ขึ้นทะเบียน “มะม่วงเบาสงขลา”

ชาวสุราษฎร์ฯอาจคุ้นเคยคุ้นหู “สินิตย์ เลิศไกร เพราะเป็นถึงผู้แทนของจังหวัด แต่หลายคนในประเทศอาจยังไม่รู้ว่า “พี่ดำ”-สินิตย์ เป็นถึง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์”

อาจเป็นไปได้ว่าโดนรัศมี “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เจ้ากระทรวง และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ “รัฐมนตรีสินิตย์” สังกัดด้วย บดบังหมด อิอิ

ทว่า “สินิตย์” ได้รับการแบ่งงานให้ดูแลกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ ล่าสุด มีข่าวน่ายินดี จากที่กระทรวงมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าท้องถิ่นชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในพื้นที่แหล่งผลิตสินค้าในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ตลอดจนส่งเสริมการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และขยายช่องทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

“รมต.ดำ” จึงนำของดี-เด็ดภาคใต้ อย่าง “มะม่วงเบาสงขลา” ทั้งผลสดและแปรรูป ซึ่งเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ขึ้นทะเบียนGI  

สินิตย์ บอกว่า ทั้งในแง่ของคุณภาพและอัตลักษณ์รสชาติโดดเด่นมีรสชาติเปรี้ยว เนื้อแน่นและกรอบ เกิดจากการปลูกในสภาพดินร่วนปนทรายที่มีการทับถมของซากเปลือกหอยส่งผลให้มะม่วงเบาสงขลามีรสชาติดีกว่าพื้นที่อื่นๆ โดยพื้นที่ปลูกมะม่วงเบาสงขลาที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ครอบคลุมปลูก 4 อำเภอของจังหวัด คือ อ.สิงหนคร อ.สทิงพระ อ.กระแสสินธุ์ และ อ.ระโนด

ในฐานะรัฐมนตรีเป็นเลือดปักษ์แท้ๆ จึงคุ้นเคยกับ “มะม่วงเบา” เป็นอย่างดี เขาว่ามะม่วงเบามีทั้งแบบผลสด แช่อิ่ม และดองเกลือ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมของคนในจังหวัดและนักท่องเที่ยวที่มักซื้อนำไปเป็นของฝากลือชื่อจากจังหวัด และมีศักยภาพสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรในชุมชนกว่า 58 ล้านบาท ต่อปี

แหม …เคยได้ยินชื่อน้ำลายก็สอแล้ว อ้อ เมนูน้ำมะบ่วงเบาใส่น้ำแข็งเย็นๆก็ชื่นใจไม่เบานะ ฮี้ๆ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

‘เสี่ยโอ๋’ ทำพรรคเอง

ปลีกตัวออกจาก ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังอยู่ช่วยงานพรรคมาตั้งแต่ปี 2562 ทุ่มเทไม่ว่าจะสวมบทบาทฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหาร