เมื่อสี จิ้นผิง ‘สอนมวย’ ทรูโด : ‘การทูตหมาป่า’ ของจีนแผลงฤทธิ์

รูปนี้เผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียทั้งโลกอย่างกว้างขวางเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน

สื่อหลายแห่งพาดหัวว่า “สี จิ้นผิง เล็กเชอร์นายกฯ ทรูโดของแคนาดา”

บางสำนักอาจใช้คำว่า “สอนมวย” หรือ “สั่งสอน” เลยก็ว่าได้

ผมมองว่านี่เป็นหนึ่งของความเปลี่ยนแปลงสไตล์ทางการทูตของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่เพิ่มความกร้าวในการยกระดับ “การทูตตรงไปตรงมา” ของปักกิ่งอย่างเห็นได้ชัด

เรียกกันในวงการการทูตช่วงหลังว่า “การทูตแบบนักรบหมาป่า” หรือ Wolf Warrior Diplomacy

อันหมายถึงการทูตจีนที่จะตอบโต้ทุกข้อกล่าวหาจากตะวันตกอย่างหนักหน่วงและฉับพลัน

ชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน...อย่างน้อยก็ในรูปแบบของวิวาทะ

ปักกิ่งจะไม่ยอมนิ่งเฉยต่อสิ่งที่จีนเห็นว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสีตนจากตะวันตกอีกต่อไป อะไรทำนองนั้น

ในภาพนี้ สี จิ้นผิง เผชิญหน้ากับนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด นอกรอบการประชุม G20 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

นักข่าวบันทึกบทสนทนาอันตึงเครียดนั้นได้เกือบทุกประโยค

ในคลิปที่ผมมานั่งถอดความนั้น สี จิ้นผิง ต่อว่าต่อขานนายกฯ ทรูโด ว่า ทำไมรายละเอียดการหารือระหว่างเขา 2 คนจึง “รั่วออกไปปรากฏในสื่อมวลชน”

สี จิ้นผิง พูดต่อหน้านายกฯ แคนาดาว่า “อย่างนี้ไม่เหมาะสม เราไม่ทำอะไรอย่างนั้น” และเสริมตอนท้ายก่อนจะเดินจากไปว่า “เราต้องสร้างบรรยากาศให้เหมาะสม...”

ทำนองว่าการจะคบหากันนั้นต้องสร้างสิ่งแวดล้อมที่ไว้เนื้อเชื่อใจกันเสียก่อน

ความหมายคือผู้นำจีน “เล็กเชอร์” ผู้นำแคนาดาว่า การที่เรื่องที่คุยกันในที่ลับ และไม่มีข้อตกลงว่าจะมีการเผยแพร่นั้นเป็นเรื่องเสียมารยาท

ทำให้เห็นว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่จริงใจ ทำให้ขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน

เพราะที่สำคัญคือการ “สร้างบรรยากาศ” แห่งความเชื่อใจกันและกัน

สี จิ้นผิง พูดกับทรูโดเป็นภาษาจีน มีล่ามคอยช่วยแปลสดๆ ให้

คำต่อคำของคำตำหนิของสี จิ้นผิง คือ

“เรื่องที่เราหารือกันรั่วไหลไปสู่สื่อข้างนอกมันไม่เหมาะสม…หากฝั่งของคุณมีความจริงใจ เราก็ควรเปิดการหารือด้วยทัศนคติที่เคารพซึ่งกันและกัน มิฉะนั้น มันอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้”

สื่อตะวันตกบอกว่า ขณะที่ สี จิ้นผิง กล่าวเป็นเชิงตำหนิทรูโดนั้นก็ยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม

ผมดูคลิปย้อนหลังแล้วก็เห็นว่า สี จิ้นผิง ยิ้มจริง แต่เป็นยิ้มที่ไม่เป็นมิตรนัก

เหมือนผู้ใหญ่ต่อว่าคนที่ขาดความยั้งคิด และคล้ายๆ กับจะสอนว่าผู้มีวุฒิภาวะจะไม่ทำอย่างนั้น

ทรูโดไม่รอให้ล่ามจีนแปลคำพูดของสี จิ้นผิง จบ

เขาตอบทันควันว่า “สำหรับประเทศแคนาดา เราเชื่อมั่นใจการสนทนาที่เสรี เปิดเผย และตรงไปตรงมา”

และเสริมว่า “เราจะทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ต่อไป แต่อาจจะมีบางสิ่งที่เราเห็นไม่ตรงกัน”

ฟังดูแล้วเหมือนจะแก้ตัว เพราะทรูโดไม่ได้ตอบประเด็นที่สี จิ้นผิง ยกขึ้นมาต่อว่าเขา

นายกฯ แคนาดาไม่ได้บอกว่า ประเด็นการสนทนาของ 2 คนทำไมจึงหลุดออกไปถึงสื่อมวลชนได้

ทั้งๆ ที่สื่อทางการของทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้ออกข่าวเรื่องรายละเอียดของการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำทั้ง 2

ทรูโดต้องการจะเน้นว่า การพูดจาของเขากับสี จิ้นผิง นั้น เขาต้องพูดอะไรตรงไปตรงมา

แม้ในบางประเด็นจะมีความเห็นที่แตกต่าง

สี จิ้นผิง คงจะเคืองที่ข่าวหลุดออกจากฝั่งแคนาดาที่บอกว่าทรูโดวิพากษ์จีนเรื่องสิทธิมนุษยชน และประเด็นที่รัฐบาลจีนละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะในซินเจียงและฮ่องกง

รวมถึงประเด็นไต้หวัน

สำนักข่าวรอยเตอร์บอกว่า อีกประเด็นหนึ่งที่ สี จิ้นผิง ไม่พอใจนั้นอาจโยงกับรายงานจากหลายสำนักข่าวที่ว่า ทรูโดได้แสดงความกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งภายในของแคนาดา

ก่อนหน้านี้สื่อแคนาดาบางสำนักรายงานว่า หน่วยข่าวกรองแคนาดาตรวจพบ ‘เครือข่ายลับ’ ของผู้สมัครหลายคนที่ได้รับการสนับสนุนจากปักกิ่งในการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา

การหารือระหว่างผู้นำจีนกับแคนาดานอกรอบที่เวที G-20 ที่บาหลีนั้นไม่ได้จัดอย่างเป็นทางการ

หากแต่เป็นการนัดแนะพูดคุยกันประมาณ 10 นาที เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน

เพราะทั้ง 2 ประเทศมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกันมายาวนานในหลายประเด็น

เช่นกรณี เมิ่ง หว่านโจว หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของ Huawei ที่ถูกคุมขังอยู่ในแคนาดาเมื่อปี 2018 ในข้อหาที่โยงกับข้อมูลเทคโนโลยี

ต่อมาฝั่งจีนก็ตอบโต้ด้วยการควบคุมตัวชาวแคนาดา 2 คน

ท้ายที่สุดทั้ง 3 คนจะได้รับการปล่อยตัวในปีที่แล้ว

คำว่า “การทูตนักรบหมาป่า”หรือ 战狼外交  เป็นรูปแบบหนึ่งของการทูตแบบ ปะ ฉะ ดะ ที่กำลังกลายเป็นวิถีปฏิบัติของนักการทูตจีนในสมัยรัฐบาลสี จิ้นผิง

วลีนี้มาจากภาพยนตร์แอ็คชั่นจีนเรื่อง Wolf Warrior 2

ซึ่งเป็นแนวทางคนละแบบกับวิถีทางการทูตของจีนก่อนหน้านี้ในยุคของเติ้ง เสี่ยวผิง

ซึ่งเน้นการทูตแบบหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและการใช้วาทศิลป์แบบหลบเลี่ยงการเผชิญหน้า

มาถึงยุคของสี จิ้นผิง เห็นได้ชัดว่าพร้อมจะใช้ “การทูตแบบเผชิญหน้า” โดยเฉพาะกับตะวันตก

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตอบโต้ผ่านโซเชียลมีเดียต่อผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีน

อีกทั้งนักการทูตของจีนประจำประเทศต่างๆ ก็ปรับท่าทีด้วยการพร้อมจะให้สัมภาษณ์และตอบโต้ข้อกล่าวหาทุกประเด็นอย่างตรงไปตรงมา

ช่วงที่โควิด-19 เริ่มระบาด และตะวันตกกล่าวหาว่าเชื้อร้ายนี้มาจากจีน รัฐบาลจีนออกมาตอบโต้อย่างดุเดือด

โดยชี้ไปที่ปัญหาของรัฐบาลทางตะวันตกที่ไร้ประสิทธิภาพในการตั้งรับกับโรคระบาดและหันมาโยนบาปให้กับจีนแทน

ลีลาท่าทีและรอยยิ้มเจื่อนๆ ของสี จิ้นผิง ในภาพนี้ต่อหน้านายกฯ ทรูโดของแคนาดา สะท้อนถึง “การทูตนักรบหมาป่า” ได้อย่างชัดเจน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งบมะกันก้อนใหม่จะช่วยยูเครน พลิกสถานการณ์สู้รบได้แค่ไหน?

แม้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯจะเปิดไฟเขียวให้งบประมาณช่วยเหลือทางทหารก้อนใหม่ แต่ยูเครนก็ยังต้องดิ้นรนไม่ให้แพ้สงครามกับรัสเซีย

ทิม คุกบินไปเวียดนาม-อินโดฯ ทำไมไม่แวะประเทศไทย?

สัปดาห์ก่อน ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บินข้ามไทยไปเวียดนาม, อินโดนีเซียและสิงคโปร์ เพื่อสรุปแผนการลงทุนหรือเพิ่มกิจกรรมในประเทศเหล่านั้น

มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร