รู้รักสามัคคีเพื่อเรื่องดีๆของประเทศไทย

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีไปเป็นประธานในการแจกรางวัลการประกวดร้องเพลงเพื่อชาติและราชบัลลังก์ ในงานดังกล่าวมีเรื่องที่น่าประทับใจเกิดขึ้นหลายอย่าง จนสามารถพูดได้ว่า “รู้ไว้...สุขใจจริงหนอ” เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเป็นเรื่องที่ดีๆ ทั้งนั้น เริ่มต้นตั้งแต่การที่มีหน่วยงานริเริ่มที่จัดให้มีงานดังกล่าวนี้ และเมื่อมีการจัดงานดังกล่าวนี้แล้ว มีเยาวชนเข้าประกวดจำนวนมากมาย ทำให้เห็นว่าเยาวชนที่รักชาติ รักแผ่นดิน จงรักภักดีต่อสถาบันหลักของประเทศ ทั้งชาติ ศาสน์ และกษัตริย์นั้นยังคงมีอีกมาก ในการเป็นประธานในงานนี้ นายกรัฐมนตรีได้แสดงปาฐกถาที่ฟังแล้วซึ้งจนน้ำตาไหล ด้วยความปลื้มปีติยินดีที่ได้ฟังเนื้อหาการปาฐกถาของนายกรัฐมนตรี ประกอบกับลีลาน้ำเสียงของท่านนั้นแสดงให้เห็นความจริงใจ ให้เรารู้สึกได้ว่าทุกถ้อยคำที่ท่านพูดออกมานั้น เป็นการพูดออกมาจากใจอย่างที่วงการบันเทิงจะพูดถึงคนที่แสดงได้เก่งว่ามี Inner

     สาระที่นายกรัฐมนตรีพูดนั้น แก่นอยู่ที่คำว่า “รู้รักสามัคคี” ท่านเน้นให้เราเห็นว่าประเทศไทยมีโอกาสมากมายที่จะรอดจากภัยพิบัติและมีความเจริญก้าวหน้า หากแม้นคนไทยรักชาติและรักกันแล้ว ประเทศไทยจะต้องรอดปลอดภัยและเจริญก้าวหน้า นอกจากความรักและสามัคคีในหมู่ประชาชนคนไทยด้วยกันแล้ว ท่านยังเน้นเรื่องความรักชาติและความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของประเทศอีกด้วย ในเรื่องของความรักสามัคคีที่เป็นแก่นของการปาฐกถาของท่านนั้น นายกรัฐมนตรียังได้ขยายความอีกว่า จะต้องเป็นความรักที่ใช้ทั้งสมอง หัวใจ และคำพูด นั่นก็หมายความว่า เรารู้รักสามัคคีและภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ด้วย “ปัญญา (สมอง)” และด้วย “สำนึกที่ดี (หัวใจ)” และการแสดงออกด้วย “วาจา (คำพูด)” หากพวกเรามีความรักต่อกันด้วยการเป็นคนรู้จักใช้สมองคิดให้เกิดปัญญา และใช้หัวใจสร้างสำนึกที่ดี เราก็จะไม่มีวาจามาด่าทอต่อว่ากัน ไม่มีการสร้างวาทกรรมที่แสดงอาการชังชาติ ชังสถาบัน และเกลียดกันเอง

     อีกประเด็นที่สำคัญคือ นายกรัฐมนตรีมองเห็นอนาคตของชาติที่ท่านมองเห็นเด็กๆ มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ท่านมั่นใจว่าเด็กๆ เหล่านั้นคือคนที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของประเทศ ทำให้เราเชื่อว่าเยาวชนที่มีพฤติกรรมและสำนึกเช่นนี้ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก เพียงแต่พวกเขาไม่ได้แสดงออกบนพื้นที่ Social media เหมือนเยาวชนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีวาทกรรมด้อยค่าประเทศตนเอง และปฏิบัติตนเป็นปรปักษ์กับสถาบันพระมหากษัตริย์ ประกอบกับสื่อมวลชนบางราย และคนบนพื้นที่ Social media มักจะกระพือข่าวกิจกรรมและการกระทำของเยาวชนกลุ่มดังกล่าวนี้จนทำให้คนจำนวนมากตกใจ คิดว่าประเทศไทยเราแย่แล้ว เกิดความรู้สึกเป็นห่วงว่าประเทศไทยในวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไรถ้าหากเยาวชนมีพฤติกรรมและความคิดอย่างที่เราได้พบเห็นบ่อยๆ จากข่าวของสื่อสารมวลชน และการนำเสนอข่าวสารบนพื้นที่ Social media อย่างเช่น Facebook และ Twitter แต่หากได้ดูข่าวงานแจกรางวัลการประกวดร้องเพลงรักชาติและราชบัลลังก์ในครั้งนี้แล้ว หลายคนจะรู้สึกสบายใจขึ้น และจะมองว่าประเทศไทยยังคงมีความหวัง

     ความประทับใจอีกอย่างหนึ่งที่เราได้เห็นก็คือ ความสามารถของเด็กๆ ในการร้องและการแสดงในครั้งนี้ พวกเขาร้องเพลงหลากหลายเพลงที่แสดงให้เห็นความรักชาติ รักแผ่นดิน และมีความจงรักภักดี พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์ในการร้องและการแสดง เพลงเดียวกันมีการร้องหลากหลายลีลา มีการแสดงออกหลากหลายแบบ ที่สำคัญคือพวกเขาแต่งตัวชุดไทยที่หลากหลาย เป็นชุดไทยที่แสดงอัตลักษณ์ของภาคต่างๆ ของประเทศไทย เป็นชุดไทยที่มีทั้งชุดลำลอง ชุดทางการ ชุดเรียบง่าย ชุดดูหรู และในแต่ละกลุ่มนั้นมีเยาวชนต่างวัยกัน ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความหลากหลาย มีความแตกต่างด้านวัฒนธรรมภูมิภาค มีความแตกต่างด้านฐานะ มีความแตกต่างด้านวัย แต่พวกเขามีจิตวิญญาณเดียวกัน นั่นคือจิตวิญญาณของความรักชาติ รักแผ่นดิน และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เราอาจจะมีภูมิหลังที่ต่างกันแต่เรามีจิตวิญญาณร่วมกัน นั่นคือ ความรักชาติ และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

     ใครได้เห็นภาพข่าวของงานนี้แล้ว ก็จะมีความประทับใจและมองอนาคตของประเทศไทยด้วยความหวัง เรามีนายกรัฐมนตรีที่จริงใจมุ่งมั่นทำงานเพื่อพัฒนาประเทศด้วยความจงรักภักดี เป็นนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับ “ความรักและสามัคคี” เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์ มองไปข้างหน้าว่าเราจะมีเยาวชนที่เก่งและดี เป็นกลุ่มคนที่จะขับเคลื่อนประเทศด้วย “ปัญญาและสำนึกที่ดี” ความรักชาติและความภักดีต่อราชบัลลังก์นั้นดูได้จากบรรยากาศของงาน การแสดงออกของผู้ร่วมงานทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ ทำให้เราสามารถมองอนาคตของประเทศไทยด้วยความหวัง คนที่มีพฤติกรรมและวาทกรรมที่แสดงอาการชังชาติ และสร้างความแตกแยกด้วยวาทกรรมที่ด้อยค่าประเทศ ด้อยค่าคนอื่นนั้น ควรที่จะลด ละ เลิกพฤติกรรมดังกล่าวนั้นเสีย แล้วหันมามีพฤติกรรมที่รู้รักสามัคคี เพื่อให้ได้ประโยชน์จากโอกาสที่เรามี

     อยากให้มีการจัดงานแบบนี้อีกหลายๆ ครั้ง ในหลายๆ พื้นที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด หอการค้าจังหวัด ค่ายทหารในพื้นที่ต่างๆ วัฒนธรรมจังหวัด น่าจะเป็นเจ้าภาพในการจัดงานแบบนี้ให้เกิดขึ้นในหลายๆ พื้นที่ ทำให้เยาวชนมองเห็นว่าผู้ใหญ่ของบ้านเมืองมองเห็นความสำคัญและความสามารถของพวกเขา เมื่อเราจัดงานเช่นนี้มากขึ้น เราก็จะมองเห็นเยาวชนที่รักชาติ รักแผ่นดิน จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากขึ้น เราจะมองอนาคตของประเทศไทยอย่างมีความหวังมากขึ้น เรื่องแบบนี้น่าจะประกาศเป็นนโยบายของประเทศไปเลย และคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องขานรับนโยบายดังกล่าวนี้อย่างเต็มที่ เรื่องดีๆ แบบนี้เชื่อว่าบริษัทเอกชนใหญ่ๆ ทั้งหลายยินดีสนับสนุนงบประมาณในการจัดงานและการมอบเงินรางวัลให้แก่เยาวชนที่มีความสามารถ และมีสำนึกที่ดี ขอวิงวอนให้รัฐบาลรับรู้บทเรียนที่ดีจากการจัดงานครั้งนี้ แล้วเรื่องดีๆ แบบนี้ควรจะต้องมีการทำซ้ำให้มีความถี่ เพื่อเพิ่มความสุขและความหวังให้คนไทยที่เชื่อมั่นในเรื่องของ “ความรักและสามัคคี” นะคะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จะมาจากแหล่งไหน....ก็ไม่สบายใจทั้งนั้น

ก่อนการเลือกตั้ง เมื่อมีการหยั่งเสียงคะแนนนิยมว่าก้าวไกลมีคะแนนชนะเพื่อไทย ความร้อนรนกลัวแพ้ บนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทยก็มีการประกาศทันทีว่าจะแจกเงินดิจิทัล

ความแตกต่างระหว่าง'มนุษย์'กับ'สัตว์เดียรัจฉาน'

คำพูด บทสนทนา ในบทละครเรื่องพระเจ้า Richard ที่ 3 ของคุณปู่ William Shakespeare ที่กลายมาเป็นคำคม เป็นวาทะ อันถูกนำไปเอ่ยอ้างคราวแล้ว คราวเล่า คือคำพูดประโยคที่ว่า

ประวัติศาสตร์สีกากี

ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าของ "กรมปทุมวัน" ที่มีการเซ็นคำสั่งให้ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับ "รอง ผบ.ตร." ออกจากราชการไว้ก่อน ผลพวงจากการต้องคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์

สุขสันต์วันเกิดเมืองยาวหนึ่งปี

ดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่ถือกำเนิดจากพิธีวางเสาหลักเมือง หรือพระราชพิธีพระนครฐาน สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัช

ยโสโอหังไม่ฟังใคร ไม่สนใจกระแส...คิดว่าแจงได้

อ่อนอกอ่อนใจจริงๆ กับสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ ตั้งแต่ถ้อยคำ วาจา ท่าที ลีลาการหาเสียงของคนที่ถูกวางตัวว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้นำประเทศ ตะโกนด้วยสุ้มเสียงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่พูด ท