ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net Line : @THAIPOST ปิดดีลฉลุย! สายข่าวแจ้งว่า "มาดามเดียร์" มาอยู่พรรคพระแม่ธรณีฯ ชัวร์ ตามที่ พนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ชิงโพสต์ต้อนรับไปล่วงหน้า สอดรับกับก่อนหน้านี้ที่ องอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรค แย้มไว้ว่าจะเปิดตัวบิ๊กเนมที่จะมาทำงานกับพรรคเร็วๆ นี้ "มาดามเดียร์" จะลง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อในลำดับที่คาดว่าจะได้ แว่วมาว่าหัวหน้ากับเลขาฯ พรรคเคาะแล้วว่าอยู่ในลำดับ 10 นิดๆ จากที่เก็งกันไว้ว่าเลือกตั้งครั้งหน้าน่าจะได้ประมาณ 15 คน โดยคำนวณเทียบเคียงกับคะแนนที่ได้จากการเลือกตั้งปี 62 ประมาณเกือบ 4 ล้านคน จากผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งกว่า 38 ล้านคน ซึ่งคราวก่อนได้ 20 คน จากทั้งหมด 150 คน แต่ครั้งนี้จำนวน ส.ส.ลดลงเหลือ 100 ภายใต้ระบบเลือกตั้งเปลี่ยนเป็นบัตร 2 ใบ
และใช้สูตรหาร 100 ปชป.ยื่นเงื่อนไขขนาดนี้ แลกกับการดึงตัวมาดามเดียร์มาช่วยพื้นที่ กทม. ดึงฐานเสียงคนรุ่นใหม่ พร้อมลุยงานด้านพีอาร์ ซึ่งรู้กันดีว่ามีช่องสื่อในมืออยู่แล้ว ในส่วนมาดามเดียร์เองที่ตัดสินใจสวมเสื้อประชาธิปัตย์ มองว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ถึงแม้จะสนิทสนมกับสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 2 กุมารก็ตาม แต่ "สร้างอนาคตไทย" ยังคาดเดาอนาคตพรรคได้ยาก อย่าลืมว่ายังมีพรรคฝ่ายขวาผุดขึ้นใหม่อีกหลายพรรค อย่าง รวมไทยสร้างชาติ หรือเทิดไท ชิงคะแนนเสียงกันเองแน่นอน แต่ที่ต้องจับตาดูกันต่อไปคือ "จุรินทร์" จะจัดบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งครั้งหน้ายังไงไม่ให้เกิดศึกสายเลือดจนพรรคแตกอีกรอบ เอาแค่หัวหน้า เลขาฯ รองหัวหน้า ก็เกิน 10 ชื่อแรกแล้ว ยังไม่รวมถึงอดีตหัวหน้าพรรค 3 คน ที่น่าจะได้อยู่ในลำดับต้นๆ
๐ อำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้ว "ธนกร วังบุญคงชนะ" ยอมทิ้งเก้าอี้โฆษกรัฐบาล ไปสานฝันทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร กอดร่ำลานายกฯ ทิ้งท้ายด้วยว่าจะทำหน้าที่ช่วยงานต่อไป จนกว่านายกฯจะออกจากการเมือง ก่อนที่ในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 204/2565 แต่งตั้งให้ "อนุชา บูรพชัยศรี" รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อีกหน้าที่หนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยระบุว่าเพื่อให้การประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อเนื่อง เหมาะสม และที่ประสิทธิภาพ สรุป "บิ๊กตู่" เลือกอนุชาคัมแบกทำหน้าที่นี้อีกครั้ง ควบกับงานรองเลขาฯ จากช่วงเช้าที่ชิงกัน 4 ชื่อ คือ อนุชา, สกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม., ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต อ.นิด้า ที่ปรึกษา ศบค. ด้านสื่อสาร และ เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ สุดท้ายอนุชาเข้าวิน เพราะจะได้สอดรับการประชุมเอเปกในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งอนุชามีความเชี่ยวชาญด้านต่างประเทศอยู่แล้ว เอื้อกับการสื่อสารกับสื่อมวลชนต่างประเทศและไทย ส่วน "อ้น" ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ ที่มีชื่อลุ้นตำแหน่งนี้เหมือนกัน ในแง่ความอาวุโสอาจยังไม่ถึง แต่ผลงานการตอบโต้ทางการเมืองเข้าตา "บิ๊กตู่" จะตั้งมาเป็นรองโฆษกรัฐบาลเพิ่มอีก 1 คน คาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมครม.อังคารที่ 23 ส.ค.นี้ ต่อไปทีมโฆษกก็จะกลับมาเป็นสาวสาวสาวอีกครั้ง บวกกับ 1 หนุ่ม
๐ คดีคำร้องตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขยับเข้าใกล้ส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลวินิจฉัยให้สะเด็ดน้ำ สิ้นกระแสความข้อสงสัย ที่ถกเถียงกันอย่างดุเดือดเข้มข้นในแวดวงการเมืองและกฎหมายเวลานี้ว่า สุดท้าย "บิ๊กตู่" จะสามารถเป็นนายกฯ หลัง 24 สิงหาคมที่จะถึงนี้ได้หรือไม่ ขณะเดียวกันพบว่า "ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์" 1 ใน 9 ตุลาการศาล รธน. ก็เตรียมโบกมือลาหลังทำหน้าที่มาจะครบ 9 ปี ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ จนทำให้มีการประเมินและคาดการณ์กันว่า คำร้องคดีบิ๊กตู่น่าจะจบเร็วหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง แม้ในความเป็นจริงทางข้อกฎหมายพบว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ในมาตรา 17 บัญญัติไว้ว่า "ตุลาการมีวาระการดํารงตําแหน่ง 7 ปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดํารงตําแหน่งได้เพียงวาระเดียว และในกรณีที่ตุลาการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ ให้ตุลาการที่พ้นจากตําแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าตุลาการที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่" ซึ่งหมายความว่านายทวีเกียรติจะยังคงทำหน้าที่ตุลาการศาล รธน.ได้ต่อไปหลัง 21 ต.ค. จนกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทน โดยพบว่าเวลานี้ คณะกรรมการสรรหาฯ ได้เปิดรับสมัครแล้วระหว่างวันที่ 8-22 ส.ค.65 และมีผู้สมัครแล้ว 1 คน คือ อุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ..กระนั้นก็มีการมองกันว่า คำร้องคดีบิ๊กตู่เป็นแค่เรื่องข้อกฎหมาย อีกทั้งตุลาการทั้ง 9 คนก็ต้องการสะสางเรื่องนี้ให้จบเร็ว ก่อนที่นายทวีเกียรติจะอำลาตำแหน่ง...
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



