บันทึกหน้า4

กรณี “ศรีสุวรรณ จรรยา” ถูกทำร้ายร่างกายภายหลังไปแจ้งดำเนินคดีที่ บก.ปอท.นั้น ยังคงเป็นประเด็นฮอตฮิตให้ถกเถียงกันอย่างมาก ซึ่งล่าสุด “พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน” ผู้บังคับการปราบปรามก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมตัว “วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล” หรือลุงศักดิ์ หรือ “ลุงศักดินาเสื้อแดง” แล้ว ซึ่งที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับสังคมไทยคือ การมี กองเชียร์ที่เห็นดีเห็นชอบกับการใช้ความรุนแรงอย่างมาก ดูได้จากยอดบริจาคในการช่วยลุงศักดิ์สู้คดียิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 เพราะมีจำนวนถึง 6,589,841.12 บาท …๐

ยอดเงินดังกล่าวกับกระแสของบรรดาคนดัง และเซเลบที่เห็นดีเห็นงามก็ สะท้อนว่าในไม่ช้าเหตุการณ์ “เผาบ้านเผาเมือง” เมื่อปี 2553 หรือแม้แต่ “ซัดดาวน์กรุงเทพฯ” เมื่อปี 2557 ที่มีผู้บาดเจ็บนับร้อยและเสียชีวิตนับสิบต้องกลับมาเกิดขึ้นอีก แน่แท้ ซึ่งหากมองดูต้นเหตุแบบแท้จริงก็จะรู้ว่าเป็นใครที่ไหนที่เดินเข้าสู่ถนนการเมืองแล้วทำให้ “คนไทย” ต้องลุกมาเข่นฆ่ากันเอง ...๐

ตอนนี้นอกจากการใช้เรื่องความรุนแรงและเรื่องการทำร้ายร่างกาย ยังพยายามโยงเรื่องความรุนแรงประเภทที่มองไม่เห็นด้วยจากการฟ้องร้อง หรือที่เรียกว่า การใช้กฎหมายปิดปากด้วย โดยไล่มาตั้งแต่ “อังคณา นีละไพจิตร” อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือแม้แต่ “รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี” อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งระบุว่ารุนแรง และเจ้าตัวก็เคยถูก “พี่ศรี” ร้องจนทำให้การงานและครอบครัวเดือดร้อน ...๐

ไม่ต่างจาก "โบว์" ณัฏฐา มหัทธนา ก็ออกมาระบุเช่นกัน “ศรีสุวรรณ” เป็นหนึ่งใน “ผู้เล่น” ในวัฒนธรรมของการใช้กลไกรัฐเพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง ที่ทำกันอย่างเป็นระบบมาตั้งแต่ยุค คสช. พร้อมระบุต้องแยกประเด็นกันกับการถูกทำร้ายที่ไม่ควรสนับสนุน แต่หลายคนก็ยังพยายามวนอยู่เรื่องเดียว เพราะการรังแกที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น มันน่าอายไปที่จะพูดถึง แหม! เห็นชัดว่า “โบว์” ยังเป็นเด็กใหม่บนนถนนการเมืองสายนี้ เพราะหากย้อนกลับไปก่อน คสช. ก็จะรู้ว่ายุคใครกันแน่ที่ใช้กลไกรัฐแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดยิ่งกว่าการฟ้องร้องตามกระบวนการยุติธรรมมาใช้ขจัดผู้เห็นต่าง เพราะมีตั้งแต่ การใช้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบทรัพย์สิน, การใช้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลัง, การใช้เอเยนซียกเลิกโฆษณา หรือแม้แต่การใช้อำนาจบีบคอลัมนิสต์ให้หยุดเขียน นี่ยังไม่รวมถึงการฟ้องร้องคดีสารพัดเหมือนยุคนี้อีกต่างหาก อย่างนี้เขาถึงเรียกว่าใช้อำนาจและกลไกรัฐจ๊ะน้องจ๋า แล้วก็ไม่ต้องถามว่ายุคใคร ก็ยุคที่เป็นต้นตอของประเทศชาติแบ่งแยกเป็นฝักฝ่ายนั่นแล ...๐

ขำไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ จาก การคุยโว “แลนด์สไลด์” อยู่หมาดๆ พรรคเพื่อไทยภายใต้หัวหน้าพรรคหุ่นเชิด “ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน ก็ไม่รู้เจี๊ยะป้าบ่สื่อหรืออย่างไร ที่ไปชงยุบพรรคภูมิใจไทยของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ในเรื่องกัญชา เพราะหากยุบจริงก็ไม่ควรยุบแค่พรรคภูมิใจไทย แต่น่าจะเหมารวมพรรคที่ยกมือหนุนกฎหมายดังกล่าวในรัฐสภาด้วยถึงจะถูก หรือเพราะไปสำรวจในพื้นที่ภาคอีสานแล้วถึงเริ่มรู้ว่ากระแสของเสี่ยหนู และอาจารย์เนวินนั้นมาแรงแซงทางโค้ง เลยต้องเตะสกัดขาเพื่อนให้หัวคว่ำคะมำหงายจ๊ะตัวเอง ...๐

เห็นโหมโรงว่าด้วยนโยบายหาเสียงมาแต่ไก่โห่ สำหรับพรรคก้าวไกลของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ว่าด้วยการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ดูเหมือนพลุดังกล่าวจะไม่เปรี้ยงปร้างเท่าใดนัก ในช่วงนี้ก็เลยเน้นไปที่เรื่องการปฏิรูปกองทัพ 5 ข้อเป็นส่วนใหญ่ โดยยืนยันหากเป็นรัฐบาลก็ต้องทำแน่นอน โดยล่าสุด “รังสิมันต์ โรม” ก็ออกมาโยงเรื่องการหักหัวคิดบ้านสวัสดิการกองทัพบกเพื่อตอกย้ำเรื่องดังกล่าว แต่เห็นข้อเสนอแรกแล้วก็ได้แต่ขำในความย้อนแย้งของพรรคดังกล่าวอย่างยิ่ง เพราะบอกว่า “กองทัพ” ต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน มีผู้ตรวจการกองทัพที่เป็นพลเรือน และนายพลเกษียณภายใน 7 ปีห้ามเป็นรัฐมนตรี พิโธ่! คนเกษียณก็ถือเป็นราษฎรเต็มขั้น กลับจะไปออกข้อห้ามเล่นการเมืองเป็นรัฐมนตรี แปลกแต่จริง! ไหนบอกว่าคนเราควรเท่าเทียมเล่า ...๐

แล้วที่น่าแปลกใจเข้าไปอีก ทำไม “ก้าวไกล” หรือแม้แต่พรรคการเมืองทุกพรรคกลับไม่เคยพูดถึงเรื่องบำเหน็จบำนาญ ส.ส.กันบ้างเลยว่าจะมีการยกเลิก เพราะหากเป็นแค่สมัยเดียวก็ได้สิทธิ์ดังกล่าวแล้ว อย่างนี้เรียกว่าเป็นการเอาภาษีของคนทั้งประเทศมาเป็นเครื่องบำรุงบำเรอตัวเอง ไม่ต่างจากการคอร์รัปชันทางนโยบายแต่อย่างใด หรือพอเป็น ผลประโยชน์เข้าตัวก็เลยเลือกที่จะลืมและไม่รู้ว่ามันมีอยู่ หรือจ๊ะ ...๐

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.