ยูเครนถล่มเป้าหมายในรัสเซีย... สงครามกำลังขยายวง

ตกลงใครคือเจ้าของโดรนที่เข้าไปถล่มสนามบินและฐานทัพอากาศของรัสเซียเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา?

รัฐบาลยูเครนนิ่งเฉย ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธว่าเป็นฝีมือของตัวเอง     ทั้งๆ ที่น่าจะประกาศชัยชนะเหนือระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียด้วยซ้ำ

แต่เพราะสหรัฐและตะวันตกอื่นๆ ไม่ต้องการให้ยูเครนอวดอ้าง “ความสำเร็จ” เหนือรัสเซีย จึงทำให้ต้องแสดงท่าที “นิ่งเฉยแบบดังกระหึ่ม”

ฝ่ายสหรัฐฯ เองก็ออกมาอ้างว่า วอชิงตัน “ไม่สนับสนุน” และ “ไม่ช่วยเสริมศักยภาพ” ของยูเครนในการเข้าโจมตีเป้าหมายในดินแดนของรัสเซีย

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ออกมาพูดเองว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ encourage หรือ enable ยูเครนให้สามารถเข้าไปโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย

แปลว่าไม่ส่งเสริมและสนับสนุน อีกทั้งไม่ช่วยเสริมศักยภาพทางทหารให้มีความสามารถทำเช่นนั้นได้

โดยระบุว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ "เปิดทาง" ให้ยูเครนดำเนินการโจมตีในรัสเซีย หลังจากมีโดรนโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับการทหารที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เรียกประชุมสภาความมั่นคงหลังสนามบิน 3 แห่งถูกโจมตีด้วยโดรน

แม้กรุงเคียฟจะไม่ได้อ้างความรับผิดชอบโดยตรง แต่ก็ไม่ได้วิจารณ์ปฏิบัติการครั้งนี้ที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่าได้คร่าชีวิตผู้คนไป 3 ราย และสร้างความเสียหาย “เล็กน้อย” ให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ปฏิบัติการระยะไกลได้และคลังเชื้อเพลิง

ก่อนหน้านี้วอชิงตันระงับไม่ให้ส่งขีปนาวุธ ATACMS พิสัยไกลให้กับกองกำลังยูเครน ซึ่งอาจยิงไกลได้ถึงเป้าหมายในรัสเซีย

ก็เพราะกลัวว่าอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างกองกำลังรัสเซียกับกองกำลังของสหรัฐฯ และนาโต

สัปดาห์ก่อนมีรายงานว่าเพนตากอนแอบปรับแก้ระบบจรวดทันสมัยประสิทธิภาพสูง HIMARS ของตนอย่างลับๆ ก่อนส่งมอบให้ยูเครน

เพื่อป้องกันมิให้นำไปใช้โจมตีเมืองต่างๆ ของรัสเซีย

แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ายูเครนสามารถดัดแปลงโดรนสอดแนมยุคโซเวียตรุ่น Tu-141 ที่ใช้ในการโจมตีฐานทัพในภูมิภาค Ryazan และ Saratov ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครน 300 และ 600 ไมล์

และต่อมาไม่กี่วันก็มีการโจมตีอีกครั้งที่ภูมิภาคเคิร์สต์และไบรอันสค์ ซึ่งใกล้กับแนวหน้าของสมรภูมิสู้รบ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บลิงเคนอาจจะปฏิเสธว่าอเมริกาไม่ได้ช่วยส่งเสริมยูเครนให้โจมตีในดินแดนรัสเซียได้

แต่ก็น่าสังเกตว่า เขาก็ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์การโจมตีที่ว่านี้

เพียงแต่ย้ำว่าสหรัฐฯ ตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้ยูเครนมีอาวุธและอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ “เพื่อการป้องกันตนเอง เพื่อปกป้องดินแดนของตน เพื่อปกป้องอิสรภาพของยูเครน”

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ พูดเบากว่านั้นอีก

เขาบอกว่าวอชิงตันไม่ได้ทำอะไรที่จะป้องกันไม่ให้ยูเครนสร้างศักยภาพที่จะโจมตีเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปจากดินแดนของตน

ความหมายคือ อเมริกาไม่ได้ช่วยยูเครนโจมตีรัสเซีย แต่ก็ไม่ได้ห้ามยูเครนพัฒนาขีดความสามารถในปฏิบัติการระยะไกล

ตีความได้ว่าสหรัฐฯ อาจจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หากยูเครนสร้างสมความสามารถที่จะโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย

แต่วอชิงตันไม่เกี่ยวนะ!

แน่นอนว่าจะให้รัสเซียเชื่อน้ำคำของ 2 รัฐมนตรีสหรัฐฯ นี้ก็คงยาก

เพราะการโจมตีเป้าหมายรัสเซียที่เป็นสนามบินและฐานทัพทางทหารโดยโดรนนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากดินแดนของยูเครน และถือได้ว่าเป็นการโจมตีอย่างโจ่งแจ้งที่สุดในดินแดนของรัสเซียในสงครามที่ดำเนินมา 9 เดือนแล้ว

โดยกำหนดเป้าหมายฐานทัพทหาร 2 แห่งที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรในรัสเซียด้วยโดรน

สื่อ New York Times อ้างข้อมูลชุดนี้จากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทรวงกลาโหมรัสเซียและเจ้าหน้าที่อาวุโสของยูเครน (ที่ไม่ต้องการให้ระบุชื่อเสียงเรียงนาม)

สื่อสหรัฐฯ แห่งนี้ระบุว่า โดรนถูกปล่อยจากดินแดนยูเครนแน่นอน

และปฏิบัติการโจมตีอย่างน้อย 1 ใน 3 ครั้งเกิดขึ้นด้วยความช่วยเหลือของ “กองกำลังพิเศษใกล้กับฐานทัพ” ของอเมริกา

โดยช่วยนำทางโดรนไปยังเป้าหมายให้แม่นยำ

การโจมตีครั้งนี้ส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นครั้งใหม่ของยูเครนที่จะเดินหน้าขยายวงสงครามเพื่อยึดฐานทัพในใจกลางรัสเซีย

เป็นการเพิ่มเดิมพันในสงครามและความเสี่ยงอย่างชัดเจน

อีกทั้งยังสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นของความสามารถในการโจมตีระยะไกลที่ดีขึ้น

หลังจากยูเครนถล่มโจมตีฐานทัพรัสเซียได้ไม่นาน มอสโกก็ส่งขีปนาวุธจำนวนมากพุ่งเข้าใส่เมืองต่างๆ ของยูเครนเป็นการตอบโต้อย่างฉับพลันทันทีเช่นกัน

กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่า อาวุธที่ยูเครนใช้ครั้งนี้คือโดรนยุคโซเวียตที่ปรับใช้ให้สอดคล้องกับปฏิบัติการปัจจุบัน

โดยมีเป้าหมายที่ฐานทัพอากาศในเมือง Ryazan และ Engels ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนประมาณ 500 กิโลเมตร

รัสเซียอ้างว่ากองกำลังของตนสกัดกั้นโดรนได้

แม้ว่าสะเก็ดจากระเบิดและซากเครื่องบินทำให้เครื่องบิน 2 ลำ “ได้รับความเสียหายเล็กน้อย”

ทำให้ทหารเสียชีวิต 3 นาย และบาดเจ็บอีก 4 นาย

ฐานทัพอากาศ Engels แห่งนี้ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโวลกาทางตอนใต้ของรัสเซีย

เป็นฐานสำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกลที่มีความสามารถด้านนิวเคลียร์ของรัสเซีย รวมถึง Tupolev-160 และ Tupolev-95

เจ้าหน้าที่ยูเครนที่ไม่ประสงค์จะออกนามนี้บอกกับสื่อสหรัฐฯ ว่า ฐานทัพแห่งนี้เป็นจุดที่รัสเซียใช้เป็นแหล่งรณรงค์โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครนด้วยขีปนาวุธที่มีผลทำให้ชาวยูเครนหลายล้านคนต้องได้ผลกระทบอย่างแรงคือ ไฟดับและขาดแคลนน้ำ และความอบอุ่นในหน้าหนาวอันหนาวเหน็บขณะนี้

สื่อทางการรัสเซียบอกว่า อีกจุดหนึ่งที่ถูกโครนถล่มคือ ฐานทัพ Dyagilevo ในใจกลางเมือง Ryazan ห่างจากมอสโกประมาณ 150 กิโลเมตร

อีกจุดหนึ่งที่ถูกโจมตีโดยโดรนคือ สนามบิน Kursk ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนยูเครน

โดรนทิ้งระเบิดใส่คลังน้ำมัน ทำให้เกิดไฟไหม้ ทำลายแหล่งเก็บน้ำมันเพื่อการทหารที่สำคัญ

สนามบิน Kursk อยู่ห่างจากชายแดนยูเครนเพียง 150 กิโลเมตรเท่านั้น

เชื่อได้ว่าเมื่อยูเครนบุกถล่มลึกเข้าไปในรัสเซียอย่างเปิดเผยเช่นนั้น แม้จะไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการ มอสโกก็คงจะต้องตอบโต้อย่างดุเดือด

และสงครามก็อาจจะบานปลายขยายวงไปสู่การเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างรัสเซียกับนาโต

ความพยายามใดๆ ที่จะจำกัดวงการสู้รบในยูเครนกำลังจะล้มเหลวอย่างน่ากังวลยิ่ง!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งบมะกันก้อนใหม่จะช่วยยูเครน พลิกสถานการณ์สู้รบได้แค่ไหน?

แม้ว่ารัฐสภาสหรัฐฯจะเปิดไฟเขียวให้งบประมาณช่วยเหลือทางทหารก้อนใหม่ แต่ยูเครนก็ยังต้องดิ้นรนไม่ให้แพ้สงครามกับรัสเซีย

ทิม คุกบินไปเวียดนาม-อินโดฯ ทำไมไม่แวะประเทศไทย?

สัปดาห์ก่อน ทิม คุก ซีอีโอของ Apple บินข้ามไทยไปเวียดนาม, อินโดนีเซียและสิงคโปร์ เพื่อสรุปแผนการลงทุนหรือเพิ่มกิจกรรมในประเทศเหล่านั้น

มะกันทุ่ม 3.5 ล้านล้านบาท ให้ยูเครน, อิสราเอล, ไต้หวัน!

งบประมาณก้อนใหญ่ที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อนุมัติเพื่อช่วยยูเครน, อิสราเอล และไต้หวันเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะช่วยลดความกังวลของยูเครนว่ากำลังจะแพ้สงครามได้หรือไม่...ยังต้องคอยดูของจริงในสมรภูมิรบต่อไป

เชื่อไหม:อิสราเอลกับ อิหร่านเคยรักกัน?

อิสราเอลกับอิหร่านเปิดศึกสงครามที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกวันนี้ มีคำถามว่าทั้ง 2 ชาตินี้กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอย่างรุนแรงเช่นนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ และมีเหตุผลแห่งความบาดหมางกันอย่างไร