เมื่อการเมืองเข้าสู่หน้าข้าวหน้าเหล้าว่าด้วยการเลือกตั้งใหญ่ ผู้คุมเกมอย่าง “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หรือ กกต. จึงได้ออกข่าวถี่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะ “แสวง บุญมี” เลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งต้องยอมรับหลังประกาศเรื่อง 180 วันอันตราย ดูเหมือนเสียงชยันโตสวดส่งจากนักการเมืองพร้อมเพรียงอย่างมิได้นัดหมาย ...๐
เรียกว่าทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างรุมสับประกาศของ กกต.เละ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจแต่ประการใด เพราะดูเหมือน กกต.ยุค “อิทธิพร บุญประคอง” จะยึดตามตัวอักษรแบบเป๊ะๆ แบบลืมเรื่องจารีตประเพณีและยุคสมัยอย่างมาก ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างงานศพ ที่บอกว่าส่งพวงหรีดได้ แต่ไม่สามารถส่งพัดลมหรืออย่างอื่นที่ทำในลักษณะพวงหรีดเพราะถือเป็นสิ่งของ ก็รู้แล้วว่า “กกต.” ยุคนี้อยู่ในยุค 5 จี หรืออนาล็อกกันแน่ ...๐
แล้วที่ขำไม่ออกเข้าไปอีกในการชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร ที่มี “อนันต์ ผลอำนวย” ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานนั้น “ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก” รองเลขาฯ กกต. ให้เหตุผลว่าพวงหรีดดอกไม้สดจะได้บุญมากกว่า!!! พระเจ้าจอร์จ แล้วที่รณรงค์กันมาให้ส่งต่อพวงหรีดทั้งในรูปพัดลม, หลอดไฟ, ผ้าขนหนู ตลอดจนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อคนเป็น และ สร้างบุญกุศลให้แก่ผู้วายชนม์ ดีกว่าให้ดอกไม้เน่าเสียแต่ไร้ประโยชน์มาในช่วงกว่า 10 ปี ก็ต้องเอวังด้วยกฎ กกต.ยุคหลังเขาเสียแล้ว ...๐
และด้วยความเข้มงวดแบบไม่ดูโลกที่เปลี่ยนไปแบบนี้นี่เอง ถึงขนาดทำให้ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถึงขนาดอาจต้องคลอดคู่มือในเรื่องดังกล่าวเพื่อแจกให้กับทั่น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติทั้งสภากันเลยทีเดียวเชียว ...๐
เราไม่ปฏิเสธในการเข้มงวดในการใช้สะตุ้งสตางค์ในการหาเสียง เพราะอาจเกิดการซื้อสิทธิขายเสียงได้ แต่ กกต.ก็ต้องแยกแยะและคำนึงถึงเรื่องของจารีตและประเพณีเข้ามาด้วย เพราะ อย่าลืมว่าเราเป็น “ไทยแลนสไตล์” ที่ไม่ใช่แบบพวกฝรั่งมังค่าเขา โดยการให้นั้นก็อาจมีการกำหนดเรตหรือวงเงินเช่นเดียวกับการรับของมูลค่าห้ามเกิน 3,000 บาทของนักการเมืองก็ได้ แต่ไม่ใช่บอกห้ามไปเสียทั้งหมด ...๐
แล้วยิ่งไทยกำลัง เผชิญกับซูเปอร์ไต้ฝุ่นโนรู ที่ตอนนี้แม้จะอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าจะเป็น “ดีเปรสชัน” เมื่อเข้าไทยด้วยแล้ว จึงไม่แปลกที่เสียงของนักการเมืองทั้งฝ่ายค้านอย่าง “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” และ “ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์” จะรุมสวด รวมถึง “ศาสตรา ศรีปาน” จากพรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาตั้งข้อสงสัยว่า ห้าม ส.ส.บริจาคหรือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในยามทุกข์ยาก แล้วจะเป็น ส.ส.ทำไม ก็น่าคิดอย่างยิ่ง ...๐
เพราะต้องไม่ลืมว่าหากเกิดอุกทภัยขึ้นมาจะรอให้รัฐบาลเยียวยา หรือช่วยเหลืออย่างเดียวคงไม่เพียงพอ แล้วหากมี การเปิดรับบริจาคในรายการที่หน่วยงานรัฐจัดทำขึ้นมา ก็ยังเป็นเรื่องให้ต้องตีความอีกว่า นักการเมืองและรัฐมนตรีทั้งหลายจะบริจาคได้หรือไม่อย่างไร หากบริจาคไม่ได้เลยก็เท่ากับไม่ดูดำดูดีประชาชนเลยใช่หรือไม่ ซึ่งรัฐบาลและรัฐมนตรีอาจลอยตัว เพราะยังสามารถไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในอีเวนต์ต่างๆ ได้ แต่บรรดาพรรคฝ่ายค้านหรือพรรคการเมืองใหม่ๆ ทั้งหลายจะลงไปพื้นที่แค่ยกมือไหว้แล้วบอกให้รอภาครัฐมาช่วยเหลือ อย่างนี้จะลงพื้นที่ไปให้ชาวบ้านเขาด่าพ่อล่อแม่เปิดเปิงสิไม่ว่า ...๐
หันมาเรื่องเศรษฐกิจกันบ้าง เพราะช่วงก่อนเที่ยง “อนุชา บูรพชัยศรี” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เพิ่งแจกข่าวพีอาร์ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมารับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยเฉพาะเรื่องการดำเนินนโยบายการเงิน โดยระบุว่า กนง.ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง แต่ผ่านมายังไม่ถึง 3 ชม.ดี “ปิติ ดิษยทัต” เลขานุการ กนง. ก็ออกมาแถลงว่าที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 0.75% เป็น 1% ปี โดยให้มีผลทันที เนื่องจากมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น งานนี้เล่นเอาชาวบ้านเขางงเป็นไก่ตาแตกว่ารัฐบาลและกระทรวงการคลัง รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยเล่นอะไรกันอยู่ จะบอกว่ารัฐบาลชักช้าชักเฉื่อยก็ไม่ได้ เพราะนี่ก็ผลการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 27 ก.ย.เท่านั้น แสดงให้เห็นว่าในการประชุม ครม.บางครั้งเรื่องก็ล่าช้ายิ่งกว่าเรือเกลือแบบไม่ทันโลกไม่ทันเกมเลย งานนี้ก็ไม่รู้ว่าควรจะมีใครเป็นแพะรับบาปดี ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



