บันทึกหน้า 4

ในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญก็มีเอกฉันท์รับคำร้องที่ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 2 ประกอบมาตรา 158 วรรค 4 หรือไม่ ไว้พิจารณาวินิจฉัย โดย ให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง ส่วนคำร้องขอให้คำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ก็มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2565 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย …๐

โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ลงมติ 5:4 นั้น 5 เสียงที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แก่ “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์”, “ทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์”,  “จิรนิติ หะวานนท์”, “วิรุฬห์ แสงเทียน” และ “นภดล เทพพิทักษ์” ส่วน 4 เสียงที่ยังให้ทำงานต่อคือ “วรวิทย์ กังศศิเทียม” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ, “ปัญญา อุดชาชน”, “อุดม สิทธิวิรัชธรรม” และ “บรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์” ...๐

กรณีการรับคำวินิจฉัยและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญคราวนี้ ถือเป็นการดับไฟม็อบได้เปลาะหนึ่ง แต่ก็ไม่รู้ว่าบรรดาผู้แค้นฝั่งหุ่นทั้งหลายจะสำเหนียกถึงชาติบ้านเมืองบ้างไหม หรือจะเอามันแบบสู้แล้วรวยอีกครั้งก็เป็นได้ แต่ที่ขำไม่ออกจริงๆ คือ บรรดาพรรคก้าวไกล ทั้ง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ “รังสิมันต์ โรม” ที่ออกมาตำหนิติติงว่าอาจเกิดสุญญากาศในการทำงาน เพราะมี “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่รักษาการ แหม! ทีคราวพรรคอนาคตใหม่ถูกตัดสินก็บอกว่าเร็วไป แต่พอเรื่องนี้กลับตำหนิว่าล่าช้าประวิงเวลา อะไรมันจะเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ...๐

ไม่ต่างจากการวิพากษ์วิจารณ์รัฐธรรมนูญปี 2560 ว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการเอย รัฐธรรมนูญต่ออำนาจเลย แล้วการที่ “บิ๊กตู่” ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไม่ใช่ผลพวงของรัฐธรรมนูญปี 2560 หรือ ทำไมพรรคฝ่ายค้านไล่มาตั้งแต่ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคก้าวไกลไม่เคยซูฮกยกนิ้วให้รัฐธรรมนูญนี้บ้างเล่า หรือติดนิสัยเอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่นจนชินเสียแล้ว ...๐

นอกจาก “ลุงป้อม” จะผงาดขึ้นเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้เต็มสตรีมยกเว้นในเรื่องการแต่งตั้งและงบประมาณ แต่สามารถยุบสภาได้ โดย “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ที่จะนั่งเก้าอี้รักษาการนายกฯ อันดับสองได้บอกไว้ แหม! ถ้างานนี้ลุงป้อมเกิดนึกอะไรพิเรนทร์ๆ ขึ้นมา เพราะกฎหมายงบประมาณปี 2566 ก็ผ่านแล้ว ล่าสุดในกลไกของกระทรวงมหาดไทยก็มีการโยกย้ายถึง 37 ตำแหน่งสำคัญแล้วจะยุบสภาขึ้นมาตามคำค่อนขอดของฝ่ายค้านที่มองว่า “ประวิตร” “ประยุทธ์” ก็คือๆ กันในการนั่งตำแหน่งผู้นำประเทศ ก็ไม่รู้ว่าใครจะร้องจ๊ากกันแน่  เพราะอย่าลืมว่าเรื่องหาร 500 และหาร 100 ยังลูกผีลูกคนอยู่นะตัวเอง ...๐

แล้วที่ขำไปกันใหญ่คือ เริ่มมีการกางชื่อแคนดิเดตบัญชีรายชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีแล้ว หากเกิดกรณี “บิ๊กตู่” เจออุบัติเหตุเฉกเช่นเดียวกับการหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในบัญชีตอนนี้ก็มีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย 3 รายชื่อได้แก่ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์”, “ชัยเกษม นิติสิริ” และ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” บัญชีพรรคภูมิใจไทยก็มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” และบัญชีพรรคประชาธิปัตย์มี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แล้ว ถ้าบังเอิญมีการโหวตในสภาเพื่อเลือกนายกฯ ใหม่จริง แล้วที่ประชุมโหวตเลือก “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าประเทศไทยจะไปทางไหนเหมือนกัน เพราะได้พ่อเมืองกรุงเทพมหานครมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนซะงั้น ...๐

เรียกว่า พุธสังหารนี้มุ่งไปที่ “ลุงตู่” อย่างเดียว  ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญยังมีเรื่องน่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง คือการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคำร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มท.สิ้นสุดลงเฉพาะตัว จากเหตุถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 1528/2564 ลงวันที่ 25 มิ.ย.2564 หรือไม่ โดยศาลได้ยุติการไต่สวนและกำหนดนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ และ อ่านคำวินิจฉัยในวันพุธที่ 14 ก.ย2565 ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเก้าอี้ของ “นิพนธ์” และ “พล.อ.ประยุทธ์” ใครจะเหนียวหรือใครจะไปก่อนกัน งานนี้ต้องติดตามแบบตาไม่กะพริบ ...๐

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.