จาก 'ยุทธการยึดเคอร์ซอน' สู่ 'รุกคืบเอาคืนไครเมีย'

หลังจากสามารถยึดเคอร์ซอน (Kherson) กลับจากทหารรัสเซีย, ยูเครนก็เกิดอาการฮึกเหิม ประกาศจะมุ่งหน้ายึดคาบสมุทรไครเมีย (Crimea) กลับจากรัสเซีย

นั่นแปลว่าสงครามยูเครนจะลากยาวไปอีก...ทำท่าจะข้ามฤดูหนาวไปถึงปีหน้า

และหากไม่มีเหตุการณ์ที่พลิกผันแบบคาดไม่ถึง ก็เชื่อได้ว่าการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะยืดเยื้อ และโศกนาฏกรรมสำหรับชาวยูเครนก็จะยังมองไม่เห็นจุดยุติได้

ยิ่งสงครามครั้งนี้มีการใช้อาวุธทันสมัยที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีมากขึ้นเท่าใด ก็ยิ่งทำให้เห็นว่าโอกาสที่ต่างฝ่ายต่างจะยอมเข้าสู่การเจรจาสงบศึกก็จะยากขึ้นเท่านั้น

ภาพที่ออกมาจากเคอร์ซอนคือ บรรยากาศของการเฉลิมฉลองชัยชนะของฝ่ายยูเครนหลังจากที่รัสเซียถอนกำลังจากเมืองเคอร์ซอน

โดยมอสโกอ้างว่าเป็นการ “ถอยเพื่อตั้งหลัก”

และไม่ต้องการให้มีการสูญเสียมากเกินความจำเป็น

อีกทั้งทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

ภาพและคลิปวิดีโอที่เผยแพร่กันในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง จะเห็นชาวเมืองเคอร์ซอนต้อนรับกองกำลังของยูเครนที่เดินทางเข้าเมืองมาตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา

ชาวเมืองจำนวนไม่น้อยออกมาแสดงความขอบคุณทหารยูเครนที่มา “ปลดแอก” พวกเขาจากการยึดครองของทหารรัสเซีย ซึ่งยาวนานมาตั้งแต่สงครามเริ่มต้นเมื่อกว่า 8 เดือนก่อน

หลายคนไม่เชื่อว่าจะมีวันนี้ เพราะได้ทำใจว่าจะต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซียอย่างถาวรแล้ว

จึงมีทั้งเสียงแสดงความยินดี, น้ำตาและการกอดกันอย่างปรีดาในการพลิกผันของสถานการณ์ไปเป็นรูปแบบที่คาดไม่ถึง

ก่อนหน้าที่ทหารยูเครนจะเข้าไปปักธงยูเครนที่กลาง “จตุรัสเสรีภาพ” (Freedom Square) ของเมืองเคอร์ซอน ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน บอกกับประชาชนของตนว่า

"วันนี้คือวันแห่งประวัติศาสตร์ เรากำลังได้เมืองทางตอนใต้ของเรากลับคืนมา เรากำลังได้เมืองเคอร์ซอนกลับคืนมา"

และเสริมว่า "ขณะนี้ทหารของเราอยู่บริเวณชานเมืองเคอร์ซอน และกำลังมุ่งหน้าเข้าใกล้เมือง แต่มีกองกำลังพิเศษของเราประจำการอยู่ที่นั่นแล้ว"

ฝ่ายรัสเซียแถลงว่า ยอมรับว่าได้ตัดสินใจถอนกองกำลัง 30,000 นาย ข้ามแม่น้ำดนิโปรโดยไม่เสียนายทหารไปแม้แต่คนเดียว

แต่ฝั่งยูเครนกลับแย้งว่า กองกำลังรัสเซียถอนตัวอย่างเร่งรีบและร้อนรน

หลายคนทิ้งเครื่องแบบและอาวุธไว้เบื้องหลัง

และยังอ้างว่าทหารรัสเซียบางคนจมน้ำขณะพยายามหนีข้ามแม่น้ำ

นักวิเคราะห์ทางทหารชี้ว่า นี่ถือเป็นการล่าถอยครั้งใหญ่ครั้งที่ 3 ของรัสเซียในสมรภูมิยูเครน

และเป็นครั้งแรกที่เป็นการถอนกำลังจากเมืองขนาดใหญ่อย่างเคอร์ซอน

เพราะที่ผ่านมาการล่าถอยส่วนใหญ่จะเป็นจุดการสู้รบที่เล็ก และไม่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เท่าครั้งนี้

ทหารยูเครนอ้างชัยชนะ เพราะสามารถตีโต้ขับไล่ทหารรัสเซียจากหลายแนวรบทางตะวันตกและทางใต้ของประเทศได้

ผมเห็นคลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดียที่มีผู้คนออกจากบ้านมาโห่ร้องแสดงความยินดี ประกาศต้อนรับนักรบกองกำลังยูเครนอันเป็นบรรยากาศการเฉลิมฉลองกลางจัตุรัสใจกลางเมืองเคอร์ซอน

บ้างก็มากอดทหาร บ้างก็ขอถ่ายรูปเซลฟี่กับนายทหาร

อีกคลิปหนึ่งเห็นชาวเคอร์ซอนชาย 2 คนแบกทหารหญิงขึ้นบนบ่าพร้อมทั้งโยนเธอขึ้นอากาศเพื่อแสดงความปลื้มปีติอย่างคึกคัก

ชาวบ้านอีกบางส่วนนำธงชาติยูเครนมาห่มตนเอง

คนอีกจำนวนหนึ่งร่ำไห้อย่างเปิดเผย เป็นน้ำตาแห่งความยินดีและชื่นชม

ฝ่ายข่าวกรองด้านความมั่นคงของยูเครนยืนยันว่า ทหารยูเครนกลับมาควบคุมเมืองเคอร์ซอนได้แล้ว

อีกทั้งสั่งให้ทหารรัสเซียที่ยังตกค้างในเมืองให้ยอมจำนนและมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ยูเครน

เซอร์ฮีย์ แคลน สมาชิกของสภาภูมิภาคเคอร์ซอนออกข่าวว่า เคอร์ซอนกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนอย่างเป็นทางการแล้ว

อีกทั้งบอกว่าทหารรัสเซียจมน้ำระหว่างพยายามข้ามแม่น้ำหลบหนีเป็นจำนวนมาก

ข่าวอีกบางกระแสบอกว่า ทหารรัสเซียบางคนทิ้งชุดทหาร เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าพลเรือนเพื่อแฝงตัวเองจากเจ้าหน้าที่ของยูเครน

มีคำเตือนทางการแนะนำให้ประชาชนอยู่กับบ้าน เพราะทหารยูเครนกำลังตามหากองกำลังรัสเซียที่ยังหลงเหลืออยู่

แต่ข่าวทางการจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมาอีกแนวหนึ่ง

เพราะมอสโกระบุว่า รัสเซียได้ถอนกำลังจากทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองเคอร์ซอนอย่างเป็นระบบ และเป็นไปตามแผนทุกประการ

และยืนยันว่ารัสเซียไม่ได้สูญเสียอาวุธยุทโธปกรณ์หรือกำลังพลจากการถอยร่นครั้งนี้แต่อย่างใด

อีกบางรายงานข่าวบอกว่า ขณะที่กำลังรัสเซียถอนทัพข้ามแม่น้ำนั้นก็ถูกฝ่ายยูเครนยิงโจมตีอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงกลาโหมรัสเซียแจ้งด้วยว่า ยูเครนใช้เครื่องยิงจรวด HIMARS โจมตีสะพานข้ามแม่น้ำ 5 ครั้งในช่วงข้ามคืน

มีภาพถ่ายดาวเทียมที่ยืนยันว่า สะพานบางแห่งและเขื่อนใหญ่ๆ ในบริเวณใกล้ๆ กันนั้นถูกถล่มเสียหาย

ไม่มีฝ่ายไหนยืนยันว่าเป็นฝีมือของตน

การที่ทหารยูเครนยึดเคอร์ซอนกลับมาได้สำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่ทางการยูเครนเคยบอกกล่าวในการแถลงข่าวก่อนหน้านี้

เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน โอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน บอกว่า จากการประเมินสถานการณ์ภาคพื้นดินของกองทัพยูเครน ทหารฝ่ายของตนจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะสามารถกดดันให้ทหารรัสเซียออกจากเมืองเคอร์ซอนได้

 “ยุทธการเคอร์ซอน” จึงกลายเป็น “กรณีศึกษา” สำหรับทุกฝ่ายในสงครามครั้งนี้อย่างมีนัยสำคัญยิ่ง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร

จีน-อินเดีย: 'สันติภาพร้อน' ที่ทำให้ร่วมแก้วิกฤตพม่าไม่ได้

วิกฤตพม่าทำให้ผมคิดถึงความความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียวันนี้ เพราะหากสองยักษ์แห่งเอเชียทำงานร่วมกัน ไทยก็อาจจะเป็นมือประสานให้เกิดกระบวนการเจรจาในพม่าได้

บทเรียนสีหนุวิลล์สำหรับไทย

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของจีนกับกัมพูชามาในหลายรูปแบบ...และหนึ่งในนั้นคือการสร้างสีหนุวิลล์เป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิง หรือที่เรียกว่า Entertainment Complex