โลกเตรียมรับมือ เมื่อจีนเปิดประเทศ!

จีนเปิดประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากใช้มาตรการควบคุมโควิดอย่างเข้มข้นมาเกือบ 3 ปี

นับย้อนหลัง จีนใช้นโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์” มาทั้งหมด 1,016 วันพอดี

และเป็นช่วงจังหวะที่ใกล้ตรุษจีนที่ถือได้ว่าจะเป็นการทดสอบความสามารถของทางการจีนที่จะ “เปิดประเทศ” ได้อย่างปลอดภัยและราบรื่นได้เพียงใด

หรือถ้าหากเกิดการระบาดของโควิดที่รุนแรงอีกครั้ง จะมีมาตรการตั้งรับอย่างไร

เป็นความท้าทายที่ทั้งโลกจับตามองอย่างใกล้ชิด

เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่สำหรับการส่งออก และเป็นแหล่งของนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของโลก

อีกทั้งยังต้องพิจารณาว่าความสัมพันธ์ของจีนกับส่วนอื่นๆ ของโลก “หลังการระบาดของโควิด” จะมีการปรับเปลี่ยนไปในทางใด

ยิ่งสำหรับประเทศไทยแล้ว การรอคอยให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาอีกครั้งกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะป

ระเมินว่าเศรษฐกิจของไทยในปีใหม่นี้จะมีอัตราโตมากน้อยเพียงใด

สิ่งแรกที่เกิดเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมาคือ คำประกาศว่าใครจะเดินทางเข้า-ออกจีนไม่ต้องตรวจหาโควิด...และไม่มีมาตรการกักตัวอีกต่อไป

เริ่มด้วยคนฮ่องกงที่จะข้ามไปเมืองเซินเจิ้นได้อย่างเสรีเป็นจุดทดสอบแรกของนโยบายปลดล็อกโควิดเลยทีเดียว

ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้คนที่บินเข้าประเทศจีนจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านหรือไปร้านอาหารและสถานที่อื่นๆ ได้โดยตรงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020

สำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าของจีนระบุว่า การเปิดพรมแดนกับฮ่องกงอีกครั้งจะดำเนินการ "อย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีระเบียบ"

ทางการจะอนุญาตให้เพิ่มเที่ยวบินจากฮ่องกงไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ และจำกัดยอดจำนวนผู้โดยสารให้อยู่ในระดับที่บริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทดสอบ PCR หลังจากผ่านเข้าสู่เมืองเซินเจิ้นไม่จำเป็นอีกต่อไปสำหรับผู้โดยสาร 60,000 คนที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางระหว่างฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ในแต่ละวัน

ระบบใหม่นี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมถึง 4 มีนาคม เพื่อให้ผู้คนจองช่วงเวลาผ่านแดนสำหรับจุดผ่านแดน 7 แห่ง วันนั้นผมเช็กตัวเลข ปรากฏว่ามีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 250,000 คน ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

รัฐบาลฮ่องกงแจ้งว่ามีเป้าหมายที่จะกลับมาให้บริการรถไฟความเร็วสูง ภายในวันที่ 15 มกราคม หลังจากหยุดไปเกือบ 3 ปี

บางคนบ่นว่าเว็บไซต์การจองการลงทะเบียนเกิดล่มในวันเปิดตัว

ชาวฮ่องกงบางส่วนกำลังรอวันตรุษจีนปลายเดือนนี้เพื่อกลับไปเฉลิมฉลองกับญาติหลังจากที่ไม่ได้ไปมาหาสู่กันมาเกือบ 3 ปี

ชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อยต่างเร่งรีบไปรับวัคซีน mRNA ที่มาจากต่างประเทศ เพราะหวั่นเกรงเหมือนกันว่าจะตกอยู่ในภาวะเสี่ยงหากจีนเปิดประตูเต็มที่

เพราะฮ่องกงก็กำลังรอผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนจากจีนหลั่งไหลเข้ามาที่เกาะแห่งนี้เช่นกัน

ตั้งแต่การระบาดใหญ่ของโควิด คนจีนที่ติดอยู่ต่างประเทศต้องดิ้นรนหาทางกลับบ้าน แต่ทางการจีนระงับการเดินทางเข้าประเทศภายใต้นโยบาย Zero Covid

ซึ่งหมายถึงมาตรการควบคุมการเดินทางเข้า-ออกประเทศอย่างเข้มงวดสำหรับทั้งคนจีนในประเทศและคนจากข้างนอก

นั่นคือการคุมเข้มหนังสือเดินทางที่เคร่งครัดกว่าทุกประเทศในโลก

สายการบินระหว่างประเทศหลายแห่งยกเลิกเที่ยวบินหลังจากปักกิ่งบังคับใช้การกักตัวในสถานที่ที่กำหนดสำหรับผู้เดินทางเข้ามา ซึ่งต้องผ่านการทดสอบ PCR อย่างต่อเนื่อง

แม้จะมีการผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ แต่นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าฮ่องกงหรือบินไปต่างประเทศอาจต้องรอคิวยาวไม่น้อย

เพราะสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติของจีนต้องรับมือกับคลื่นยักษ์ของการยื่นคำร้องจำนวนมหาศาล

ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีนบอกว่า ปัญหาเฉพาะหน้าคือจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศยังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติ

ต้องมีการแย่งชิงตั๋วเดินทางกันอย่างร้อนแรงพอสมควร

วงการวิเคราะห์เชื่อว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีนอาจกลับสู่ระดับปีก่อนโควิดภายในสิ้นปีนี้

คนจีนเตรียมเที่ยวก่อนตรุษจีนกันยาวนานพอสมควร

เขาเรียกช่วงนี้ไปถึงตรุษจีนว่าเป็น 40 วันแห่งการเคลื่อนที่ประชากรของจีนครั้งใหญ่ประจำปี

และเพราะโควิดที่ยับยั้งการฉลองตรุษจีนมาเกือบ 3 ปี พอเปิดประเทศปีนี้ก็จะเห็น “คลื่นมนุษย์” ของจีนที่คึกคักอย่างยิ่ง

สื่อทางการจีนบอกว่า หน่วยงานด้านการขนส่งของจีน ซึ่งรวมถึงรถไฟและสายการบินได้เตรียมรับมือกับ “40 วันของเทศกาลชุนหยุน” ก่อนตรุษจีนตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 มกราคมแล้ว

คาดว่าจะมีการเดินทางประมาณ 6.3 ล้านเที่ยว โดยใช้รถไฟของจีน

อ้างอิงจาก China Railway Caacnews.com รายงานโดยอ้างข้อมูลจาก Umetrip มีเที่ยวบินภายในประเทศมากกว่า 10,000 เที่ยวบิน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เท่ากับเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารต่อวันคาดว่าจะเกิน 1 ล้านคนเฉพาะวันนั้น

ตลอด 40 วันนี้ คาดว่าจะมีการเดินทางของผู้โดยสารประมาณ 2.095 พันล้านเที่ยวในปีนี้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 99.5 จากระดับปีที่แล้ว

ประเมินกันว่าปริมาณผู้โดยสารทางอากาศ ทางรถไฟจะพุ่งสูงถึงร้อยละ 70.3 ของระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิด

ไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์รายงานว่า มีแผนจะจัดสรรเครื่องบิน 753 ลำเพื่อการนี้

โดยมีเที่ยวบินเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 2,900 เที่ยวบิน และจำนวนที่นั่งผู้โดยสารน่าจะกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 87 ของระดับก่อนเกิดโรคระบาด

แอร์ไชน่าเตรียมจัดเที่ยวบิน 58,633 เที่ยว สำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีน

เท่ากับเพิ่มขึ้นร้อยละ 75.9 เมื่อเทียบเป็นรายปี

โดยมีการเติบโตแบบพุ่งพรวดพราดในเส้นทางภายในประเทศ

ปริมาณการขนส่งทางอากาศคาดว่าจะกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 73 ของระดับก่อนการระบาดของโควิด

 โดยจำนวนเที่ยวบินโดยสารที่จัดไว้ต่อวันสูงถึง 11,000 เที่ยว

การรถไฟจีนระบุว่า รถไฟ 6,077 ขบวน จุผู้โดยสารได้ 9.04 ล้านคน จะให้บริการในช่วงที่มีผู้โดยสารสูงสุดก่อนวันหยุด

ขณะที่รถไฟ 6,107 ขบวน บรรทุกผู้โดยสาร 9.14 ล้านคน จะถูกจัดไว้สำหรับเที่ยวกลับสูงสุด

ความจุผู้โดยสารเต็มพิกัดจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของช่วงก่อนโควิดถึงร้อยละ 11

นี่คือปรากฏการณ์ที่ต้องจับตาดู เพราะการเคลื่อนย้ายของประชากรจีนทันทีที่ประกาศนโยบาย “เปิดประเทศ” นั้นจะมีผลกระทบกว้างไกลทั้งโลก...รวมถึงไทยเราด้วยอย่างแน่นอน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จีน-อินเดีย: 'สันติภาพร้อน' ที่ทำให้ร่วมแก้วิกฤตพม่าไม่ได้

วิกฤตพม่าทำให้ผมคิดถึงความความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอินเดียวันนี้ เพราะหากสองยักษ์แห่งเอเชียทำงานร่วมกัน ไทยก็อาจจะเป็นมือประสานให้เกิดกระบวนการเจรจาในพม่าได้

บทเรียนสีหนุวิลล์สำหรับไทย

ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของจีนกับกัมพูชามาในหลายรูปแบบ...และหนึ่งในนั้นคือการสร้างสีหนุวิลล์เป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิง หรือที่เรียกว่า Entertainment Complex

อิหร่าน-อิสราเอล: ทุกฉากทัศน์ล้วนเสี่ยงสูง

คณะรัฐมนตรีสงครามหรือ War Cabinet ของอิสราเอลประชุมกันเคร่งเครียดมาหลายรอบ...สรุปได้เพียงว่าจะต้องตอบโต้อิหร่านแน่...แต่ไม่ระบุว่าเมื่อไหร่และด้วยยุทธการแบบใด

สิงคโปร์ผลัดใบการเมืองครั้งสำคัญ ‘หลี่’ (72) ส่งไม้ต่อ ‘หว่อง’ (52)

นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสิงคโปร์ Lawrence Wong ที่จะรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ต้องถือว่ามาจากครอบครัวชนชั้นทำงานจริง ๆ

“เซฟโซน” ฝั่งเมียวดีอาจจะเป็น ก้าวเล็กๆ ของกระบวนการเจรจา?

ความเคลื่อนไหวตรงข้ามชายแดนไทยฝั่งพม่ามีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา และความไม่แน่นอนนี้เองที่ทำให้รัฐบาลไทยต้องให้ความสำคัญกับการสร้างกลไกติดตามอย่างมีประสิทธิภาพ

ไบเดนควงคิชิดะ มาร์กอสประกาศสกัดการขยายอิทธิพลจีน!

ผมเห็นนายกฯฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่นปราศรัยต่อสภาคองเกรสสหรัฐฯเป็นภาษาอังกฤษปลายสัปดาห์ที่ผ่านมากล่าวหาจีนว่าเป็น “ภัยคุกคามต่อภูมิภาคนี้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน” แล้วก็พอจะรู้ว่าความตึงเครียดจะต้องถูกยกระดับขึ้นมาอย่างแน่นอน