พอมีรูป แจ็ก หม่า แห่งอาลีบาบาของจีนมาปรากฏตัวที่กรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีคำถามว่า ชีวิตของมหาเศรษฐีจีนที่เคยดังเหมือนพลุวันนี้กลายเป็น “ผู้หลบลี้ภัยการเมือง” จากเมืองจีนจริงหรือ?
คำตอบคือใช่
หรืออาจจะกำลัง “กลับเนื้อกลับตัว” เพื่อกลับเข้าประเทศจีนและเปลี่ยนฐานะเป็น “ผู้อยู่เบื้องหลัง” มากกว่าจะเป็น “สัญลักษณ์ของผู้ประสบความสำเร็จระดับโลก” ของจีน
เพราะวันที่มีภาพและข่าวว่าแกมาเที่ยวเมืองไทยนั้น ก็มีรายงานข่าวจากเมืองจีนว่า แจ็ก หม่า ได้สละอำนาจการบริหารกลุ่ม Ant Group ในเครืออาลีบาบาแล้ว
แจ็ก หม่า ไม่ได้ใช้ชีวิตในประเทศจีนมาระยะหนึ่งแล้ว
เป็นจังหวะเดียวกับที่มหาเศรษฐีจีนด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ก็ลดบทบาทในสังคมลงอย่างเห็นได้ชัด
เพราะรัฐบาลจีนและพรรคคอมมิวนิสต์จีนเริ่มมองเห็นความมั่งคั่งและอิทธิพลของธุรกิจยักษ์เหล่านี้กำลังจะมีผลกระทบต่อสถานภาพของผู้มีอำนาจทางการเมืองมากขึ้นทุกที
เดือนก่อนมีข่าวว่า แจ็ก หม่า แสดงตนที่ญี่ปุ่น
และได้ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ ที่นั่นมาไม่น้อยกว่า 6 เดือนแล้ว
หลังจาก “หายตัวไปจากสายตาสาธารณะ” เนื่องเพราะทางการปักกิ่งสั่งตรวจสอบพฤติกรรมของบริษัทเทคโนโลยีของจีนหลายแห่ง
โดยเริ่มที่ แจ็ก หม่า แห่งอาลีบาบานี้แหละ
ข่าวเดือนก่อนบอกว่า แจ็ก หม่า ใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่นแบบ “รักษาความเป็นส่วนตัว” มาก
ใช้เวลากับงานอดิเรกต่างๆ เช่น วาดภาพสีน้ำ สะสมงานศิลปะ แช่น้ำพุร้อน และเล่นสกีในชนบทนอกกรุงโตเกียว
มีคนเห็นแกไปใช้บริการของสโมสรไฮโซสุดพิเศษในย่านกินซ่าและมารุโนะอุจิของโตเกียว
และยังกระทบไหล่กับนักธุรกิจชาวจีนผู้มั่งคั่งที่หลบออกจากจีนและย้ายไปพำนักที่เมืองหลวงของญี่ปุ่นเช่นกัน
ข่าวบางกระแสบอกว่า แจ็ก หม่า ในวัย 58 ปี ได้ส่งไม้ต่อด้วยการมอบอำนาจการบริหารธุรกิจในเครือส่วนใหญ่ให้กับผู้บริหารอายุน้อยแล้ว
และหันไปลงทุนในธุรกิจที่ฉีกแนวเทคโนโลยี โดยเน้นที่กิจกรรมเกี่ยวกับความยั่งยืนและแก้ปัญหาโลกร้อนแทน
ถามว่าอะไรคือ “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้ผู้นำจีนต้อง “จัดการ” กับแจ็ก หม่า
ก็ต้องย้อนกลับไปที่เหตุการณ์เมื่อเดือนเดือนตุลาคม ปี 2020
แกขึ้นเวทีวิพากษ์การทำงานของหน่วยงานกำกับดูแลของจีน
ว่าล้าสมัย ไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก
โดยที่แจ็ก หม่า จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม คนที่ฟังอยู่ข้างล่างเวทีวันนั้นมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งสำคัญทั้งปัจจุบันและอดีตเกี่ยวกับการควบคุมดูแลกฎกติกาทางการเงินของประเทศทั้งนั้น
ไม่กี่วันหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ฟ้าก็ผ่าลงที่แจ็ก หม่า ทันที
รัฐบาลจีนสั่งระงับการเสนอขายหุ้น IPO ต่อประชาชนครั้งแรกมูลค่า 37,000 ล้านดอลลาร์ ของ Ant Group ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเงินออนไลน์ที่ต่อยอดมาจาก Alipay
เป็นแอปชำระเงินผ่านมือถือในเครือของอาลีบาบา
ถือเป็นการ “เบรก” งานใหญ่อย่างกะทันหันที่มีผลทำให้ราคาหุ้นของอาลีบาบาร่วงทันที
แจ็ก หม่า สูญเสียสถานะความเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของจีนอย่างฉับพลันเช่นกัน
ไม่ต้องสงสัยว่าแกรู้ตัวทันทีเช่นกันว่าได้เหยียบตาปลาของผู้มีอำนาจเสียแล้ว
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แจ็ก หม่า ก็เก็บตัวเงียบ ยกเลิกการปรากฏตัวทางทีวีและหลีกเลี่ยงสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหมดเช่นกัน
หลังจากเก็บตัวเงียบระยะหนึ่งก็เริ่มมีข่าวว่ามีผู้พบเห็นแกบนเรือยอชต์ลำหนึ่งที่เกาะมายอร์กาของสเปน
และไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยของเนเธอร์แลนด์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน
และไปปรากฏตัวที่สนามกอล์ฟในสาธารณรัฐเช็กด้วย
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทางการจีนต้องมีความหวาดหวั่นต่ออิทธิพลของธุรกิจเทคโนโลยีของแจ็ก หม่า และเจ้าอื่นๆ คือ การที่ชีวิตประจำวันของคนจีนส่วนใหญ่ผูกติดกับบริการผ่านมือถือมากขึ้นทุกที
ไปๆ มาๆ ชาวบ้านจีนอาจจะมีความผูกพันกับเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันมากกว่าศรัทธาต่อพรรคคอมมิวนิสต์ก็ได้
นั่นเท่ากับเป็นการสั่นคลอนฐานอำนาจรัฐอย่างน่าสะพรึงกลัวสำหรับผู้นำของจีนทั้งในพรรคและในรัฐบาล
คนจีนหลายร้อยล้านคนยอมรับว่า ต้องใช้บริการผ่านมือถือ เช่น แอป Alipay ของ Ant Group เพื่อจ่ายค่ากาแฟ หรือแม้แต่สั่งเกี๊ยวมาที่ประตูบ้านหรือเติมมิเตอร์ไฟฟ้า
รวมถึงใช้แอปเพื่อการออมเงิน, กู้เงินและการจับจ่ายใช้สอยทุกประเภท
Alipay มาเกี่ยวกับชีวิตประจำวันมากขึ้นตลอดเวลาจนแทนบัตรเครดิต
นอกจากนี้ผู้บริโภคจีนก็ยังใช้จ่ายเงินในตลาดออนไลน์ของอาลีบาบามากขึ้นทุกที
เช่น กรณีแอป Taobao ซึ่งแปลว่า "ตามล่าหาสมบัติ" นำเสนอผลิตภัณฑ์เกือบทุกอย่างสำหรับตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคนจีน
วิธีของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่จะ “ต้อนเข้าคอก” บรรดาอภิมหาเศรษฐีทางเทคโนโลยีก็คือ การเน้นถึงนโยบาย “รุ่งเรืองร่วมกัน” (Common prosperity) อันเป็นเสาหลักเสาหนึ่งของการบริหารของเขา
นั่นคือการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ภาพที่เห็นความมั่งคั่งกระจุกตัวในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีไม่กี่กลุ่มที่เริ่มส่อไปในทางการผูกขาดตลาดในหลายๆ มิติ ขณะที่ประชาชนคนจีนส่วนใหญ่ยังมีรายได้ที่ต่ำกว่าที่ควรจะมีนั้นทำให้ สี จิ้นผิง ต้องใช้อำนาจในการ “ปรับดุลยภาพ” ของสังคม
ไม่ช้าไม่นาน บรรดาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของจีนก็ประกาศบริจาคเงินจำนวนมหาศาลเพื่อช่วยรัฐบาลในการพัฒนาส่วนอื่นๆ ของประเทศ
ไม่ต้องสงสัยว่าความเคลื่อนไหวพร้อมๆ กันของเหล่ามหาเศรษฐีเหล่านี้คงไม่ได้เกิดขึ้นในลักษณะของความบังเอิญ
หากแต่มีแรงกดดันอย่างแรงจากผู้มีอำนาจที่ส่งสัญญาณชัดเจนว่า หากผู้ร่ำรวยทั้งหลายในประเทศจีนไม่แสดงความพร้อมที่จะช่วยรัฐบาลสร้าง “ความเป็นธรรม” ให้กับสังคมเมืองและชนบท ธุรกิจเทคโนโลยีก็จะถูกมาตรการควบคุมที่เข้มข้นขึ้นอย่างมาก
แจ็ก หม่า กลายเป็นตัวอย่างของกรณี “เชือดไก่ให้ลิงดู” ครั้งนี้อย่างกระจ่างชัด
เราจึงเห็นการปรับตัวครั้งใหญ่ในพฤติกรรมของธุรกิจเทคโนโลยีของจีนในช่วงหลังนี้
ที่ต้องแสดง “ความรักชาติ” ด้วยการเสียสละเงินทองเพื่อ “ช่วยชาติ”
เท่ากับว่าใคร “ช่วยรัฐบาล” และ “ช่วยพรรค” ก็เท่ากับ “ช่วยชาติและประชาชน” ไปในตัว
เรายังเห็น แจ็ก หม่า มาเดินเที่ยวในกรุงเทพฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาในฐานะ “นักท่องเที่ยว” แทนที่จะเป็น “นักธุรกิจระดับโลก” ที่มาต่อรองเรื่องสร้างเครือข่ายธุรกิจอย่างที่เราเห็นเมื่อหลายปีก่อน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


