บันทึกหน้า4

ยามนี้ต้องเรียกว่าฝุ่นตลบเป็นอย่างยิ่งสำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมือง ซึ่งปัจจัยหลักก็มาจากกฎหมายลูกนั่นแล โดยเฉพาะสูตรคำนวณหากท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ จะต้องหาร 100 แทนที่หาร 500 แล้วมีการปัดเศษ งานนี้เลยทำให้มีการวิ่งเข้าหา วิ่งต่อรองกันจ้าละหวั่น โดยเฉพาะบรรดาพรรคเล็ก พรรคน้อย รวมถึงบรรดาพรรคเกิดใหม่ด้วย ...๐

โดยเฉพาะ พรรคสร้างอนาคตไทยของ “ป๋าดัน” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 2 กุมารอย่าง “อุตตม สาวนายน” และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” ซึ่งดูเหมือนดีลควบรวมกับ “ไทยสร้างไทย” ของหญิงหน่อย “สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ที่อุตส่าห์คุยมาเป็นแรมเดือนพังไม่เป็นท่าไปซะแล้ว ซึ่งก็เหมือนกับที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตรองหัวหน้าพรรค สอท.ที่เพิ่งย้ายรังไปอยู่กับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุไว้นั่นแลว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของป๋าดันจากเดิมเป็นเบอร์ 1 กลับไปเป็นเบอร์ 2 และอาจถึงเบอร์ 3 ของการรวมกับ ทสท.ด้วย ...๐

แม้ล่าสุด “สนธิรัตน์” จะยืนยันว่า “สร้างอนาคตไทย” ยังไปต่อในทางการเมือง ไม่มีแพแตก และดีลรวมพรรคคืบหน้า ซึ่งกระแสก็มองไปที่ชาติพัฒนากล้า (ชพนก.) ในบังเหียนของ “กรณ์ จาติกวณิช” และ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และ อุปสรรคก็เป็นเช่นเดียวกับกรณี “ไทยสร้างไทย” นั่นเอง คือการเป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ไหน ซึ่งหากมาควบรวมก็ต้องรั้งอยู่ในอันดับ 2 และ 3 ซึ่งจะยอมได้หรือ ที่สำคัญหากรวมแล้วจะชื่อว่าอะไร “ชาติพัฒนากล้าสร้างอนาคต” ยาวเฟื้อยดีแท้เจ้าพระคุณ ...๐

หันมาส่องความเคลื่อนไหวในแวดวงหมาต๋ากันบ้าง โดยเฉพาะกรณี “ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์” หรือตู้ห่าว ที่มี “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” รอง ผบ.ตร.เป็นโต้โผในช่วงนี้ ระบุว่าผลการสอบสวนขยายผลคืบหน้าไปกว่า 90% ที่สำคัญไม่มีความผิดอาชญากรรมข้ามชาติด้วย งานนี้คงทำให้ เสี่ยอ่าง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” อาจต้องออกอาการควันออกหูอีกแน่นอน แต่ที่ชาวบ้านเขาอยากรู้กันอย่างมากก็คือ ชื่อของเพื่อนร่วมรุ่นบิ๊กโจ๊กที่เป็น “นายพล” ซึ่งมีเอี่ยวกับกลุ่มธุรกิจคนจีนสีเทาที่ปูดออกตั้งนาน จนป่านนี้กลับไม่มีการเผยชื่อแต่ประการใดเลย ทำให้บรรดาขาเมาธ์คิดกันไปไกลว่าจะมีการเป่าหรือเคลียร์ให้เรื่องเงียบหายไปหรือไม่อย่างไร ...๐

แวดวง “สีกากี” ยังไม่หมดข่าวฉาว เพราะยังมีเรื่องของ การทุจริตการสอบนายสิบในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 และล่าสุดก็พบการทุจริตสอบตำรวจฝ่ายอำนวยการสังกัด กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อีก และเชื่อว่ายิ่งคุ้ยเข้าไปเท่าใดก็อาจเจองานงอกออกมาเท่านั้น งานนี้ต้องบอกว่า บิ๊กเด่น “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เจอพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกกันเลยทีเดียว ซึ่งเดิม “โหงวเฮ้ง” ของ ผบ.ตร.ก็เป็นแนววิชาการและบริหาร ไม่ใช่แนวพะบู๊อยู่แล้ว แต่ไปๆ มาๆ กลับต้องมาเผชิญสารพัดเรื่องที่ต้องออกแรงอย่างหนักทีเดียว ก็ถือว่าเป็น “หินลองทอง” ให้บิ๊กเด่นก็แล้วกัน ...๐

วกกลับมาสู่การเมืองกันอีกรอบ เพราะเพิ่งเคยเจอในช่วงใกล้เลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่นับญาติกันแล้ว ต่างพรรคต่างขวนขวายหาเสียงหาคะแนน แต่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกลกลับกระโดดเกาะพรรคเพื่อไทยซะอย่างนั้น โดยอ้างเป็นพรรคประชาธิปไตยด้วยกัน “มีความสัมพันธ์อันดีกันมาตลอดตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน และหวังว่าในอนาคต เมื่อเราเริ่มแถลงนโบายก็มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกัน ถ้าเราเป็นรัฐบาลร่วมกันก็สามารถแบ่งงานกันทำได้ และทำงานไปในทิศทางเดียวกันได้” เรียกว่าเป็นมิติใหม่ในแวดวงการเมืองทีเดียว ...๐

ที่สำคัญสงสัยว่า “พรรคเพื่อไทย” จะแลนด์สไลด์จริงเลยต้องรีบโหน รีบโดดเกาะกันเลยเชียว เพราะ “ก้าวไกล” คงรู้ตัวยามนี้ไม่ต่างจากหมาหัวเน่า ที่ไม่มีใครอยากจับมือด้วยหลังจากเปิดนโยบายออกมา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขมาตรา 112 หรือล่าสุดในนโยบายปฏิรูปข้าราชการ โดยเฉพาะเรื่องตำรวจที่จะทวงคืนทรงผม รวมทั้งการให้สภาผู้แทนราษฎรแต่งตั้ง ผบ.ตร.นั้น “พิธา” เคยสอบถาม “เพื่อไทย” โดยเฉพาะนายเหนือดูไบว่าจะเอาด้วยหรือไม่ ที่สำคัญหากจับมือกันจริงๆ อยากรู้ว่า “รังสิมันต์ โรม” ทั่นผู้แทนฯ ที่ชอบชำแหละเรื่องตั๋วช้างนั้น หากย้อนไปในอดีตกรณี “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” อดีต ผบ.ตร. จะเรียกว่าตั๋วอะไรดีเล่า แล้วอย่างนี้ทั่นโรมจะกลืนน้ำลายตัวเองในการจับไม้จับมือกับพรรคเพื่อไทยได้หรืออย่างไร ...๐

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.