บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net Line ID : @thaipost เช็กกันรายวัน ล่าสุดยอดตัวเลข ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรได้ อยู่ที่ 438 คน หลังนายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ เขต 2 พรรคเศรษฐกิจไทย ลาออกจากความเป็นส.ส. ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.65 ทำให้องค์ประชุมกึ่งหนึ่งคือ 219 คน คงได้เห็น ส.ส.ไขก๊อก ย้ายเข้าสังกัดพรรคใหม่กันเรื่อยๆ นับเวลาถอยหลังสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25 สมาธิจดจ่อแต่การเลือกตั้งสมัยหน้า ปรากฏการณ์สภาล่มซ้ำซาก กลายเป็นเรื่องคุ้นชินไปซะงั้น กฎหมายสำคัญค้างสภาเพียบ ประธาน "ชวน หลีกภัย" ต้องออกโรงนั่งหัวโต๊ะประชุมวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน ก่อนจะคลอดมติให้นัดประชุมสภาวาระพิเศษ พุธที่ 28 ธ.ค.นี้ เลื่อนร่างกฎหมายที่วุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมเสร็จแล้ว 5 ฉบับ 

ขึ้นมาพิจารณาก่อน คือ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ร่าง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย ร่าง พ.ร.บ.สถาปนิก ร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ส่วนกฎหมายกัญชาฯ ที่สุดแสนอืด กระดืบถึงแค่มาตรา 7/4 จากทั้งหมด 95 มาตรา ขยับไปถก ม.ค.ปีหน้าแทน โอกาสปิดจ๊อบในรัฐบาลนี้ดูริบหรี่ ขณะที่สภาสมัยประชุมนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 28 ก.พ.2566 นอกจากมีกฎหมายสำคัญหลายฉบับที่รอจ่อคิวแล้ว วันพุธหน้าฝ่ายค้านก็จะยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ลับมีดรอชำแหละรัฐบาลช่วงกลางเดือนมกราคม

๐  "กฎเหล็ก กกต. 180 วัน" กลับมาเป็นประเด็นพูดถึงอีกครั้ง หลังเกิดกรณี "สายัณห์ ยุติธรรม" ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ใจร้อน ตัวยังอยู่ พปชร. แต่รีบทำปฏิทินรูปคู่กับ "บิ๊กตู่" พร้อมโลโก้พรรครวมไทยสร้างชาติ แม้เจ้าตัวแจงว่าแค่ออกแบบกราฟิกเท่านั้น ยังไม่ได้แจกให้ประชาชนสักใบ เข้าทาง "พี่ศรี" ไม่พลาดไปยื่นร้อง กกต.เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ถึงจะเป็นภาพหลุดแต่ได้ถูกเผยแพร่ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว เล่นเอา ส.ส.พปชร. ว่าที่สมาชิก รทสช. ควันออกหูประกาศลั่นไม่ให้ค่านักร้องคนดัง แถมเหน็บให้ไปร้องงานใหญ่ๆ บ้างเผื่อจะได้ถ้วยทอง แต่คงจะพอเบาใจได้ถ้าฟังจากที่เลขาธิการ กกต. "แสวง บุญมี" ชี้แจง "รูปแบบเป็นปฏิทิน แต่เขายังไม่ได้ทำเป็นปฏิทิน และเท่าที่ฟังคำชี้แจงของเขาแล้วที่บอกว่าทำเป็นป้าย ซึ่งรูปแบบของป้ายทำในเชิงปฏิทินก็ได้ หรือถ้าเป็นรูปแบบปฏิทินแล้วไปหาเสียงในโซเชียลก็ได้ แต่ปฏิทินแบบเดิมๆ แล้วนำไปแจกไม่ได้ เพราะนั่นจะถือเป็นทรัพย์สินแล้ว แต่ถ้าอยู่ในโซเชียลเป็นป้ายได้ เพราะไม่ได้แจกประชาชน มันเป็นการสื่อถึงประชาชน อวยพรประชาชนในเทศกาลปีใหม่ ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร" สุดท้ายจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ก็เป็นหน้าที่ กกต.ตรวจสอบต่อไป แต่เคสนี้อย่างน้อยคงทำให้ ส.ส. ผู้สมัคร หรือรัฐมนตรีทั้งหลายได้ระวังตัวกันมากขึ้น กับการหมิ่นเหม่หาเสียงในช่วงเทศกาลปีใหม่ น่าจะต้องไปศึกษาเนื้อหากฎเหล็ก 180 วัน กันอีกรอบ

๐ สิ่งที่ทำได้-ข้อควรระวัง ตามที่ กกต.ประกาศไว้ใน "แนวทางการปฏิบัติและข้อควรระวังในช่วงระยะเวลาการหาเสียงเลือกตั้งสภาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของผู้สมัครและพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และหน่วยงานของรัฐ" ที่เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 เป็นต้นมา ในช่วงเทศกาลสำคัญที่จะถึงนี้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมือง คงต้องยึด 2 ข้อนี้ให้ขึ้นใจ 1.สามารถไปร่วมงานประเพณีต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานบวช งานศพ และมอบพวงหรีดดอกไม้สดได้ แต่ต้องไม่มีการให้เงินหรือทรัพย์สินต่างๆ ยกเว้นกรณีที่ฝ่ายเจ้าภาพได้จัดเตรียมสิ่งของตามพิธีการไว้ให้มอบในงานด้วย เช่น ผ้าบังสุกุล ปัจจัย เป็นต้น หรือการระบุชื่อไว้เป็นประธานในงานกฐิน โดยผู้สมัครและ/หรือพรรคการเมืองไม่ได้มอบเงินหรือทรัพย์สินของตนเองสามารถกระทำได้ แต่ทั้งนี้ เจ้าภาพงานจะประกาศชื่อ หมายเลขสมัครของผู้สมัครและ/หรือพรรคการเมืองในลักษณะช่วยผู้สมัครหรือพรรคการเมืองนั้นหาเสียงเลือกตั้งไม่ได้ 2.มีความจำเป็นต้องจัดพิธีงานต่างๆ ในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง สามารถจัดงานได้เท่าที่จำเป็น เช่น งานศพ งานบวช งานแต่งงาน แต่ให้พึงหลีกเลี่ยงการจัดงานในลักษณะที่เป็นงานขนาดใหญ่ มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เพราะอาจเป็นเหตุให้มีการร้องคัดค้านว่าเป็นการจัดเลี้ยงหรือจัดมหรสพ อันเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งได้.

ลี้คิมฮวง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.