ไล่ออก ตร.อีกล็อต

เพราะยังมีเนื้อหาข้อเท็จจริงบางประเด็นที่สมควรจะเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้ศาลพิจารณา จึงจำเป็นต้องอุทธรณ์โดยมอบหมายให้เลขานุการ ก.ตร.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เนื่องจาก ก.ตร.และผู้เข้าร่วมประชุมได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ข้อกฎหมายครบถ้วน

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจในการประชุม ก.ตร. บิ๊กกอล์ฟ-พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการประชุม ก.ตร.รับทราบตามที่คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจด้านวินัย อุทธรณ์ ร้องทุกข์  และกฎหมาย รายงานข้อมูลการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของตำรวจเดือน พ.ย.65 มีตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น 14 นาย ซึ่งเป็นการไล่ออกจากราชการ 9 นาย และปลดออกจากราชการ 5 ราย โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย.65 มีตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น 229 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ 178  นาย และปลดออกจากราชการ 51 นาย รวมทั้งยังรับทราบการเลือกตั้ง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 ราย ซึ่งเป็น 2  ส่วน ส่วนแรกผู้ทรงคุณวุฒิในส่วนของตำรวจ 3 ราย จะคัดเลือกจากอดีตข้าราชการตำรวจที่เคยดำรงตำแหน่งตั้งแต่ผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าขึ้นไป และเป็นผู้ซึ่งพ้นจากความเป็นข้าราชการตำรวจไปแล้วเกิน 1 ปี มีการเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่ 21 พ.ย. - 5 ธ.ค.65 ส่วนที่ 2 ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นคนนอก จำนวน 3 ราย ก.ตร.จะร่วมกันหารือให้ได้รายชื่อจำนวน 6 ราย แล้วให้ข้าราชการตำรวจเลือกเหลือ 3  ราย ซึ่งจะมีการเลือกตั้งพร้อมกันในวันที่ 15 มี.ค.66 โดยข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผกก.ขึ้นไป เป็นผู้มีสิทธิ์เลือก  

ไม่รู้ว่าจะมี ตำรวจ อีกกี่รายต้องสังเวยคดีช่วยเหลือ  ตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา หลัง พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ  รอง ผบก.น.6 ซึ่งไปรักษาการ ผกก.สน.ยานนาวา ถูกเด้งเข้ากรุขาดจากตำแหน่งเดิม ด้วยข้อกล่าวหาปล่อยรถหรู จำนวน 4 คัน แลกกับเงิน 8 ล้านบาท ล่าสุด บิ๊กเด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งแต่งตั้งให้ บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณี รองณัฐพล  พร้อมมอบหมาย บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง  ผบ.ตร.กำกับดูแล บิ๊กเด่น ยืนยันหากพยานหลักฐานไปถึงใครก็จะต้องมีการดำเนินคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจระดับใหญ่หรือระดับเล็ก “ถ้ามองในแง่ดีก็คือ เหมือนเป็นการเก็บกวาดบ้านทำให้ภาพลักษณ์ดีขึ้น อยากให้มองในมุมมองนี้” บิ๊กเด่น ตอบสื่อถึงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพลักษณ์ตำรวจหรือไม่ 

สังเวยเข้ากรุอีกราย! พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล  ผบช.ภ.9 มีคำสั่งตำรวจภูธรภาค 9 ที่ 502/2565 ให้  พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส ไปช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส โดยขาดจากบังคับบัญชาตำแหน่งเดิม กรณีเกิดเหตุคาร์บอมบ์บริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เป็นเหตุให้ข้าราชการและประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย และมีตำรวจเสียชีวิต 1 ราย จนส่งผลให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และขาดความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งมอบหมายให้ พ.ต.อ.รณน สุรวิทย์ ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส 

บิ๊กตุ๊ด-พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ.เป็นประธานในพิธีครบรอบ 50 ปีเครื่องบินโจมตีและธุรการ  AU-23 ที่กองบิน 5 อ่าวมะนาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เลยถือโอกาสจัดงานพบปะสังสรรค์กับสื่อมวลชนที่อาคารพักรับรองสวัสดิการทหารอากาศฯ ไปในคราวเดียว นอกจากจะย้อนรำลึกถึงการเต้นเข้าจังหวะ บัดสลบ แบบประยุกต์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สื่อ  และคณะ ทอ.แล้ว ก่อนเข้างานยังกล่าวแนะนำผู้ร่วมคณะในครั้งนี้ด้วย ส่วนใหญ่เป็นนายทหารในสายงานกิจการพลเรือน รวมถึง “บิ๊กจ๋า” พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร  ผช.ผบ.ทอ.ที่ดูสายงานนี้ ซึ่งโผโยกย้ายเดือน ต.ค. บิ๊กจ๋าก็เป็นอีกหนึ่ง “ม้ามืด” ที่ขึ้นจากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ มานั่งในทำเนียบ 5 เสือ ทอ. ตัวเต็งแคนดิเดท ผบ.ทอ. คู่กับ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ​ เสนาธิการทหารอากาศ น้องรักสายนักวิ่งของ บิ๊กป้อง-พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.คนที่แล้ว  

ในงานพบปะสังสรรค์ที่กองบิน 5 “บิ๊กตุ๊ด” ร่ายโปรไฟล์ “บิ๊กจ๋า” ที่ครบเครื่อง ทั้งเป็นนักบินไฟเตอร์ F-16  ฝูงบิน 403 ผ่านงานทั้งกรมยุทธการ กรมข่าว เคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารเยอรมัน ก่อนสื่อจะแซวว่าแนะนำ ผบ.ทอ. คนใหม่หรือเปล่า จนสร้างเสียงหัวเราะกันทั้งงาน ทำให้  “บิ๊กตุ๊ด” ต้องขยายความว่าการตัดสินใจนี้เป็นช่วงที่ลำบากใจเป็นอย่างมาก พร้อมพูดติดตลกว่า อยากเกษียณตั้งแต่เดือนสิงหาคมเลย เพราะต้องเลือกเพียงคนเดียว น้องๆ ซึ่งเก่งทั้งนั้นก็ต้องมีคนเสียใจ มันก็เหมือนเป็นบาดแผลในใจ   เพราะมีคนที่พลาดหวังและเสียใจ ฟังน้ำเสียง “บิ๊กตุ๊ด” แล้ว คงเป็นคนจิตใจดีและอ่อนโยน ตามที่ “บิ๊กป้อง” เคยว่าไว้   ยิ่งต้องมาเจอปม โผทหาร ที่พัวพันกันมาตั้งแต่ช่วง 3-4  ปีที่ผ่านมา ว่าด้วยเรื่อง คนกันเอง และความผูกพันส่วนตัว กลายเป็นโจทย์ที่ถูกตั้งคำถามในแวดวงทุ่งดอนเมืองอยู่ไม่น้อย ปลายปีนี้ “บิ๊กตุ๊ด” จะถอดสลักได้หรือไม่ หรือในที่สุดก็ต้องเดินตามแนวทางเดินของผู้มีพระคุณ  

กำลังดุเดือดในศึก สายสีเขียว เลยทีเดียว แต่ “คีรี  กาญจนพาสน์” ประธานกรรมการบริหารของบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ก็ปลีกตัวเข้ามาที่วังเดิม กองทัพเรือ เพื่อพบปะกับ บิ๊กจ๊อด-พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. และมอบเงินสนับสนุน 20 ล้านบาทให้กองทัพเรือ เพื่อนำไปพัฒนาสวัสดิการให้บุคลากร พร้อมทั้งหารือความคืบหน้าการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทร.ได้จัดทำแบบทางวิ่งที่ 2  และทางขับสำหรับโครงการเสร็จแล้ว และเตรียมออกประกาศเชิญชวนการประกวดราคาหาผู้รับเหมา นอกจากนั้น ทร.ยังให้การสนับสนุนพื้นที่รองรับการขนถ่ายดิน-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเดิม เพื่อให้การเตรียมพื้นที่โครงการฯ ไม่กระทบต่อชุมชนโดยรอบสนามบิน และขณะนี้ UTA ได้ดำเนินการสำรวจรังวัดพื้นที่ภายในโครงการเรียบร้อยแล้ว  ก่อนรับมอบพื้นที่ ส่วนการพัฒนาอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3  เห็นตรงกันว่าต้องทำให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนพื้นที่ก่อสร้างในบริเวณใกล้เคียง อาทิ คลังสินค้า โรงเก็บ และโรงซ่อมเครื่องบิน รวมถึงรันเวย์ที่จะมีการหารือร่วมกันในการจัดทำแผนเพื่อสร้างรายได้ และสร้างฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพัฒนาโครงการเทอร์มินัล 3

เก็บตกประชุมสภากลาโหม มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม เป็นประธานแทน รมว.กลาโหม ที่ลงพื้นที่ในนามของนายกฯ ที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยอนุมัติส่งนายทหารส่งกําลังบํารุง-เทคนิคด้านกระสุน 1 นาย ตามคำขอสหประชาชาติ ภารกิจกองกําลังสังเกตการณ์แยกกําลังทหารของสหประชาชาติ (United Nations  Disengagement Observer Force:  UNDOF) ซึ่งเป็นภารกิจในการสังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิง ถอนกําลังระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย ในเขตปลอดทหารบริเวณที่ราบสูงโกลัน ซึ่งปัจจุบันมีกําลังพลในภารกิจจํานวน 1,248 นาย เป็นกําลังทหาร 1,123 นาย  และฝ่ายพลเรือน 125 นาย โดยการสนับสนุนกําลังพล เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่นี้เป็นการสนับสนุนรายบุคคล ไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจด้านการป้องกันประเทศและการรักษาความมั่นคงภายใน