ไอ้หยา! นี่มัน “ผับจินหลิง” หรือ “น้ำมันเบนซิน” สาดไปตรงไหน ราดลงไปที่ใด ไฟก็ลุกพึ่บ เผาผลาญทุกอย่างแหลกลาญไปหมด
ตอนนี้มาถึงคิว “ผบ.เด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ใหญ่ตำรวจ
หลัง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ออกมาแฉ แกมาเปิดโปงนายทุนจีนสีเทาของผับจินหลิง โยงไปถึงการแอบแฝงเปิดบ่อนพนันขนาดใหญ่ในผับแห่งนี้
จนตามมาด้วยการจับกุม “ตู้ห่าว” นายทุนใหญ่ รวมทั้งเครือข่ายแวดล้อม ยึดทรัพย์มูลค่าหลายพันล้าน
ลามไปถึงการเชือด “ตำรวจ” ไม่ว่าจะนายร้อย นายพัน ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จากคดีจินหลิง ถูกจับ ถูกไล่ออก กันไปเป็นแถว
จากนั้น “ชูวิทย์” ก็มาเขย่าสำนวนคดีในมือนครบาล มีความบกพร่อง มีช่องว่าง มีช่องโหว่ ให้เหล่าทุนจีนอาจหลุดรอดลอยนวล เรียกร้องให้ “ปลด” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. หรือ “บิ๊กจ้าว”
แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีสัญญาณตอบรับจาก “ผู้บังคับบัญชา” ระดับ ตร.
พอผ่านพ้นปีใหม่ 2566 “อดีตเจ้าพ่ออ่าง” เลยจัดหนัก จัดเต็ม หันไม้หน้าสามฟาดแสกหน้า “ผบ.เด่น” เต็มๆ
โดยเฉพาะโพสต์ล่าสุด ที่เป็นคลิปวงจรปิดภายในบ่อนพนัน ที่ถูกอ้างว่าอยู่ในบริเวณ “ผับจินหลิง” มีภาพเงินไทยกองเต็มเคาน์เตอร์แลกชิป และกล้องวงจรปิดระบุวันที่ก่อนเกิดเหตุที่ “จินหลิง” เพียง 1 อาทิตย์
แต่ที่เหมือนตีแสกหน้า “ผบ.เด่น” ก็ตรงหัวเรื่องที่โพสต์
“ไม่มีบ่อนในกรุงเทพฯ?”
คือคำถาม คำสงสัย จาก “ชูวิทย์” ซึ่งดูจะส่งตรงไปถึง “ผบ.เด่น” แบบตรงๆ
ก็เพราะย้อนไปเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2565 "ผบ.เด่น” เคยออกมาพูดถึงบ่อนการพนันหลังจาก “ชูวิทย์” เริ่มออกมาแฉใหม่ๆ ในทำนองตอกกลับ “ชูวิทย์” ยืนยันไม่มีบ่อนในกรุงเทพฯ
“ตั้งแต่มารับตำแหน่ง ยังไม่มีเรื่องบ่อน ซึ่งที่มีการพูดถึงว่า มีบ่อนการพนันหลายร้อยแห่งในกรุงเทพมหานคร ก็ต้องดูให้ชัดเจนว่าการพูดออกมาต่างๆ นั้น เหตุเกิดตอนไหน ยังไง และหากมีบ่อนจริงตามที่กล่าวอ้าง ขอให้นำหลักฐานเข้าชี้แจงกับตำรวจ”
นี่ไง “เฮียชู” แกเลยจัดออกมาให้ “ผบ.เด่น” ประจักษ์
ส่วนจะเป็นบ่อนพนันจริงๆ ในกรุงเทพฯ และเพิ่งเปิดเล่นกันโจ๋งครึ่มตามข้อกล่าวอ้างหรือไม่ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน และทีมงานจเรตำรวจระดับผู้บัญชาการ 2 นาย รวมทั้ง ผบช.ก., รอง ผบช.ก. และ ผบก.ป. ที่มาเป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต้องมีคำตอบ
จะเร็วหรือจะถึง 15 วัน ตามที่ “ผบ.เด่น” ขีดเส้นเอาไว้แค่ไหน อย่างไร ก็ต้องรีบทำ ต้องเร่งให้เร็วที่สุด
หาก “บ่อน” มีจริง ก็ต้องรายงานให้ “ผบ.เด่น” ลงโทษ ลงทัณฑ์ ในความบกพร่องของ ผกก.พื้นที่ ผู้การฯ พื้นที่ ผู้บัญชาการพื้นที่ รวมทั้งขยายผลไปถึงการมีส่วนร่วมรู้เห็นหรือมีผลประโยชน์หรือไม่ด้วย
เฉกเช่นเดียวกัน หากตรวจสอบแล้ว “ไม่มีบ่อน” รวมทั้งตรวจสอบคลิปที่ถูกนำมาเปิดเผยว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร เหตุใดถึงมาใส่ความตำรวจ แล้วก็ต้องดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ที่มาเปิดเผย มาทำให้องค์กร "ตำรวจ” เสียหาย
ครั้งนี้ถ้า “ผบ.เด่น” ไม่เอาจริงเอาจัง แม้จะอยู่บนเก้าอี้เบอร์ 1 กรมปทุมวัน เพียงปีเดียว
อาจอยู่ไม่ครบเทอมก็ได้...ใครจะรู้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
องค์กรอาชญากรรมหรือ?
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว


