เดือดแน่! ปูตินประกาศระดมพลใหม่ เสริมทัพในสมรภูมิยูเครน

ผู้นำรัสเซียบอกว่า ชาติตะวันตกกำลังร่วมมือกัน “หักหลัง” รัสเซีย โดยเฉพาะจากคำขู่เรื่องอาวุธนิวเคลียร์

ปูตินใช้วลี “ตะวันตกกำลังแบล็กเมล์รัสเซียด้วยนิวเคลียร์”

แต่ยืนยันว่ามอสโกมีอาวุธมากมายที่จะตอบโต้ภัยคุกคามจากชาติตะวันตก

“นี่ไม่ใช่การเกทับบลัฟแหลกนะ เพราะเราจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้อง "คนของเรา" ในดอนบาส” ซึ่งหมายถึงภูมิภาคตะวันออกของยูเครน

ไม่แต่เท่านั้น ปูตินยังประกาศสนับสนุนให้อุตสาหกรรมด้านกลาโหมของรัฐและเอกชนหันมาผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างคึกคัก

โดยรัฐพร้อมจะเพิ่มการลงทุนเพื่อเกื้อหนุนเอกชนให้เดินไปในเส้นทางเดียวกันด้วย

ตอนหนึ่งของคำปราศรัย ปูตินเรียกเรียกดินแดนที่ทำประชามติว่าเป็น “โนโวโรสซิยา” หรือ Novorossiya หรือ “รัสเซียใหม่” ซึ่งเป็นชื่อภูมิภาคเก่าแก่สมัยจักรวรรดิรัสเซียที่หมายรวมถึงทางใต้ของยูเครนที่รวมถึงไครเมียและทะเลดำ

ปูตินอ้างว่าปฏิบัติการพิเศษทางทหารของยูเครนถูกขัดขวางโดยทหารรับจ้างที่บงการโดยชาติตะวันตก

และตอกย้ำว่าตะวันตกกำลังต้องการจะบ่อนทำลายรัสเซีย

การระดมพลบางส่วน (Partial Mobilization) นั้นจะเจาะจงเฉพาะคนที่มีชื่อในบัญชีกองหนุนเท่านั้นที่จะถูกเกณฑ์ และคนที่ถูกเกณฑ์ใหม่จะได้รับการฝึกปรือเพิ่มก่อนจะส่งเข้าสู่สนามรบปกป้องดินแดนของมาตุภูมิ

ส่วนคนที่ยังอยู่ในสัญญาการว่าจ้างเป็นทหารก็จะต่อสัญญาไปเรื่อยๆ

อีกทั้งยังจะให้ทหารที่ถูกระดมพล ซึ่งเริ่มมีผลทันทีเมื่อวันพุธที่ผ่านมาจะได้รับผลตอบแทนและสวัสดิการเต็มที่

ส่วนการทำ “ประชามติ” รวมดินแดน 4 จุดทางตะวันออกและทางใต้จะเริ่มวันนี้ถึงวันพุธหน้า

โดยเน้นไปที่ 4 ภูมิภาคคือ Luhansk และ Donetsk ทางตะวันออก

และ Zaporizhzhia กับ Kherson ทางใต้

ปูตินบอกว่าตะวันตกได้ “ข้ามเส้น” แล้ว และได้ใช้นิวเคลียร์แบล็กเมล์รัสเซียด้วย

เช่น ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริเซียนั้น ฝ่ายตะวันตกกำลังระดมยิงใส่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพื่อกระตุ้นให้เกิดวิกฤต

เขาบอกว่าคนรัสเซียมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาอธิปไตย, ภราดรภาพแห่งดินแดนและเอกราชของตน

ปูตินบอกว่าเขาหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่เหล่านั้นที่ไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่ของพวก “นาซีใหม่”

ปฏิกิริยาทางตะวันตกบอกว่าปูตินกำลังตกอยู่ในภาวะ “ระส่ำระสาย” เพราะในหลายแนวรบทหารรัสเซียต้องถอนร่น

ดังนั้นการประกาศ "ระดมพลสำรองบางส่วน" จึงสะท้อนว่าปูตินกำลังต้องการทหารไปเสริมการสู้รบในแนวหน้าที่กำลังเพลี่ยงพล้ำ

นักวิเคราะห์ตะวันตกชี้มาหลายสัปดาห์แล้วว่า "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" ของรัสเซียในยูเครนล้มเหลว และผิดจากเป้าที่วางเอาไว้อย่างมาก

เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย บอกว่า การระดมกำลังพลสำรองบางส่วนคิดเป็น 1% ของกำลังพลสำรองทั้งหมดของรัสเซียเท่านั้น

ตะวันตกเชื่อกันว่ารัสเซียมีกำลังพลสำรองประมาณ 2 ล้านคน

ขณะเดียวกันยูเครนก็ร้องขอความช่วยเหลือเพิ่ม เสริมกำลังรุกไล่รัสเซียพ้นชายแดน

ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ยูเครนกำลังพยายามสร้างเสถียรภาพในเขตปกครองคาร์คิฟทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

หลังจากที่ทหารยูเครนสามารถตีโต้ทหารรัสเซียจนถอยร่นออกไป

ถือโอกาสนี้ขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากประชาคมโลกเพื่อเสริมกำลังในสมรภูมิ

โดยเฉพาะอาวุธที่มีพิสัยการยิงไกลเพื่อทำลายเป้าหมายทางทหารของรัสเซีย

เซเลนสกีย้ำว่า ความรวดเร็วในการสร้างเสถียรภาพบนพื้นที่ที่ได้รับการปลดปล่อยจากรัสเซียมีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับความรวดเร็วในการเคลื่อนกำลังทหารและการฟื้นฟูบูรณะพื้นที่ที่ยึดคืนมาได้ ตลอดจนความรวดเร็วของการสนับสนุนจากพันธมิตร"

เขาบอกว่า "อัตราความเร็วของการส่งความช่วยเหลือควรสัมพันธ์กับอัตราความเร็วในการเคลื่อนกำลังของยูเครน"

การยึดครองพื้นที่คืนจากรัสเซีย โดยเฉพาะที่เขตคาร์คิฟทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้กองทัพยูเครนเชื่อว่า หากได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมด้านอาวุธจากชาติพันธมิตร ทหารยูเครนจะสามารถเอาชนะทหารรัสเซียในสมรภูมิได้

สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสโลวีเนียประกาศจะส่งรถถัง 28 คันให้ยูเครน

ขณะที่เยอรมนีรับปากว่าจะส่งปืนใหญ่แบบฮาววิตเซอร์ให้อีก 4 กระบอก

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลิซ ทรัสส์ รับปากว่าปีหน้า อังกฤษจะจัดส่งความช่วยเหลือต่างๆ ให้แก่ยูเครนในมูลค่าที่เท่าเทียมหรือมากกว่าความช่วยเหลือมูลค่า 2,600 ล้านดอลลาร์ ที่ให้ไปแล้วในปีนี้

คำประกาศของปูตินเมื่อวันพุธตรงกับที่บรรดาผู้นำโลกกำลังเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ หรือ UNGA ณ นครนิวยอร์ก

นายกฯ ทรัสส์บอกว่า จะใช้โอกาสนี้ตอกย้ำถึงความรับผิดชอบที่อังกฤษมีต่อยูเครนในการรักษาอธิปไตยในดินแดนของตน ตลอดจนการกระตุ้นความพยายามของทั่วโลกในการยับยั้งรัสเซียไม่ให้ได้ประโยชน์จากการส่งออกพลังงาน พร้อมไปกับการลดการพึ่งพาพลังงานของรัสเซียด้วย

เซเลนสกีแห่งยูเครนมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมใหญ่ของยูเอ็นผ่านทางวิดีโอด้วย

คงจะเป็นจังหวะที่มีการประกาศแนวทางตอบโต้ของยูเครนต่อการระดมทหารรัสเซียเข้าเสริมทัพในสมรภูมิยูเครนอีกรอบหนึ่ง

ตอกย้ำว่าสงครามยูเครนกำลังบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งของยุโรประหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตกอย่างปฏิเสธไม่ได้จริงๆ.