บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด เริ่มต้นที่ข่าวดีสำหรับประเทศไทย อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องในภาคการท่องเที่ยว ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่า 10 ธ.ค.นี้ จะอยู่ที่ 10 ล้านคนตามเป้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้เป็นที่น่ายินดีที่ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ โดยทางฟิทช์คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะขยายตัวอยู่ที่ 3.3% และจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.8% ในปี 2566 จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ และอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มผ่อนคลาย

๐…ต่อเนื่องที่ความเคลื่อนไหวของผู้นำรัฐบาล ชัดเจนว่า นายกฯ ลุงตู่ ไปต่อแน่ในการเลือกตั้งอีก 2 ปี ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องการดำรงตำแหน่งเอาไว้ สื่อทำเนียบฯ ถามถึงความตั้งใจจะเล่นการเมืองต่อ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า ถึงวันนี้ก็น่าจะพอรู้มั้ง ทั้งยังบอกด้วยว่า 2 ปีก็จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และจากนั้นต่อมาก็จะมีคนใหม่ที่เหมาะสม ที่ประชาชนยอมรับและทำต่อแค่นั้นเอง และเมื่อเจอนักข่าวยิงคำถามจะสังกัดพรรคการเมืองใช่หรือไม่ นายกฯ พยักหน้า พร้อมบอกว่า “เออๆ” ก็ไม่รู้นายกฯ ตอบจริงๆ หรือปัดรำคาญ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้บรรดาแม่ยกพ่อยกฟินกันหมดแล้ว อย่างน้อยๆ ก็รับรู้จากปากว่า “นายกฯ” ยังโลดแล่นในถนนการเมืองต่อไป 

๐…ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย กะใช้โอกาสนี้ให้ แม่นายอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โชว์วิชั่นให้คู่แข่งจึ้งเสียหน่อย แต่เหมือนโชคจะไม่เข้าข้าง “หัวหน้าอิ๊งค์” ตั้งเป้าปี 2570 คนไทยต้องได้ค่าแรงขั้นต่ำให้สมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย คือไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน เงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป แต่ยังไม่ทันข้ามวันเจอ พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ออกมาเบรกหัวทิ่ม ฝากถึงทุกพรรคการเมืองอย่านำเรื่องค่าแรงขั้นต่ำมาหาเสียง เล่นการเมือง ทั้งยังตอกกลับเสียอีกว่าคนหาเสียงไม่ได้เป็นคนจ่าย แต่คนจ่ายซึ่งไม่เกี่ยวข้องด้วยดันมารับภาระแทน แถมยังตบท้ายสอนมวยว่า การขึ้นค่าแรงมันมีระบบระเบียบอยู่ มีสูตรคำนวณเฉพาะ จะมาพูดจาไม่คิดแบบนี้ไม่ได้ มิเช่นนั้นพังทั้งประเทศ  

๐…ปิดท้ายที่การช่วงชิงหาเสียงทางการเมือง “ภูมิใจไทย” เป็นพรรคการเมืองที่พร้อมที่สุดและคึกที่สุดในตอนนี้ วันหยุด weekend ที่ผ่านมา ล่องใต้ไปภูเก็ตแล้วต่อเนื่องไปนครพนม ไม่รู้ได้แรงบันดาลใจ หรือใจบันดาลแรงจากสิ่งไหนถึงได้มีเรี่ยวแรงขนาดนี้ แต่แล้วก็เกิดเหตุขึ้นจนได้ เมื่อ สหายแสง-ศุภชัย โพธิ์สุ ปราศรัยบนเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย หยามเกียรติ ส.ส.เพื่อไทย พรรคคู่แข่งว่าโง่แล้ว ใจความสำคัญยังอยู่ที่ว่า “ครูแก้ว” ศุภชัย ยังเฉลยซะอีกว่าที่งบประมาณไหลมาที่นครพนมเยอะ ก็เพราะมี ส.ส.ของภูมิในไทยไง ฉะนั้นถ้าอยากได้งบพัฒนาเยอะๆ ก็เลือกฝ่ายรัฐบาล เลือกภูมิใจไทย รับประกันเจริญทัดเทียดจังหวัดอื่นแน่นอน แหม ฟังแบบนี้แล้วมันเดจาวูชัดๆ เป็นรัฐบาลก็ต้องดูแลทุกจังหวัดสิ อ้อ สงสัยอีกเรื่องที่ปราศรัยแบบนี้ ยังจำได้ใช่ไหมว่ายังเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่นะ เบาๆ หน่อยก็ดี ยังไงก็ต้องมีความเป็นกลางนะทั่น.  

ปราชญ์ศรี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.