“ขณะที่จีนไม่สามารถพัฒนาอย่างโดดเดี่ยวจากโลก โลกก็ต้องการจีนเพื่อการพัฒนา..”
นี่คือประโยคเด็ดของสี จิ้นผิง หลังได้รับการยืนยันว่าจะนั่งอยู่ในเก้าอี้เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่ออีกหนึ่งสมัยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมของจีนที่จะทำงานกับประชาคมโลกเพื่อสร้างเศรษฐกิจพหุภาคี
โดยที่โลกก็จะต้องตระหนักถึงความสำคัญของการที่จะให้จีนสามารถมีบทบาทสำคัญในเวทีระหว่างประเทศ
เหมือนเป็นการเตือนสหรัฐฯ และตะวันตกว่า จะต้องไม่พยายามกีดกันและขัดขวางการขยายบทบาททางเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ของจีนในเวทีสากล
สีย้ำว่าตลอดเวลากว่า 40 ปีของการปฏิรูปและเปิดกว้างอย่างไม่หยุดยั้ง จีนได้สร้าง “ปาฏิหาริย์ 2 ประการ”
นั่นคือการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วที่ไปเคียงคู่กับความมั่นคงทางสังคมในระยะยาว
“เราจะยืนหยัดในการปฏิรูปอย่างลึกซึ้งและเปิดกว้างทั่วกระดาน และในการใฝ่หาการพัฒนาคุณภาพสูง ประเทศจีนที่เจริญรุ่งเรืองจะสร้างโอกาสมากมายให้กับโลก...” สี จิ้นผิง กล่าว
แน่นอนว่าโลกก็กำลังจับตาว่า เมื่อสี จิ้นผิง สามารถกระชับอำนาจทางการเมืองไว้เกือบทั้งหมดแล้วจะสามารถแก้ปัญหาหลักๆ ที่เป็นอุปสรรคใหญ่ ๆ สำหรับจีนที่โยงกับโลกได้อย่างไรด้วย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฟื้นคืนเศรษฐกิจกลับมาหลังวิกฤต Covid-19
กับการแก้ไขปัญหาภาวะหนี้เสียในภาคอสังหาริมทรัพย์
รวมไปถึงการดำเนินนโยบาย Dual Circulation หรือ “ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนคู่”...ที่ให้เกิดความสอดคล้องระหว่างเศรษฐกิจภายในประเทศโดยไม่ทิ้งการเชื่อมโยงกับตลาดโลก
ที่น่าติดตามเป็นพิเศษคือนโยบาย “ฟื้นฟูชาติ” อย่างมีชีวิตชีวา หรือ Rejuvenation
พร้อมๆ กับการบรรจุข้อความเรื่องการผนวกดินแดนไต้หวันให้เป็นแผ่นเดียวกัน ด้วยการ “ต่อต้านความพยายามจะประกาศเอกราชของไต้หวัน”
ขณะเดียวกันที่อดีตประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ของไต้หวัน ออกมาบอกว่าเขากลัวว่าจีนจะโจมตีไต้หวันด้วยกำลังภายใน 5 ปี
จึงขอให้คนไต้หวันเลือกพรรคก๊กมินตั๋งที่ตอนนี้เป็นฝ่ายค้านเข้าไปเป็นรัฐบาล “เพื่อหลีกเลี่ยงสงคราม”
ทั้งนั้นทั้งนี้ การที่สี จิ้นผิง จะบรรลุเป้าหมายหลักๆ ที่วางเอาไว้ได้ หรือไม่ย่อมอยู่ที่ทีมงานระดับบนสุดใน “คณะกรรมการประจำของกรมการเมือง Politburo”
นอกเหนือจากสี จิ้นผิง และหลี่ เฉียง ที่เป็นตัวเต็งสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
คนที่ควรจับตาอีกคนหนึ่งคือ ZHAO LEJI “จ้าว เล่อจี้”
ซึ่งจะมานั่งรับผิดชอบเรื่อง “วินัย” ของพรรค
ถือเป็น “มือปราบคอร์รัปชัน” ที่จะมีความสำคัญสำหรับการเดินหน้ากระชับอำนาจและสร้างความศรัทธาสำหรับประชาชน
ตั้งแต่ปี 2017 Zhao Leji ได้กำกับดูแลคณะกรรมการกลางว่าด้วยการสอบสวนเรื่องวินัยของพรรคที่เรียกว่า Central Commission for Discipline Inspection ซึ่งเป็นหน่วยงานที่น่าเกรงขามสำหรับตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐอื่นๆ เพราะเป็นกลไกระดับสูงในการกำกับควบคุมการทุจริตและการกระทำผิดอื่นๆ ของพรรค
วันนี้ จ้าว เล่อจี้ กำลังถูกวางตัวเป็นประธานสภาประชาชนแห่งชาติ
นั่นคือสภานิติบัญญัติที่จัดประชุมเต็มคณะเพียงปีละครั้ง
แต่ก็มีกิจกรรมประชุมของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ มีขนาดเล็กกว่าแบบปิดประตู ไม่ออกข่าวโดยไม่จำเป็น
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า Zhao วัย 65 ปีเป็นส่วนหนึ่งของ “กลุ่มฉ่านซี” ของสี จิ้นผิง ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในจังหวัดทางตะวันตกของส่านซี ก่อนที่จะย้ายไปปักกิ่ง
จ้างเคยเป็นเลขาธิการพรรคของฉ่านซีและก่อนหน้านั้นประจำการอยู่จังหวัดชิงไห่ทางตะวันตกอันห่างไกลบนที่ราบสูงทิเบต
เขามีความละม้ายกับสีตรงที่เป็นสมาชิกพรรครุ่นที่สอง และเรื่องราวเล่าขานที่ไม่ได้รับการยืนยันบอกว่าพ่อของทั้งสองคนเป็นเพื่อนกัน
อีกคนหนึ่งในกลุ่ม 7 อรหันต์ที่น่าจับตาคือ “นักทฤษฎีการเมือง หวัง หูหนิง”
ที่น่าสนใจคือเขาเป็นนักทฤษฎีการเมืองของพรรคมายาวนาน มีความช่ำชองและคุ้นเคยกับหลักคิดแบบสังคมนิยมที่ปรับใช้กับยุคสมัยของสี จิ้นผิง ที่ประกาศเป็นเป้าหมายในการสร้างจีนให้เป็น “สังคมนิยมทันสมัยยุคใหม่ที่มีอัตลักษณ์แบบจีน”
ในวัย 62 ปี เขาเป็นสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองมาตั้งแต่ปี 2017 และเลื่อนขึ้นจากที่ตำแหน่งลำดับที่ 5
นั่นย่อมสะท้อนถึงสถานะของเขาในฐานะที่ปรึกษาที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งของสี
หวังมีพื้นฐานด้านวิชาการ รับผิดชอบอุดมการณ์ของพรรคเป็นส่วนใหญ่ในฐานะที่ปรึกษาการสืบทอดตำแหน่งผู้นำ
ถือว่าเขามีสถานะที่ไม่ธรรมดาแม้จะไม่มีประสบการณ์ในฐานะผู้ว่าราชการส่วนภูมิภาค หรือตำแหน่งรัฐมนตรีแต่อย่างไร
ตั้งแต่ปี 2017 หวังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของกลุ่มทำงานเล็กๆ ที่ผลักดันเรื่องปฏิรูปในด้านต่างๆ “อย่างลุ่มลึกและรอบด้าน”
หน่วยงานที่มีบทบาทและหน้าที่ค่อนข้างคลุมเครือ แต่มีส่วนสำคัญในการช่วยกระชับนโยบายของสี จิ้นผิง จากข้างหลัง
เขาเคยเป็นคณบดีโรงเรียนกฎหมายมหาวิทยาลัยฟูตานอันโด่งดังของเซี่ยงไฮ้
และเป็นศาสตราจารย์ด้านการเมืองระหว่างประเทศ
ใครที่ติดตามผลงานของเขาจะสัมผัสได้ถึงจุดยืนของเขาที่สนับสนุนให้รัฐจีนให้มีความเข้มแข็ง และเป็นศูนย์กลางเพื่อต่อต้านอิทธิพลจากต่างประเทศ
ย้อนกลับไปไม่นานมานี้ หวังได้รับการยกย่องจากนักวิจัยต่างชาติในการพัฒนาอุดมการณ์อย่างเป็นทางการของผู้นำจีนสามคน ได้แก่ "Three Represents" ของอดีตประธานาธิบดีเจียง เจ๋อหมิน
"แนวคิดการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์" ของ หู จิ่นเทา และ "สังคมนิยมอัตลักษณ์จีนในยุคใหม่" ของสี จิ้นผิง
นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เขียนหนังสือในหัวข้อ “America Against America” (“อเมริกาต้านอเมริกา”) ที่ตีพิมพ์หลังไปเยือนสหรัฐอเมริกาในปี 1991
ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจและความท้าทายทางสังคมและการเมืองอื่นๆ ของอเมริกา
พูดง่ายๆ คือการเปิดโปงถึงจุดอ่อนของระบบการเมืองและเศรษฐกิจของอเมริกาอย่างตรงไปตรงมา
(พรุ่งนี้: หัวหน้าพรรคคอมฯ ประจำปักกิ่ง, กวางตุ้ง และเซี่ยงไฮ้).
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


