคำพูดว่าส่งเสริมประชาธิปไตยไต้หวันซึ่งขัดแย้งกับหลักจีนเดียว ในเมื่อมีจีนเดียวก็ต้องให้รัฐบาลจีนเป็นผู้ตัดสินว่าไต้หวันจะปกครองอย่างไร แบบ 1 ประเทศ 2 ระบบหรือไม่ (one country, two systems) แต่ฝ่ายสหรัฐมักทำเป็นไม่เข้าใจเรื่องทำนองนี้ ไม่ยอมรับว่าตนกำลังแทรกแซงกิจการภายในของจีน
การเยือนของเพโลซีครั้งนี้ถูกตีความว่าเป็นคณะบุคคลระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี รัฐบาลจีนจึงตอบโต้ด้วยมาตรการที่แรงสมน้ำสมเนื้อและสอดคล้องบริบท ดังนี้
ประการแรก เตือนล่วงหน้า
ในช่วงที่ยังสงสัยว่าเพโลซีจะเยือนไต้หวันหรือไม่ กองทัพจีนประกาศล่วงหน้าว่าจะไม่อยู่เฉยแน่นอนหากเยือนไต้หวัน พฤติกรรมดังกล่าวคือการแทรกแซงกิจการภายใน บ่อนทำลายอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน กองทัพจีนจะตอบโต้ หวังว่านักการเมืองอเมริกันจะตระหนักถึงอันตรายที่เกิดขึ้น
และส่งสัญญาณเตือนด้วยการซ้อมรบหลายพื้นที่ถึง 5 วัน (27-31 กรกฎาคม) มีการใช้กระสุนจริงด้วย
คำเตือนดังกล่าวไม่ได้ผล
ประการที่ 2 คว่ำบาตรไต้หวัน
ความตอนหนึ่งเพโลซีกล่าวขณะเยือนไต้หวันว่า สหรัฐต้องการกระชับความร่วมมืออุตสาหกรรมชิปกับไต้หวันเพื่อแข่งกับจีน รัฐบาลจีนจึงตอบโต้ด้วยการประกาศห้ามส่งทรายขายไต้หวัน (เป็นทรายชนิดที่เหมาะสำหรับทำชิป)
นอกจากไม่ขายทรายแล้ว ในเบื้องต้นจีนประกาศระงับนำเข้าสินค้าไต้หวันหลายรายการ เช่น พืชตระกูลส้ม (รวมส้มโอ) ปลาดาบเงินใหญ่ ปลาทูแขก (horse mackerel)
ประการที่ 3 ซ้อมรบด้วยกระสุนจริง
ไม่นานหลังเพโลซีเหยียบแผ่นดินไต้หวัน กองทัพจีนประกาศซ้อมรบร่วม 4 วันใน 6 เขตพื้นที่รอบไต้หวัน บางส่วนใช้กระสุนจริง ทดสอบยิงขีปนาวุธหลายชนิด รวมทั้งขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก DF-17 ขีปนาวุธบางลูกบินข้ามเกาะไต้หวันสร้างความตื่นตะลึงแก่คนจำนวนมาก เป็นการซ้อมรบที่มุ่งกระทำต่อไต้หวันครั้งใหญ่สุด ปรากฏต่อสื่อทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญบางคนตีความว่าเป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นว่ากองทัพจีนจะทำอย่างไรหากไต้หวันประกาศอิสรภาพ บ้างชี้ว่าจีนกำลังแสดงแสนยานุภาพครั้งใหญ่
ด้านไต้หวันชี้จีนซ้อมรบละเมิดอธิปไตยของตน Sun Li-fang รมต.กลาโหมไต้หวันประกาศจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องอธิปไตย ไม่ต้องการสงครามแต่พร้อมอยู่เสมอ คำถามคือกองทัพไต้หวันมีพลังที่จะขวางหรือไม่ กองทัพอเมริกันที่แห่กันมาแถวนี้จะเข้าขวางหรือไม่ นับจากนี้เป็นต้นไปจีนอาจซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเป็นระยะ อันเป็นผลสืบเนื่องจากเพโลซีเยือนไต้หวัน
การซ้อมรบไม่ทำให้ใครเสียชีวิตแต่สังคมไต้หวันอยู่ภายใต้แรงกดดัน ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจต้องคิดทบทวนอีกครั้งหากคิดจะไปเที่ยวไต้หวัน ทำไมต้องเข้าพื้นที่เสี่ยงอันตราย มีที่เที่ยวอื่นให้เลือกอีกมาก ถ้าเป็นนักลงทุนยิ่งต้องคิดหนักหากจะเลือกลงทุนที่นี่
ด้านแอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รมต.ต่างประเทศสหรัฐหวังว่ารัฐบาลจีนจะไม่สร้างสถานการณ์วิกฤตหรือหาข้ออ้างใช้ความรุนแรงทางทหาร
ประเด็นที่ต้องติดตาม
ประการแรก แผนยั่วยุจีน
ทุกครั้งที่คนอเมริกันระดับสูงเยือนไต้หวันมักจะมีถ้อยคำยั่วยุจีน ครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้ถ้อยคำของเพโลซีไม่มีอะไรใหม่ เป็นคำเดิมๆ จุดยืนเดิม แต่เนื่องจากเพโลซีเป็นถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลจีนมองว่าเป็นการยั่วยุอย่างแรง
และต้องตีความว่ารัฐบาลสหรัฐบรรลุแผนยั่วยุอีกครั้ง สามารถขยายความตึงเครียดให้มากขึ้น กระทั่งจีนซ้อมรบรอบไต้หวัน คว่ำบาตรสินค้าไต้หวันหลายรายการที่ส่งผลกระทบต่อจีนด้วย รัฐบาลจีนรู้ดีกว่าการทำเช่นนี้เท่ากับเล่นในเกมของสหรัฐแต่จำต้องตอบโต้ตามขั้นตอน
เทคนิคที่รัฐบาลสหรัฐใช้คือประกาศว่ายึดถือนโยบายจีนเดียว ไม่สนับสนุนให้ไต้หวันประกาศเป็นรัฐอธิปไตย ในขณะเดียวกัน สนับสนุนให้ไต้หวันมีกองทัพที่เข้มแข็ง เต็มไปด้วยอาวุธ MADE IN USA กล่าวย้ำส่งเสริมประชาธิปไตย ชี้เป็นนัยว่าคนไต้หวันมีอิสระตัดสินใจเลือกระบอบการปกครองของตนเอง
ประการที่ 2 ไต้หวันจะประกาศเอกราชหรือไม่
ขั้นสุดท้ายของเกมนี้คือไต้หวันประกาศเอกราชซึ่งมีความเป็นไปได้ ในระยะหลังคนไต้หวันที่เห็นด้วยกับการเป็นอิสระจากจีนเพิ่มมากขึ้น สาเหตุหลักเกิดจากนโยบายของนักการเมืองไต้หวันบางกลุ่มที่พยายามสร้างกระแสว่าจีนจะรวมไต้หวันด้วยกำลัง จีนกับไต้หวันเข้ากันไม่ได้ รวมถึงการสร้างกระแสของรัฐบาลสหรัฐที่ชี้ว่าจีนจะใช้กำลังบุกยึดไต้หวันในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ปีที่แล้ว พลเรือเอกฟิล เดวิดสัน (Phil Davidson) ผู้บัญชาการ IndoPacific Command กล่าวต่อวุฒิสภาเป็นกังวลว่าจีนจะโจมตีไต้หวันภายในปี 2027
ทั้งหมดคือความพยายามชักนำให้คิดว่ากองทัพจีนใกล้จะบุกไต้หวัน เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คนไต้หวันจะสูญสิ้นเสรีภาพ ทุกข์ยากแสนสาหัส
ควรเข้าใจว่ารัฐบาลจีนย้ำเสมอว่าจีนจะบุกไต้หวันด้วยเหตุผลเดียวคือไต้หวันประกาศเอกราช ดังนั้นตราบใดที่ไต้หวันไม่ทำเช่นนั้น จีนกับไต้หวันก็ทำมาค้าขายกันต่อไป ทุกวันนี้คนไต้หวันนับหมื่นทำธุรกิจในจีนเช่นเดียวกับที่คนจีนทำธุรกิจในไต้หวัน ยอดการค้าระหว่างไต้หวันกับจีนสูงกว่าไต้หวันกับสหรัฐ ไม่มีเหตุผลที่จีนต้องบุกไต้หวันซึ่งจะทำลายบรรยากาศการค้าการลงทุน รัฐบาลจีนต้องการให้คนจีนอยู่ดีกินดี มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจไม่ใช่สงคราม รัฐบาลจีนประกาศชัดต้องการเป็นมหาอำนาจอีกแบบที่ต่างออกไป ข้อหลังนี้เป็นประโยชน์สำคัญที่จีนต้องการ ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐพยายามทำลายภาพลักษณ์ดังกล่าว
ผลของการประกาศเอกราชคือจีนต้องส่งกองทัพบุกไต้หวันตามจุดยืนของตน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงเท่ากับบรรลุเป้าหมายใหญ่ที่รัฐบาลสหรัฐต้องการ คำถามอยู่ที่ว่านักการเมืองไต้หวันจะยินยอมปล่อยให้ไต้หวันเป็นเหยื่อที่ถูกทำลายหรือไม่ นี่คือประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม โดยก่อนจะถึงวันนั้น รัฐบาลสหรัฐจะฉีกข้อตกลงนโยบายจีนเดียวเป็นสัญญาณสำคัญ
เป็นอีกกรณีตัวอย่างที่พวกนักการเมืองมีผลต่อความเป็นไปของบ้านเมืองอย่างชัดเจน ตัดสินใจถูกหรือผิดเพียงครั้งเดียวส่งผลต่ออนาคตที่หวนกลับไม่ได้อีก
การวิเคราะห์ข้างต้นอิงฉากทัศน์แบบเลวร้าย ความจริงแล้วบรรดาผู้เชี่ยวชาญกับนักการเมืองไต้หวันเข้าใจสถานการณ์ดี มีมุมมองรอบด้าน ระวังที่จะไม่เป็นเหยื่อของการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ อีกทั้งมีกลุ่มการเมืองที่ยึดนโยบายเป็นมิตรกับจีน แต่การ “ปั่น” คนไต้หวันให้เป็นศัตรูกับจีนนั้นมีจริง เป็นภัยคุกคามที่บั่นทอนความสงบสุขการอยู่ดีกินดีในยามนี้และในอนาคต สุดท้ายจึงอยู่ที่คนไต้หวันจะรู้ทันนักการเมืองหรือไม่
เพโลซีและคณะเยือนไต้หวันเพียง 2 วัน 1 คืน แต่ได้ยกระดับความขัดแย้งจีน-ไต้หวันที่จะดำเนินต่อไปอีกนาน แน่นอนว่าโลกจะรับรู้ผลกระทบไม่มากก็น้อย เรื่องราวของไต้หวันยังน่าติดตามต่อไป.ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สงครามการค้าสหรัฐกับจีนใครอึดกว่าชนะ
มหาอำนาจตักตวงผลประโยชน์จากประเทศอื่นๆ ท่ามกลางความขัดแย้งของมหาอำนาจด้วยกัน พวกเขาสร้างความขัดแย้งเพื่อได้ประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อเสียประโยชน์
4+4ประเทศสำคัญของศักยภาพทหารโลก
ในภาพระดับโลกมี 8 ประเทศสำคัญมากสุด และสามารถแยกเป็น 2 ระดับ สหรัฐอเมริกามีกองทัพเข้มแข็งที่สุด และใช้ประโยชน์จากกองทัพได้มากที่สุด
อูโก ชาเวซ ผู้ต้านการกดทับของชนชั้นนำกับมหาอำนาจ
ลัทธิโบลิเวียเรียนชี้ว่า ต้นเหตุความยากจนมาจากการกดทับของชนชั้นนำที่ร่วมมือกับมหาอำนาจ จึงต้องการปลดปล่อยประชาชนจากการกดขี่ของ 2 อำนาจดังกล่าว
การข่มขู่และโจมตีจริงของทรัมป์ 2.0
การข่มขู่และลงมือจริงของทรัมป์ 2.0 เป็นหลักฐานชี้ว่ารัฐบาลทรัมป์ทำอย่างไรตามหลัก “America First”
‘No Kings’ต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (2)
ฝ่ายต่อต้านเห็นว่าทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขต แต่ในขณะเดียวกันทรัมป์ได้รับการสนับสนุนทั้งจาก สส. สว.รีพับลิกันและฐานเสียงที่เข้มแข็ง
‘No Kings’ต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (1)
สหรัฐอเมริกามาจากการต่อต้านระบอบกษัตริย์ บัดนี้ทรัมป์ใช้อำนาจเยี่ยงราชา ชาวอเมริกันจึงต่อต้าน ไม่อยากให้ประเทศกลับสู่ยุคที่อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ตัวคนคนเดียว



