ค่ำคืนวันที่ 29 รอยต่อวันใหม่ 30 ตุลาคม โลกต้องตกตลึงกับโศกราฏกรรมที่อิแทวอน ใจกลางกรุงโซล เกาหลีใต้ เหตุการณ์ปาร์ตี้ฮาโลวีนต้องกลายเป็นเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ นักท่องเที่ยวนับหมื่นนับแสนคน เบียดเสียดแออัดกันบนถนนแคบๆ จนทำให้เกิดภาวะขาดอากาศหายใจ หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิต มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กว่า 150 รายแล้ว เป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำหรับมวลมนุษยชาติ เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้สามารถเกิดขึ้่นได้ทั่วทุกมุมโลก หากมีปัจจัยเอื้ออำนวยเช่นที่ อิแทวอน
เทศกาลฮาโลวีนปีนี้เป็นการเฉลิมฉลองครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิดในปี 2563 ซึ่งชาวเกาหลีใต้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย แต่ผู้เสียชีวิตมิใช่เฉพาะชาวเกาหลีใต้เท่านั้น สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล แจ้งข่าวร้าย หลังได้รับรายงานจากตำรวจเกาหลีใต้ว่า พบคนไทย 1 ราย
เสียชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วย สถานเอกอัครราชทูตไทย เปิดให้ ติดต่อ สอบถาม ตรวจสอบเกี่ยวกับคนสูญหายได้ที่ช่องทางของทางการเกาหลีใต้ เบอร์โทรศัพท์ 02 2199 8660 โดยหากคนไทยท่านใดต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถติดต่อมายังเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน 010-6747-0095 หรือ 010-3099-2955 ได้ตลอดเวลา เพราะช่วงเวลานี้มีคนไทยเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้จำนวนมาก...๐
หลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอให้ต่างชาติถือครองที่ดิน 1 ไร่ แลกการลงทุน 40 ล้าน ทำให้เกิดกระแสโจมตีเป็นกฎหมายขายชาติ ทำให้ไทยเสียดินแดน ไม่ใช่ฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกระหน่ำเรื่องนี้อย่างหนัก เพราะใช้หาเสียงได้ ทั้งๆที่รัฐบาลทักษิณคือผู้ริเริ่ม
กฎหมายที่ดินที่ให้สิทธิคนต่างชาติซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่นั้น มีอยู่ในประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 96 ทวิ และกฎที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไข การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ. 2545 คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 153/2546 ลงวันที่ 21 เมษายน 2546 มาตรา 96 ทวิและมาตรา 96 ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ระเบียบกรมที่ดินว่าด้วยการได้มาซึ่งที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่อยูอาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ. 2545 และกฎกระทรวงฉบับที่ 7 ออกตามความใน พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497
กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไข การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ.ศ. 2545 ที่ออกตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 96 ทวิ ออกโดยสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยกำหนดเงื่อนไข การได้มาและถือครองที่ดิน ได้แก่ กลุ่มที่มีสิทธิ คือให้สิทธิการถือครองที่ดินคือกลุ่มที่รวย, กลุ่มเกษียณอายุ, กลุ่มที่ต้องการทำงานในไทย และกลุ่มมีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องนำเงินมาลงทุนในประเทศไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท ระหว่างปี 2545 ถึง 2565 ระยะเวลา 20 ปี ต่างชาติเข้าเกณฑ์เงื่อนไขและได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยเพียง 8 รายเท่านั้น การได้มาและสิ้นสิทธิในที่ดินของคนต่างด้าวเป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน
นับเป็นเรื่องแปลกประหลาด กลุ่มคนที่คัดค้านเรื่องนี้ กลับเป็นคนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ และอยากจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ นายทักษิณ กำเงินไปซื้อบ้าน ที่ดิน ในยุโรปหลายประเทศ ขนาดดาราของไทยยังซื้อบ้านที่ญี่ปุ่นหลายหลัง เพราะกฎหมายลักษณะนี้กลายเป็นกฎหมายสากลไปแล้ว ในโซเชียลชาว 3 นิ้วพากันด่ารัฐบาลว่าขายชาติ แต่กลุ่มคน 3 นิ้วได้ชื่อว่าอยากย้ายไปอยู่ต่างประเทศมากที่สุด คิดในมุมกลับ การไปปักหลักต่างประเทศต้องซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ถ้าใช้ตรรกะ 3 นิ้ว ก็แสดงว่า ประเทศปลายทางล้วนกำลังตกเป็นเมืองขึ้นของชาว 3 นิ้วใช่หรือไม่ นี่คือตัวอย่างความไร้เหตุผลของคนที่คัดค้าน...๐
ขณะที่พรรคเพื่อไทยยกข้ออ้าง บริบทรัฐบาลทักษิณ ที่เข้าบริหารประเทศในปี 2544 ภายหลังวิกฤตต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ตามข้อตกลงที่มีกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยเฉพาะเงื่อนไขที่ต้องแก้ไขกฎหมายในบางเรื่อง และชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ แต่การจะออกกฎกระทรวงของรัฐบาลขณะนี้ เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลตนเอง แปลความได้ว่า ถูกไอเอ็มเอฟบังคับให้ทำ แต่ทำไมพรรคเพื่อไทยนำเรื่องรัฐบาลชวนต้องออกกฎหมาย 11 ฉบับตามเงื่อนไขไอเอ็มเอฟมาด่าว่ากฎหมายขายชาติ นี่คือธาตุแท้พรรคเพื่อไทย กลุ่มการเมืองที่เจ้าของพรรคได้ประโยชน์จากการลดค่าเงินบาท หลังวิกฤตต้มยำกุ้ง...๐
เกษมราษฎร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



